บุกรวบพ่อเล้า แม่เล้า-นศ. ขายบริการข้างทาง (ไทยรัฐ)
ตำรวจภาค 4 บุกรวบ พ่อเล้า-แม่เล้า-นร.-นศ. ขายบริการข้างทาง เผยขายบริการทางเพศ มี ทุกจังหวัด ส่วนใหญ่จะนิยมใช้บริการกับเด็กหญิงอายุ 13-15 ปี โดยเฉพาะในตัวเมืองใหญ่ ๆ
เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 6 ตุลาคม พล.ต.ต.สุวิระ ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 20 นาย แบ่งกำลังออกเป็น 2 ชุด ๆ แรก เข้าตรวจสอบบ้านพักของนายประดิษฐ์ เห็งฟู อายุ 65 ปี หรือ ร้านลุงดิษฐ์อาหารตามสั่ง ตั้งอยู่เลขที่ 98/41 ม.16 ชุมชนเทพารักษ์ 5 ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น หลังได้รับรายงานว่า ร้านดังกล่าว ลักลอบเปิดให้หญิงวัยรุ่นใช้เป็นสถานที่ขายบริการทางเพศ พบหญิงสาว อายุ 15 -19 ปี จำนวน 5 คน ให้บริการแขกอยู่ภายในห้อง แบ่งเป็นห้องเล็ก ๆ จำนวน 8 ห้อง ใช้สังกะสีเป็นผนังกั้น จึงคุมตัวหญิงสาวทั้งหมด และ นายประดิษฐ์ เจ้าของร้าน รวมทั้ง นายพลพีร์ คำปุนเจียม อายุ 23 ปี คนดูต้นทาง ถุงยางอนามัยที่ยังไม่ได้ ประมาณ 50 อัน ถุงยางอนามัยที่ใช้แล้วจำนวนหนึ่ง
ส่วนกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดที่ 2 ได้ทำการล่อซื้อ และจับกุม นางสาวประพิษ จันเกสร อายุ 46 ปี ทำหน้าที่เป็นแม่เล้า พร้อมหญิงวัยรุ่นขายบริการอีก 2 คน และเงินที่ใช้ล่อซื้อจำนวนหนึ่ง ที่ริมถนนเทพารักษ์ ตรงข้ามที่ทำการไปรษณีย์เทพารักษ์ ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น จากนั้นได้คุมตัวทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ดำเนินการตามกฎหมาย สำหรับนายประดิษฐ์ เบื้องต้นทราบว่า เปิดบ้านพักเป็นร้านอาหารตามสั่ง ชั้นบนใช้เป็นที่พักอาศัย ชั้นล่างกั้นเป็นห้อง เพื่อให้บริการกับหญิงและชายที่ขายบริการทางเพศ โดยคิดค่าบริการครั้งละ 50 บาทแถมถุงยางอนามัย 1 อัน ส่วนการขายบริการทางเพศ จะมีการติดต่อซื้อขายกันจากภายนอก ก่อนมาเปิดห้องพักชั่วคราวกระทั่งเสร็จกิจ ในแต่ละคืนก็มีผู้มาใช้บริการจำนวนมาก
นางสาวประพิษ กล่าวว่า เด็กหญิงส่วนใหญ่ เต็มใจมาหาเงินเอง โดยคิดค่าตัวกับแขกที่มาซื้อบริการราคาตั้งแต่ 600-1,500 บาท ส่วนค่านายหน้า จะได้ครั้งละ 300-500 บาท สำหรับวิธีการหาลูกค้า จะมายืนที่ริมถนนเทพารักษ์และถนนศูนย์ราชการ หากมีแขกมาสอบถาม ก็จะเรียกหญิงสาวมาให้ดูตัว และตกลงราคากัน จากนั้น จะให้หญิงขายบริการพาแขกไปเปิดห้องพักที่ร้านของนายประดิษฐ์ บางครั้งจะพาไปเปิดห้องพักในโรงแรม เมื่อหมดเวลาแขกก็จะพาเด็กมาส่งคืนให้ เด็กบางคน ทำงานคืนละ 1-3 ครั้ง
พล.ต.ต.สุวิระ ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 กล่าวว่า การขายบริการทางเพศ จะมีในทุกจังหวัด ส่วนใหญ่จะนิยมใช้บริการกับเด็กหญิงอายุ 13-15 ปี โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ ๆ เช่น จ.ขอนแก่น มีนักเรียน นักศึกษา เข้ามาเช่าหอพัก เพื่อเรียนหนังสือกันมาก บางครั้งเด็กเหล่านี้ จะถูกชักชวนให้ค้าประเวณี เพื่อนำเงินไปซื้อเสื้อผ้า และเที่ยวเตร่ แต่งตัวตามแฟชั่น การขายบริการทางเพศในปัจจุบัน มีทั้งเด็กหญิงและเด็กชาย ส่วนเอเย่นต์ พ่อเล้า แม่เล้า มีทั้งนักเรียน นักศึกษา สำหรับ นายประดิษฐ์ จากการสืบทราบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีการเปิดให้บริการในลักษณะของห้องเช่า ให้กับผู้ที่มาใช้บริการทางเพศมานานแล้ว โดยมีโครงข่ายกับพวกแม่เล้า ที่ยืนหาแขกอยู่ริมถนน จึงได้วางแผนจับกุม โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปลอมตัวเป็นนักเที่ยว ไปซื้อบริการกับหญิงสาว เป็นนักเรียน นักศึกษา ที่ยืนอยู่ริมถนนกับแม่เล้า จากนั้นแม่เล้าก็จะแนะนำให้มาเปิดห้องเช่ากับนายประดิษฐ์ ส่วน นางสาวประพิษ ยึดอาชีพเป็นแม่เล้า หาหญิงสาวมาขายบริการให้กับนักเที่ยวมานานเช่นกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำการล่อซื้อหญิงขายบริการกับนางสาวประพิษ ได้ 2 คน ทั้งสองคน เป็นนักศึกษาอยู่ในโรงเรียนแห่งหนึ่งในเมืองขอนแก่น ภายหลังการจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจค้นในกระเป๋าสะพายพบถุงยางอนามัยและเงินที่ใช้ล่อซื้อ รวมจำนวน 2,500 บาท ผู้ต้องหาทั้งสองคนจะถูกดำเนินคดีตาม มาตรา 9 เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไปซึ่งบุคคลใด เพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี สรุปคือ ผู้ใดพาเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ไปให้คนอื่นร่วมประเวณีติดคุกแน่นอน ไม่ว่าผู้นั้นจะเป็นพ่อ แม่ พี่ น้อง ญาติ เพื่อน
รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 กล่าวต่อว่า ในส่วนของ ตำรวจภูธรภาค 4 รับผิดชอบในพื้นที่ 11 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ได้กำชับสั่งการให้ทุกพื้นที่กวดขัน ปราบปราม จับกุม การค้าประเวณีของเด็กและเยาวชน ขบวนการค้าประเวณี อย่างจริงจังและต่อเนื่อง และร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ฝ่ายปกครอง พัฒนาสังคม ผู้แทนองค์กรเอกชน และชุมชนต่าง ๆ มีส่วนช่วยในการควบคุมดูแล ตลอดจนหามาตรการเพื่อป้องกันและปราบปราม เพื่อไม่ให้เด็กหญิงเข้าสู่อาชีพการขายบริการทางเพศได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจมีความมุ่งมั่นที่จะป้องกันปราบปรามและปรับเปลี่ยน ค่านิยมและวิธีคิดที่ไม่ถูกต้องของผู้ปกครองของเด็ก เยาวชน สตรีบางคนที่รู้เห็นเป็นใจเกี่ยวกับการค้าประเวณี ให้ปรับแนวความคิดใหม่ ที่จะไม่นำเด็ก เยาวชนสตรีมาค้าประเวณี เพื่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีต่อเยาวชนสตรีไทย และเพื่อป้องกันมิให้เด็ก เยาวชน สตรี ไม่ตกเป็นเหยื่อของการค้าประเวณีอีกต่อไป
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
