รมว. สาธารณสุข สั่งสอบด่วน วางยาเบื่อสุนัขที่กระทรวง (ข่าวสด)
บิ๊กสธ.โต้วุ่น เปล่าสั่งวางยาเบื่อฆ่าหมาในกระทรวง ยันเป็นการวางยาฆ่าหนูที่กัดต้นไม้ในสวนปลูกใหม่ แล้วหมาพลาดมากินเหยื่อพิษ ไม่เคยมีคำสั่งให้ฆ่าทิ้งหมาจรจัดในพื้นที่แต่อย่างใด ส่วนรมว.สาธารณ สุขสั่งสอบสวนให้รู้ผลใน 1 เดือน ทางด้านชมรมรักสุนัขจรจัด สธ. โวย ถ้ายังมีเหตุการณ์ซ้ำรอย จะยื่นถวายฎีกา เผยเหลือหมาเดนตายรอดชีวิตมาได้แค่ตัวเดียว
จากกรณี "ข่าวสด" ได้รับการร้องเรียนจากชมรมรักสุนัขจรจัด กระทรวงสาธารณสุข ว่ามีการสั่งจากผู้บริหารสธ.ให้วางยาเบื่อสุนัขในกระทรวง ทำให้สุนัขตายอย่างต่อเนื่องติดกันมา 3 ตัว โดยมีภาพสุนัขสิ้นใจตาย สร้างความสะเทือนใจเป็นอย่างมาก ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 ธันวาคม ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นางวณีย์ สัตยารมณ์ ข้าราชการเออร์ลี่รีไทร์ ในฐานะประธานชมรมรักสุนัขจรจัด สธ. พร้อมด้วยสมาชิกอีกประมาณ 7 คน นำป้ายที่มีภาพของสุนัขที่เสียชีวิต และเขียนว่าใครเป็นผู้บงการ มาพบผู้บริหารกระทรวง โดยมีการเรียกสมาชิกทั้งหมดเข้าร่วมประชุมกับผู้บริหารกระทรวง มี น.พ.เสรี หงษ์หยก รองปลัดสธ. ทำหน้าที่ในการเจรจาและรับฟังข้อร้องเรียน
นางกาญจนาภรณ์ วงษ์จริต ตัวแทนสมาชิกชมรมรักสุนัขจรจัด กล่าวว่า การร้องเรียนครั้งนี้เพื่ออยากขอความเป็นธรรม เนื่องจากสุนัขดังกล่าว ทางชมรมได้เลี้ยงมาเป็นเวลานาน บางตัวเกือบ 10 ปี ที่ช่วยกันดูแล โดยผู้บริหารกระ ทรวงชี้แจงว่า ไม่มีใครเป็นคนบงการ แต่เป็น การกระทำโดยพลการของคนสวน เพราะเห็นว่าต้นไม้บางส่วนที่กำลังจัดสวนใหม่ถูกทำลาย จึงอยากให้มีการสอบเรื่องนี้ให้แน่ชัด เพราะคนสวนยอมรับว่ามีคำสั่งจากผู้บริหารให้กำจัดสุนัขจริง แต่เมื่อถามไปยังผู้บริหารคนดังกล่าวกลับบอกว่าไม่ได้สั่งการ เพียงแต่ให้คนสวนวางยาเบื่อเพื่อกำจัดหนู แต่สุนัขไปกินอาหารที่ถูกวางยาเอง จนทำให้สุนัขตายไปแล้ว 3 ตัว
"รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และอยากให้รับผิดชอบต่อการกระทำดังกล่าว และรับปากว่าต้องไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก เหมือนในอดีตที่มีการวางยาคราวเดียวกันเกือบ 50 ตัว ซึ่งเบื้องต้นทางผู้บริหารก็พยายามไกล่เกลี่ยให้ และรับปากว่าจะไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวอีก แต่ในส่วนของผู้สั่งให้ทำยังไม่ได้รับความกระจ่างนัก หากไม่ออกมาขอความเป็นธรรม เชื่อว่าคงมีสุนัขที่ต้องตายเพิ่มขึ้นอีกอย่างแน่นอน" นางกาญจนาภรณ์ กล่าว
นางกาญจนาภรณ์ กล่าวว่า ทางชมรมได้ตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2547 และมีข้าราชการให้ความช่วยเหลืออยู่ร่วมกัน ทั้งสุนัขในกระทรวงและนอกกระทรวง หากมีการติดต่อว่าเดือดร้อนก็จะไปช่วยเหลือกัน เช่น การรักษา การทำหมัน ให้อาหาร โดยมีการแบ่งหน้าที่กันดูแลอย่างดี โดยสุนัขที่อยู่ในกระทรวงสาธารณสุข ก็ไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้ใคร อย่างไรก็ตาม หากพบว่าสุนัขภายในกระทรวงยังถูกกำจัดอยู่ ทางชมรมและข้าราชการที่มีใจรักสุนัข จะร่วมกันลงชื่อเพื่อยื่นหนังสือถวายฎีกา เพื่อขอความเป็นธรรมให้แก่สุนัข และเพื่อไม่ให้มีการกระทำเช่นนี้เกิดขึ้นอีก
ทางด้านนายวิทยา แก้วภราดัย รมว. สาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขไม่มีนโยบายที่จะให้กำจัดสุนัขจรจัดที่อาศัยอยู่ในกระทรวง พร้อมกันนี้ได้สั่งการให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง ไปสอบสวนหาข้อมูลที่เท็จจริงของการเสียชีวิตของสุนัข นำผลมารายงานให้ทราบก่อนวันที่ 30 ธันวาคม
ส่วนน.พ.เสรี หงษ์หยก รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เบื้องต้น ได้รับรายงานจากผู้อำนวยการกลุ่มบริหารงานทั่วไป สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดจ้างให้มีการปรับปรุงสวนบริเวณลานพระอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร หน้าสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข และมีหนูมากัดทำลายต้นหูปลาช่อนที่ปลูกบริเวณรอบ ๆ ทำให้บริษัทไม่สามารถส่งมอบงานที่จะครบกำหนดสัญญาในวันที่ 25 พฤศจิกายนได้ กระทรวงสาธารณสุขจึงได้ให้บริษัทนำกรงดักหนูมาวางบริเวณรอบ ๆ บริเวณที่เสียหาย แต่เนื่องจากบริษัทยังไม่ได้นำกรงดักหนูมา ดังนั้นผู้ที่จัดสวนซึ่งเป็นลูกจ้างของบริษัท จึงได้ใช้ปลาทูคลุกกับยากำจัดแมลง นำไปวางบริเวณโคนต้นไม้ประมาณ 4 จุด เพื่อเบื่อหนู คาดว่าสุนัขจะได้กลิ่นปลาทู เข้าไปกินปลาทูที่คลุกยาดังกล่าว ทำให้ตายไป 3 ตัว ซึ่งได้สั่งให้บริษัทที่รับจัดสวนเข้ามาเก็บเหยื่อที่คนสวนนำไปวางไว้ทั้งหมด ตั้งแต่วันที่ 26 พฤศจิกายน แต่ก็ยังมีสุนัขตายเพิ่มอีก 2 ตัว กระทรวงสาธารณสุขกำลังตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป
"ทราบดีว่าทางชมรมได้ดูแลสุนัขมาอย่างต่อเนื่อง คงยังไม่สั่งให้ย้ายสุนัขออกไปจากพื้นที่ เพราะจะต้องเตรียมพร้อมในหลาย ๆ เรื่อง เช่น สถานที่ที่ให้สุนัขอาศัยใหม่ ที่ต้องดีกว่าเดิม แต่เชื่อว่าผู้รักสุนัขอาจจะไม่ยอม และต้องอาศัยเวลา แต่ได้กำชับทั้งทางเจ้าหน้าที่และผู้เลี้ยงสุนัข ให้ดูแลอย่างดีแล้ว" น.พ.เสรี กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีการนำเสนอข่าวดังกล่าว ข้าราชการกระทรวงสาธารณสุข ได้วิพากษ์วิจารณ์ถึงสาเหตุการตายของสุนัข ส่วนสุนัขที่ยังเหลืออยู่ 1 ตัว ได้อยู่ในความดูแลของแม่บ้านสธ.เกือบตลอดเวลา ข้าราชการต่างเดินมาดูและให้ความสนใจเป็นพิเศษ เนื่องจากสุนัขตัวดังกล่าวเป็นที่เอ็นดู เพราะนิสัยเรียบร้อย และไม่เคยทำความเดือดร้อนให้ใคร
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
