มาร์ค ธาวิน
มาร์ค ธาวิน
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก youtube.com
เกิดมาเป็นมนุษย์ทั้งที ต้องใช้ชีวิตให้มันส์สุดโต่ง(แบบไม่เดือดร้อนใคร) เอ้า...เพื่อน ๆ คนไหนใช้คติประจำใจแบบนี้กันบ้างจ๊ะ ก็แหม...ที่ถามน่ะ ไม่ใช่อะไร เพียงแต่วันนี้เรามีบุคคลที่เข้าคอนเซ็ปท์แบบที่กล่าวข้างต้น เรียกได้ว่าถ้ารู้จักแล้วไม่มีผิดหวัง เพราะคุณพี่คนนี้เขาใช้ชีวิตหรูเริ่ดสุด ๆ (แต่ไม่เดือดร้อนใคร) ชนิดมีเงินเท่าน้านถึงจะทำได้
...เขาเป็นช่างผมชื่อดัง ที่มีใบประกาศนียบัตรการันตีคุณภาพมากที่สุดของประเทศคนหนึ่ง
...เขาคนนี้ ใช้เวลากว่า 10 ปี ทำในสิ่งที่รัก นั่นคือตระเวนเรียนทำผมจากสถาบันที่มีชื่อเสียงระดับโลก
...เขาคนนี้ใช้เงินกว่า 10 ล้านบาท ลงทุนเรียนด้านผมโดยเฉพาะ
...เขาเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับชีวิต ทั้งเสื้อผ้า เครื่องประดับ แม้กระทั่งไมโครโฟนร้องคาราโอเกะ ที่ราคากว่าสามแสนบาท ซึ่งเป็นไมค์รุ่นเดียวกับนักชื่อก้องโลกอย่าง คริสติน่า อากิเลร่า ใช้ในคอนเสิร์ต (ผ่างงงง)
...และเขาคนนี้คือช่างผมไฮโซชื่อดังแห่งยุค "มาร์ค ธาวิน" ผู้ซึ่งคนใกล้ตัวให้ฉายาว่า "เว่อร์ตัวแม่" !!!
...ถ้าพร้อมแล้ว ไปเจาะชีวิต มาร์ค ธาวิน พร้อม ๆ กันเลยค่ะ
มาร์ค ธาวิน
มาร์ค ธาวิน หรือชื่อเต็มว่า มาร์ค ธาวิน พี เซียวตง เป็นช่างผมชื่อดัง เจ้าของร้าน Cutcha Hair Society ย่านลาดพร้าว 122 และเป็นหุ้นส่วน วุฒิ-ศักดิ์ คลินิก เขาเป็นลูกครึ่งไทย-ฟิลิปปินส์ คุณพ่อเป็นฟิลิปปินส์ คุณแม่เป็นคนไทย มีพี่น้องทั้งหมด 7 คน ฐานะทางบ้านของ มาร์ค ธาวิน เรียกได้ว่ามีอันจะกิน (เข้าขั้นมากกก) เพราะคุณพ่อทำงานสายการบินสหรัฐฯ ส่วนคุณแม่ทำธุรกิจส่วนตัว โดย มาร์ค ธาวิน บอกว่าเขาชื่นชอบในศิลปะแห่งการดีไซน์ และชอบการทำผมมาตั้งแต่เด็ก ๆ จึงเลือกศึกษาในด้านนี้อย่างจริง ๆ จัง ๆ และที่บ้านก็ให้การสนับสนุน
"รักการทำผมครับ และอยากเป็นช่างผมมาตั้งแต่เด็ก ๆ ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา พยายามมากที่จะไปเรียนตามที่ต่าง ๆ เพื่อให้รู้ ให้ชำนาญ คือเวลาเราเรียนอย่างอื่นมันไม่แฮปปี้เท่าเรียนทำผมไง ที่บ้านก็เลยสนับสนุน หมดเงินค่าเรียนไปกว่า 10 ล้านบาท แต่ส่วนใหญ่หมดกับค่าเดินทาง ค่าที่พักที่กินมากกว่าค่าเรียนนะ เพราะเวลาเราไปพักที่โน่น เราก็อยากพักที่ดี ๆ กินอาหารดี ๆ ก็เรียกได้ว่าระดับห้าดาวหมด ส่วนค่าเรียนที่อังกฤษจะแพงที่สุด ค่าเรียน 5 วัน หนึ่งแสนบาท แต่เราเรียนคอร์ส 2 อาทิตย์ เสียไปสองสามแสน แต่เรียนแล้วชอบ คิดว่าต้องไปเรียนทุก ๆ ปี เพราะแฟชั่นมีการเปลี่ยนแปลงตลอด" มาร์ค ธาวิน เล่า
แม้ว่าจะดูเป็นจำนวนเงินที่ค่อนข้างมาก แต่เพื่อแลกกับสิ่งที่ มาร์ค ธาวิน รัก เขาจึงไม่นึกเสียดายเงินสักบาท เพราะนั่นอยู่บนพื้นฐานที่ฐานะทางบ้านรองรับได้ พร้อมกันนี้ มาร์ค ธาวิน ยังยอมรับว่า ตัวเองนั้นเป็นคนฟุ่มเฟือยสุดขีดคนหนึ่ง ด้วยเพราะคิดว่าอยากให้ชีวิตมีความสุข และต้องมีสิ่งที่ดีที่สุดเสมอเท่าที่เงินของเขาจะสามารถซื้อหามาได้ ไม่ว่าจะเป็น ต่างหูเพชรเม็ดเป้ง ราคาข้างละแปดหลัก นาฬิกาที่มี 60 เรือนในโลก ราคา 7 หลัก รวมถึงที่พักอาศัยอย่างบ้านหลังงามที่ไม่ยอมเปิดเผยราคา บอกแต่เพียงว่าอยู่แปดหลักกลาง ๆ (บวกลบคูณหารแล้ว อย่างน้อย ๆ ไม่ต่ำกว่าห้าสิบล้านแน่ ๆ)
"ยอมรับว่าตัวเองฟุ่มเฟือย เสียเงินเยอะ กระเป๋า เสื้อผ้า จิวเวลรี่ นาฬิกา ซื้อมาบางทีใช้ครั้งสองครั้ง บางอย่างซื้อมาไม่ได้ใช้ก็มี แต่ชอบไง อย่างเสื้อบางตัวชอบแบบ แต่ดันมีหลายสี และชอบทุกสีก็จะซื้อหมดเลย แต่ถามว่าได้ใส่หมดไหม ก็ไม่ คือมันสุขใจอ่ะ แล้วก็ชอบใส่ต่างหูมาก ราคาเพชรเม็ดนึงแปดหลัก ข้างเดียวนะ แหวนเพชรที่ใส่ก็แปดหลัก แต่เราก็ไม่ได้ซื้อเยอะมาก แต่ซื้อแพง และความหายาก และของที่ซื้อก็ไม่เสียดาย เพราะเป็นการลงทุน เก็งกำไร ซึ่งจริง ๆ ก็รู้ว่ามันฟุ่มเฟือย จนคนรอบข้างกับที่บ้านบอกว่าเป็น เว่อร์ตัวแม่ แต่คือรู้สึกว่าชีวิตมันต้องสบาย"
แม้จะใช้ชีวิตหรูหราแบบไม่เกรงใจใคร แต่ก็อย่างที่บอก ชีวิตในแบบของ มาร์ค ธาวิน ไม่ได้เดือดร้อนใคร ทว่าวันหนึ่งชีวิตไฮโซคนนี้ก็ถึงจุดเปลี่ยน เมื่อเขาพบว่าตัวเองป่วยเป็นโรคหมอนรองกระดูกผิดรูปทับเส้นประสาท ต้องได้รับการผ่าตัด และโอกาสเป็นอัมพาตมีสูงถึง 50:50 เนื่องจากอาการของโรคน่าจะทำให้เขาเป็นอัมพาตตั้งนานแล้ว แต่เขากลับยังไม่เป็น เมื่อรู้อย่างนี้ มาร์ค ธาวิน ผู้มีชีวิตที่แสนสุขสบายก็พบว่า เงิน ก็ช่วยอะไรเขาไม่ได้ เพราะหมอเองยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเขาจะหายเป็นปกติหรือไม่ มาร์ค ธาวิน จึงหันไปใช้ชีวิตแบบไร้จุดหมายก่อนคิดผ่าตัดอยู่ราว 6-7 เดือน โดยตระเวนไปท่องเที่ยวตามที่ต่าง ๆ ในต่างประเทศ เพราะหวั่นใจว่า หากผลการผ่าตัดไม่ได้ออกมาอย่างที่หวังไว้ อย่างน้อยที่ที่เขาอยากไปเที่ยว อยากไปสัมผัส ก็ได้ไปมาแล้ว
มาร์ค ธาวิน
แต่อย่างไรก็ดี มาร์ค ธาวิน ก็กลับฮึดสู้อีกครั้ง เพราะกำลังใจจากคนรอบข้าง เขาตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดที่เลือกแล้วว่าดีที่สุด แพงที่สุด หมอเก่งที่สุด และผลที่ออกมาก็เป็นเรื่องที่เจ้าตัวยินดีมากที่สุดในชีวิตอีกครั้งหนึ่ง มาร์ค ธาวิน รอดจากการเป็นผู้ป่วยอัมพาตตลอดชีวิต แต่ถึงกระนั้น เขาก็ยังมีอาการไม่สบายตัว นอนไม่หลับ ถูกโรครุมเร้า จนต้องพบจิตแพทย์
"ต้องกินยาเยอะ ใช้ยานอนหลับ ไปหาหมอหลายแนวมาก ทั้งฝังเข็ม สมุนไพร แผนปัจจุบันสมัยใหม่ก็แล้ว สมัยเก่าก็แล้ว แต่ไม่หาย ตอนนั้นอยากหนี ไม่เอาแล้ว คิดว่าอะไรก็ช่วยเราไม่ได้ อยากตาย แต่ไม่คิดฆ่าตัวตายนะ เพราะกลัว แล้วก็มีคนมาสะกิดว่า ให้สวดมนต์ เราก็บอกว่าสวดมนต์แล้วได้อะไร แต่ก็ลองทำ ตอนแรกรู้สึกเฉย ๆ แต่รู้สึกว่ามีสติมากขึ้น แล้วก็มีโอกาสไปดูดวง หมอบอกเจ้ากรรมนายเวรแรงมาก ต้องทำทาน ก็เลยทำ เข้าวัด ทำบุญ ถวายสังฆทาน เออ..ทำแล้วรู้สึกใจไม่ทุกข์ มีสติ ทีนี้เลยทำทุกอาทิตย์ ขนไปแบบเซตใหญ่เลย จนพระท่านสงสัย ก็เลยเล่าให้ฟัง จากนั้นสภาพจิตก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนกับเราไปซึมซับธรรมะวันละนิด" มาร์ค ธาวิน กล่าว
มาร์ค ธาวิน เล่าว่า หลังจากนั้น เขาเริ่มรักษาศีล ขนาดยุงมากัดก็ไม่เคยตบ และก็ชอบทำบุญ ทำทาน ทุกที่ที่บอกบุญมา คนคนนี้ไม่เคยเกี่ยง จากชีวิตที่เคยสุขสบายในแบบ "ฉันคนเดียว ไม่เกี่ยวกับใคร" ตอนนี้ มาร์ค ธาวิน กลับเผื่อแผ่ให้ผู้อื่น จัดโครงการการกุศลมากมาย ทั้งสร้างห้องสมุดโรงเรียน จัดซื้อเครื่องกรองน้ำดื่มให้โรงเรียนห่างไกล ทำโครงการ "แบ่งปัน เติมฝัน ทำสวย" ให้กับผู้ด้อยโอกาส จัดกิจกรรม "ตัดผมการกุศลช่วยชาวเฮติ" ฯลฯ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเจ้าตัวก็ยังแอบกระซิบว่า ยังใช้ชีวิตวัตถุนิยมที่ทำให้ตัวเองมีความสุขในแบบ มาร์ค ธาวิน เหมือนเคย เพียงแต่ปรับบางอย่างให้ชีวิตสมดุล และทำแล้วไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร
และนี่คือชีวิตเยอะได้อีกของ มาร์ค ธาวิน พี เซียวตง ช่างผมไฮโซที่มากล้นด้วยน้ำใจ
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่ค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
รายการตีท้ายครัว, รายการเจาะใจ