อุตรดิตถ์ เล็งฟื้นสนามบินร้าง เล็งเป็นสถานที่พักผ่อน

"อุตรดิตถ์"เล็งฟื้นสนามบินร้างเล็งเป็นสถานที่พักผ่อน-ออกกำลังกาย "นกมินิ"จ่อเปิดบิน"กทม.-น่าน" (มติชนออนไลน์)

         อบจ.อุตรดิตถ์ เสียดายงงบฯ เตรียมหารือนายอำเภอ-เทศบาลตำบลผาจุก ใช้พื้นที่สนามบินร้างเล็งทำเป็นสถานที่พักผ่อน-ออกกำลังกายให้ชาวบ้าน นกแอร์เตรียมขอเปิดบินกรุงเทพฯ-เลย อีกครั้ง "นกมินิ" เตรียมเปิดเที่ยวบินกรุงเทพฯ-น่าน เพิ่มขนาดเครื่องบินไปเชียงใหม่

         เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ นายพีระศักดิ์ พอจิต นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุตรดิตถ์ ให้ความเห็นถึงกรณีสนามบิน จ.อุตรดิตถ์ หรือสนามบินบ้านวังยาง ตั้งอยู่หมู่ 3 ต.ผาจุก อ.เมืองอุตรดิตถ์ ถูกทิ้งร้างมาเป็นเวลานานว่า รู้สึกเสียดายงบประมาณ ทางจังหวัดอุตรดิตถ์หรือหน่วยงานที่ดูแลพื้นที่ดังกล่าวควรเข้าไปพัฒนาให้เกิดประโยชน์ เพราะเวลานี้ทราบว่ากลายเป็นจุดลักลอบซื้อขายยาเสพติดของกลุ่มวัยรุ่น

         นายพีระศักดิ์กล่าวว่า ทราบว่าพื้นที่สนามบินร้างกว่า 1,000 ไร่ เป็นพื้นที่สาธารณประโยชน์ อยู่ในการดูแลของ อ.เมืองอุตรดิตถ์ และเทศบาลตำบลผาจุก ทั้งนี้ ทาง อบจ.อุตรดิตถ์ จะหารือกับทั้งสองหน่วยงานว่ามีแผนหรือโครงการจะนำพื้นที่สนามบินไปใช้ประโยชน์อะไรหรือไม่ หากไม่มี อบจ.อุตรดิตถ์ พร้อมจะเข้าไปขอใช้พื้นที่ โดยมีแผนทำสองอย่างที่น่าจะเกิดประโยชน์ต่อชาวอุตรดิตถ์ คือ การเข้าไปพัฒนาให้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ นำเครื่องออกกำลังเข้าไปตั้งให้บริการกับประชาชนทั่วไป ให้เป็นปอดอีกแห่งของจังหวัด

         "ปัจจุบันโรงซ่อมเครื่องจักรกลของ อบจ.อุตรดิตถ์ มีพื้นที่ใช้งานจำกัด อบจ.อุตรดิตถ์ มีแผนขยับขยายโรงซ่อมเครื่องจักรกลหนัก หากอำเภอและเทศบาลตำบลผาจุกไม่ขัดข้องจะทำหนังสือขออนุญาตเข้าไปใช้พื้นที่ เพื่อทำเป็นโรงซ่อมศูนย์เครื่องจักรกลหนักของ อบจ.อย่างไรก็ตาม ทั้งสองแผนงานดังกล่าวจะต้องสอบถามความเห็นของประชาชนก่อน เพื่อไม่ให้เกิดแรงต่อต้านภายหลัง"  นายพีระศักดิ์กล่าว

         นายสมชัย มั่นเข็มทอง นายกเทศมนตรีตำบลผาจุก กล่าวว่า เดิมเทศบาลเคยหารือกับนายอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ เพื่อนำพื้นที่สนามบินเปิดให้ประชาชนเช่าปลูกหญ้าเพื่อการปศุสัตว์ เพราะใน ต.ผาจุก มีเกษตรกรเลี้ยงวัวจำนวนมาก แต่นายอำเภอไม่เห็นด้วย จึงยุติโครงการไป นอกจากนี้เทศบาลเคยร่วมผลักดันกับหอการค้าจังหวัดอุตรดิตถ์และจังหวัด เพื่อขอให้กระทรวงคมนาคมเข้ามาปรับปรุงสนามบินเปิดให้บริการอีกครั้ง แต่เป็นไปไม่ได้เนื่องจากไม่คุ้มกับการลงทุน

         "ทางเทศบาลไม่ขัดข้องหาก อบจ.อุตรดิตถ์ จะเข้ามาพัฒนาให้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ หรือจัดทำเป็นศูนย์ซ่อมเครื่องจักรกลหนัก พร้อมทำประชาคมให้ เพราะปัจจุบันการทำโครงการอะไรสักอย่าง จำเป็นต้องสอบถามความเห็นของประชาชน หากสร้างหรือดำเนินการแล้วถูกต่อต้านจากชุมชนหรือประชาชนจะไม่เกิดประโยชน์ จะสิ้นเปลืองงบประมาณโดยเปล่าประโยชน์"  นายสมชัยกล่าว

         ผู้สื่อข่าวภูมิภาค "มติชน"  รายงานจาก จ.เลยว่า สนามบิน จ.เลย อยู่ในความดูแลของกรมขนส่งทางอากาศเป็นอีกแห่งที่ไม่มีสายการบินพาณิชย์ใช้บริการมาเป็นเวลา 2 ปีแล้ว หลังจากสายการบินนกแอร์เปิดเที่ยวบินรับส่งผู้โดยสาร ระหว่างอุดรธานี-เลย-กรุงเทพฯ และกรุงเทพฯ-เลย-อุดรธานี จนถึงเดือนธันวาคม 2550

         นายอิทธิ กีรติธรานุรักษ์ ผู้อำนวยการการท่าอากาศยานเลย เปิดเผยว่า สนามบินเลยไม่ได้ร้างเพราะยังมีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานปกติและมีเที่ยวบินส่วนบุคคล เช่าเหมาลำและหน่วยราชการใช้บริการ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ บริษัท นกแอร์ ขออนุญาตเปิดเส้นทางบินมาที่ จ.เลย อีกครั้ง

         "สนามบินเป็นเหมือนประตูบ้านของจังหวัด เป็นทางเลือกหนึ่งของการเดินทางที่ใช้เวลาน้อยที่สุด ขณะนี้มีนักท่องเที่ยวหรือผู้ที่ต้องการโดยสาร แวะมาสอบถามที่สนามบินเลยอยู่ตลอดเวลา เพราะสนามบินเปิดทุกวันไม่มีวันหยุดและพร้อมที่จะบินได้ตลอด 24 ชั่วโมง เครื่องมืออุปกรณ์พร้อมทุกอย่าง"  นายอิทธิกล่าว

         ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.น่าน ว่า สนามบินน่านซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นสนามบินเชื่อมระหว่างประเทศ โดยสายการบินลาวเปิดเที่ยวบินน่าน-หลวงพระบาง-เดียนเบียนฟู อีกทั้งยังมีสายการบินพาณิชย์หลายสายใช้บริการ อาทิ การบินไทย, อันดามันแอร์ และพีบีแอร์ แต่ทุกสายการบินยกเลิกเที่ยวบิน ปัจจุบันเหลือเพียงสายการบินนกมินิ เท่านั้นที่ใช้บริการสนามบินน่าน โดยเปิดเที่ยวบินน่าน-เชียงใหม่ เป็นเครื่องบินเซสน่า ขนาด 12 ที่นั่งบินวันละ 2 เที่ยวบิน

         นางนงพร มีวาสนา ผู้อำนวยการท่าอากาศยานน่าน เปิดเผยว่า สนามบินน่านยังคงใช้งานและดูแลอยู่ตามปกติ เมื่อ 3 ปีที่แล้วกรมการขนส่งทางอากาศ ใช้งบประมาณกว่า 50 ล้านบาท ปรับปรุงลานจอดเครื่องบิน ระบบสัญญาณไฟนำร่องและอาคารผู้โดยสารให้มีมาตรฐานยิ่งขึ้น สามารถรองรับเครื่องบินขนาดโบอิ้งได้ รวมถึงรั้วรอบบริเวณต่างๆ เมื่อหลายปีที่ผ่านมาการบินไทยเคยมีเครื่องบินขนาดใหญ่มาบริการ แต่หยุดเส้นทางนี้ไปเพราะขาดทุน ต่อมามีบริษัทเอกชนอื่นทั้งการบินลาว เปิดบริการบินเส้นทางน่าน-หลวงพระบางแล้วปิดกิจการไป รวมทั้งแอร์อันดามันและพีบีแอร์ก็มาบินเส้นทางน่าน-กรุงเทพฯ แต่หยุดบินในเวลาต่อมา

         นางนงพร กล่าวว่า เอกชนเรียกร้องให้มีเครื่องบินพาณิชย์มาให้บริการมากกว่าที่เป็นอยู่ เพราะมีเพียงนกมินิเปิดเที่ยวบินน่าน-เชียงใหม่ แต่เป็นเครื่องบินขนาดเล็ก ทางเอกชนขอให้เพิ่มขนาดเครื่องบินใหญ่กว่าและให้บริการบินสายน่าน-กรุงเทพฯเหมือนเดิม 

         "เรื่องนี้เป็นความรู้สึกของภาคเอกชนที่เห็นการเติบโตเรื่องการท่องเที่ยว แต่ท่าอากาศยานน่านยังคงมีรายได้จากเอกชน รวมถึงหน่วยงานรัฐเช่าเหมาลำเครื่องบินขนาดต่างๆ มาลงบ่อยครั้ง อย่างไรก็ตาม หน่วยงานราชการที่มาใช้บริการต่างๆ ไม่เก็บค่าธรรมเนียมหรือการใช้สนามบิน" นางนงพร กล่าว 

         นางสาวณัฐณิช รัตนประภาพร ฝ่ายประชาสัมพันธ์การตลาด บริษัท นกมินิ กล่าวถึงแนวโน้มที่จะพิจารณาเพิ่มเที่ยวบินเส้นทางน่าน-กรุงเทพฯ และเพิ่มขนาดเครื่องบินที่บรรจุจำนวนโดยสารได้มากขึ้นว่า บริษัทกำลังสำรวจถึงความคุ้มค่า แม้ได้รับความสะดวกจากท่าอากาศยานน่านที่ได้มาตรฐาน แต่ยังไม่มีระบบเติมน้ำมันที่เป็นมาตรฐานสำหรับเครื่องขนาดใหญ่ รวมถึงอาคารรองรับผู้โดยสารยังมีขนาดเล็กเกินไป ปัจจุบันบริษัทเปิดบริการด้วยเครื่องบินเล็กจากน่าน - เชียงใหม่ วันละ 2 เที่ยวบิน รวมจำนวนผู้โดยสาร 24 คน แต่กระแสเรียกร้องและจำนวนความต้องการใช้เครื่องบินขนาดใหญ่มากพอสมควร ทั้งนี้ หากสำรวจพบว่ามีผู้โดยสารเที่ยวละ 30-40 คน อาจเป็นไปได้ที่จะเพิ่มขนาดเครื่องบินเพื่อมารองรับ หรืออาจเปิดเส้นทางน่าน-กรุงเทพฯ



ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก