ตะลึง! แม่บ้านยะลาคลอดทารก 3 ขา ศีรษะโต วอนช่วยเหลือ (ข่าวสด)
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 15 กันยายน ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังโรงพยาบาลศูนย์ยะลา ภายหลังทราบข่าวว่า พบเด็กคลอดออกมามีลักษณะที่ผิดปกติคือ มีสามขา ศีรษะโต ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีเด็กลักษณะดังกล่าวจริง เป็นบุตรของ นายมะแอเต็ง และ นางนิอาสียะ เจ๊ะแต ชาวตำบลบาเจาะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา โดยเด็กคนดังกล่าวได้คลอดด้วยการผ่าตัดเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม ที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ในการดูแลของแพทย์โรงพยาบาลศูนย์ยะลา ภายในห้องปลอดเชื้อเด็กหลังคลอด
สำหรับความผิดปกติทางร่างกายของเด็กรายดังกล่าวที่พบคือ เด็กมีศีรษะที่โตผิดปกติ รวมทั้งที่บริเวณระหว่างเท้าทั้งสองข้าง มีเท้าเพิ่มขึ้นมาอีก 1 ข้าง รวมเป็นสามขา นอกจากนั้นยังไม่สามารถระบุได้ว่าเด็กคนดังกล่าวมีเพศอะไร
นายแพทย์กุลเดช เตชะนภารักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ยะลา เปิดเผยว่า เด็กรายนี้เป็นบุตรคนที่ 4 ของครอบครัว หลังจากคลอดออกมาก็พบความผิดปกติคือมีลักษณะ 3 ขา และศีรษะโตกว่าปกติ เป็นเด็กที่ทางการแพทย์เรียกว่า ไฮโดรเซปเฟอรัส นอกจากนั้นยังพบความผิดปกติของอวัยวะภายใน คือกระเพาะปัสสาวะที่ผิวหนังบริเวณกระเพาะปัสสาวะไม่ปิด และมีทางเดินปัสสาวะกับรูทวารอันเดียวกัน ซึ่งเป็นพัฒนาการที่ผิดปกติ ทางการแพทย์เชื่อว่าน่าจะเป็นเด็กแฝด ที่เกิดมาแล้วไม่แยกจากกัน ขาที่สามที่เป็นขาตรงกลาง เป็นขาที่เห็นเป็นขาสองขาติดกัน จากการเอ็กซเรย์พบว่ากระดูกเชิงกรานมี 2 เชิงกราน
"การดูแลรักษาเบื้องต้นในขณะนี้ สำคัญที่สุดคือการผ่าตัดเปิดช่องทวารใหม่ เพื่อไม่ให้ไปรวมกับช่องทางเดินปัสสาวะ โดยการเปิดช่องทวารให้มาอยู่ที่หน้าท้อง เพื่อให้การขับถ่ายได้แยกออกไป ส่วนในเรื่องอื่นก็คงจะต้องเลี้ยงดูเด็กให้โตกว่านี้ เพื่อให้เด็กแข็งแรงขึ้น จากนั้นจะมีการพิจารณาเรื่องการผ่าตัดอีกครั้ง ซึ่งขณะนี้ก็อยู่ในความดูแลของแพทย์ศัลยกรรมเด็กอย่างใกล้ชิด ส่วนเพศของเด็กในขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้" ผอ.รพ.ศูนย์ยะลา กล่าว
นายแพทย์กุลเดช ยังได้กล่าวอีกว่า ในขณะนี้ทางแพทย์ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันการติดเชื้อ รวมทั้งความผิดปกติทางด้านสมอง ซึ่งจะต้องดูแลเป็นพิเศษเช่นกัน ส่วนค่าใช้จ่ายในการรักษานั้น เด็กรายนี้ก็ใช้สิทธิ์ประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือสิทธิ์ยูซี เพราะฉะนั้นในเรื่องของค่าใช้จ่ายในการรักษา ทางสำนักประกันสุขภาพก็เป็นผู้รับผิดชอบอยู่แล้ว แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ ค่าใช้จ่ายของครอบครัวเด็กจะต้องมีมากขึ้น เนื่องจากผู้เป็นพ่อแม่จะต้องเดินทางมาเยี่ยมดูบุตรบ่อยครั้ง ซึ่งทราบว่าทั้งสองรายมีอาชีพรับข้างกรีดยาง ที่ไม่มีฐานะทางการเงิน ค่าใช้จ่ายการเดินทางมาโรงพยาบาลก็จะเป็นภาระที่ค่อนข้างหนักของครอบครัว
นายมะแอเต็ง เจ๊ะแต อายุ 46 ปี บิดาของเด็ก เปิดเผยว่า ตนเองมีอาชีพรับจ้างกรีดยาง มีรายได้ไม่มากนัก มีบุตรรวม 4 คน คนนี้เป็นบุตรคนที่ 4 ซึ่งหลังจากที่ภรรยาคลอดโดยการผ่าตัด ร่างกายก็ยังไม่แข็งแรง ต้องนอนพักผ่อนอยู่ที่บ้าน ทำให้ตนต้องออกไปกรีดยางเพียงคนเดียว ไม่สามารถเดินทางไปเยี่ยมบุตรที่โรงพยาบาลได้ การเดินทางจากบ้านที่ อ.บันนังสตา ไปยังโรงพยาบาล มีค่าใช้จ่ายพอสมควร ขณะนี้รายได้จากการกรีดยางก็มีไม่มากนัก จะต้องใช้จ่ายภายในครอบครัว
"หากผู้มีจิตศรัทธาท่านใดอยากจะช่วยเหลือด้านค่าใช้จ่ายในการเดินทาง สามารถบริจาคโดยตรงได้ที่ บัญชีชื่อ นายมะแอเต็ง เจ๊ะแต หมายเลขบัญชี 261-2-281-255 ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาบันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา ตนจะขอขอบคุณเป็นอย่างมาก" นายมะแอเต็ง กล่าว
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
