'เจ๊เบียบ' สะอื้นถูกกล่าวหาทำลายชื่อเสียงกองทัพ (ไทยรัฐ)
"ระเบียบรัตน์" สุดจะกลั้นน้ำตา ถูกกล่าวหาทำลายชื่อเสียงกองทัพ ลั่นสู้ตายหยุดไม่ได้แล้ว แม้ถูกข่มขู่ ทวงสัญญาสุภาพบุรุษจากนายกฯ ที่เคยบอกจะดูแลผู้หญิง เดินสายถึง ปธ.วุฒิสภาฯ พลักดัน กม.คุ้มครอง
วานนี่้ (28 ก.ย.) ที่สมาคมเสริมสร้างครอบครัวให้อบอุ่น และ เป็นสุข นางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช นายกสมาคมเสริมสร้างครอบครัวให้อบอุ่นและเป็นสุข แถลงความคืบหน้ากรณีร้อยโทหญิงถูกล่วงละเมิดทางเพศจาก พล.อ.คนหนึ่ง สังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย ที่เป็นผู้บังคับบัญชาว่า ขณะนี้ตนถูกกล่าวหาว่า ทำให้กองทัพเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง แต่ไม่เป็นไร ตนยังยืนยันที่จะเดินหน้าต่อสู้ต่อไป โดยจะไปยื่นเรื่องกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน เพราะมีผู้ใหญ่ในสายทหารให้สัมภาษณ์ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่ตนยืนยันว่าไม่ใช่ เพราะเหตุที่เกิดเป็นสถานที่สาธารณะ ในสถานที่ราชการ จึงต้องให้คณะกรรมการสิทธิฯ ตรวจสอบให้ความเป็นธรรม เพราะขณะนี้ร้อยโทหญิงตกเป็นจำเลยสังคม ไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่การที่ทำเรื่องนี้ไม่มีอคติ
เมื่อแถลงถึงตอนนี้ นางระเบียบรัตน์ ได้มีน้ำตาคลอ และ สะอื้นเป็นระยะ ๆ จากนั้นได้กล่าวต่อว่า "เสียความรู้สึกที่ถูกกล่าวหาว่าทำให้กองทัพเสื่อมเสียชื่อเสียง การจะช่วยเหลือผู้หญิงคนหนึ่งกลับถูกดูถูกว่าเป็นการทำเพื่อผลประโยชน์ เพื่อชื่อเสียงของตัวเอง ตอนนี้ร้อยโทหญิงไม่มีที่จะยืนแล้ว ทำไมเวลาผู้ชายทำผิดจะต้องมีคนออกมาปกป้อง หรือภูมิใจกันหนักหนาว่าเป็นลูกผู้ชาย ทั้งที่ทำชั่ว ปัญหาคือผู้ชายสามารถทำอะไรก็ได้ ไม่มีความผิด ลูกผู้ชายไม่ทำกันแบบนี้ อยากถาม พล.อ.ท่านนั้นว่า ถ้าหากลูกสาว ภรรยา หรือแม่ของคุณโดนกระทำเช่นนี้บ้าง จะรู้สึกอย่างไร"
เมื่อถามว่า มีข่าวว่าถูกข่มขู่ รู้สึกกลัวหรือไม่ และถูกข่มขู่ในลักษณะใดบ้าง นางระเบียบรัตน์ตอบว่า ตามธรรมชาติของมนุษย์ทุกคนต้องกลัวอยู่แล้ว แต่คนเราตายครั้งเดียว ถ้าตายแล้วสังคมดีขึ้น ก็ไม่เสียดาย ตนทำงานเพื่อสังคมไม่มีค่าตอบแทน ไม่เคยเรียกร้องอะไรกับใคร ดังนั้นควรนำข้อเท็จจริงมาคุยกัน ทั้งนี้มีการข่มขู่โดยโทรศัพท์เตือนให้ระวังความปลอดภัย ปรามให้หยุดได้แล้ว แต่สำหรับครอบครัวตน ไม่กลัวอะไร หยุดไม่ได้แล้ว เพราะทุกวันนี้ก็ยับเยินเพราะพิษการเมืองอยู่แล้ว และล่าสุด มีรถแปลก ๆ มาซุ่มตามอยู่แถวหน้าบ้านร้อยโทหญิง ซึ่งร้อยโทหญิงได้มีการจดทะเบียนรถไว้แล้ว และเจ้าตัวเองก็ระบุว่ากลัว แต่ไม่ได้หนีไปไหน ยังคงพักอยู่ที่บ้านเหมือนเดิม แต่สามีร้อยโทหญิงระบุว่าหากไม่ไหว ก็ให้ลาออกจากราชการ
นางระเบียบรัตน์ กล่าวด้วยว่า เพิ่งทราบว่า ทหารที่มีชั้นยศนายพลขึ้นไปไม่มีบทลงโทษทางวินัย ต่างจากข้าราชการพลเรือน ตั้งแต่เสมียนถึงปลัดกระทรวง มีสิทธิถูกลงโทษเหมือนกัน ในเรื่องของการล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศ ถือเป็นความประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ในวันที่ 29 ก.ย. เวลา 08.00 น.จะไปยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี และรมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จากนั้นจะไปยื่นหนังสือกับประธานสภาฯ ประธานวุฒิสภาฯ กรรมาธิการทหาร เพื่อขอให้ผลักดันกฎหมายขจัดความรุนแรงในที่ทำงาน และขอความเป็นธรรมให้กับร้อยโทหญิง และมีความหวังกับการยื่นเรื่องกับหน่วยงานต่าง ๆ เพราะปัญหาจะได้ไม่ถูกกดให้อยู่ที่มืด น่าจะเป็นนิมิตหมายที่ดี
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
