"เดนมาร์ก"แชมป์ถล่มไทย 3-0 ศึกคิงส์คัพ (คมชัดลึก)
แข้งไทยสร้างปฏิหาริย์ไม่สำเร็จพ่าย "โคนม" เดนมาร์ก 0-3 ได้แค่อันดับ 3 ลูกหนัง "คิงส์คัพ" ครั้งที่ 40 ขณะที่ เดนมาร์ก ทำสถิติครองแชมป์เป็นสมัยที่ 3 ส่วนยอดค่าบัตรผ่านประตูเก็บได้ 4 ล้านบาทบริจาคช่วยเหลือเฮติ
การแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน "คิงส์คัพ" ครั้งที่ 40 ที่สนามเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ จ.นครราชสีมา ดวลแข้งกันเป็นนัดสุดท้ายเมื่อวันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา คู่แรก โปแลนด์ ที่มี 3 แต้มจากการ แพ้ เดนมาร์ก 1-3 ชนะ ไทย 3-1 พบ "ลอดช่อง" สิงคโปร์ ที่พ่ายรวดแพ้ ไทย 0-1 แพ้ เดนมาร์ก 1-5 ยังไม่มีแต้ม ผลปรากฏว่าโปแลนด์ไล่ถล่มชนะไป 6-1 มีเพิ่มเป็น 6 แต้มผลต่างประตูได้เสียบวก 5 ต้องไปลุ้นแชมป์จากผลคู่ที่สองต่อไป
คู่ที่สอง "แชมป์เก่า" เดนมาร์ก ที่มี 6 แต้ม พบ "ช้างศึก" ไทย ที่มี 3 แต้ม ทีมไทยส่งผู้เน 11 คนแรกลงสนามประกอบด้วย ผู้รักษาประตู กิตติศักดิ์ ระวังป่า, คู่เซนเตอร์แบ็ก ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์ กับ ภานุพงษ์ วงศา, แบ็กขวา สุทธินันท์ พุกหอม, แบ็กซ้าย รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค, กองกลาง ณรงค์ชัย วชิรบาล, ชลทิตย์ จันทคาม, สุธี สุขสมกิจ, สุรีย์ สุขะ, กองหน้า ธีรเทพ วิโนทัย กับ กีรติ เขียวสมบัติ
เปิดเกมเล่นมานาที 19 กองเชียร์ในสนามกว่า 2 หมื่นคนต้องเงียบกริบเมื่อ มิชาเอล โครน์ เปิดลูกเตะมุมฝั่งซ้ายให้ เลคิค ราจ์โก ขึ้นโขกบอลตัดหน้า กิตติศักดิ์ ที่ออกมาตัดบอลไม่ถึงตูมเดียวตุงตาข่ายเป็นประตูให้เดนมาร์กออกนำ 1-0 ถัดไปนาที 36 เลคิค ราจ์โก งัดบอลข้ามแนวรับให้ โจฮาน อับซาโลนเซน ซัดเต็มเหนี่ยวในระยะเผาขนบอลพุ่งเรียดเข้าเสียบก้นตาข่ายขยับสกอร์ให้เดนมาร์กนำห่าง 2-0 ก่อนจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลังทีมไทยเปลี่ยนผู้รักษาประตูส่ง กวิน ธรรมสัจจานันท์ ลงแทน กิตติศักดิ์ ก่อนจะส่ง ดัสกร ทองเหลา แทน ณรงค์ชัย ในนาที 62 และเอา อานนท์ สังสระน้อย แทน กีรติ นาที 65 โดยเกมของไทยที่ได้เสียงเชียร์จากแฟนบอลปลุกเร้าเริ่มมีลุ้นมากขึ้น นาที 70 สุทธินันท์ มีโอกาสยิงยัดใส้ในเขตโทษ แต่ จิม ลาร์เซน พุ่งโขกทิ้งได้แบบเหลือเชื่อ ท้ายเกมนาที 80 ทีมไทยส่ง เทิดศักดิ์ ใจมั่น ลงแทน ธีรเทพ
นาที 86 มาร์ติน เบิร์นเบิร์ก มายิงประตูปิดท้ายให้เดนมาร์กชนะ 3-0 ทำสถิติชนะ 3 นัดรวดได้ครองถ้วยพระราชทาน "คิงส์คัพ" เป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกันและเป็นการคว้าแชมป์สมัยที่ 3 ในรายการนี้ ส่วน โปแลนด์ มี 6 แต้มได้รองแชมป์ ไทยมี 3 แต้มได้อันดับที่ 3 และสิงคโปร์แพ้รวด 3 นัดได้บ๊วย ซึ่งหลังจบเกมมีพิธีปิดสนามอย่างเป็นทางการ โดยมี พลเรือเอกชุมพล ปัจจุสานนท์ องคมนตรีผู้แทนพระองค์ฯเป็นประธานในพิธี
สำหรับฟุตบอล "คิงส์คัพ" ครั้งนี้มียอดรายได้ค่าผ่านประตูตลอดทั้ง 3 วันเป็นเงินจำนวน 4 ล้านบาท ซึ่งฝ่ายจัดฯจะนำรายได้ทั้งหมดไปบริจาคช่วยเหลือประเทศเฮติที่ ประสบอุบัติภัยแผ่นดินไหวจนผู้คนล้มตายกว่า 2 แสนคน และจะมีการทำพิธีมอบเงินผ่านให้กับ นายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ นายกรัฐมนตรีในวันที่ 25 มกราคมนี้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ไทยรัฐ, คมชัดลึก
