
ม.ล.สาวเก๊แหกตาตำรวจ - ไม่ให้จับสินค้า คดีละเมิด "ลิขสิทธิ์" ผกก.เช็ก พบพิรุธ! เลยถูกจับ (ข่าวสด)
รวบสาวแสบอ้างเป็นม.ล.ราชนิกุลชั้นสูง กิติยากร ถือหนังสือตราประทับ ราชนิกุลกิติยากร บุกขึ้นโรงพักสน.บางเขน อวดเบ่งไม่ให้ตำรวจเข้าไปจับสินค้าลิขสิทธิ์ หน้าห้างโลตัส หลักสี่ โดยในหนังสือดังกล่าวปลอมแปลงลายพระนามและตราประทับเอาไว้เสร็จสรรพ ผกก.สน.บางเขน พบพิรุธจึงประสานงานตำรวจวังตรวจสอบ พบว่าเป็นพวกแอบอ้างจึงตะครุบตัวคาโรงพัก พร้อมเพื่อนร่วมแก๊งซึ่งอ้างตัวเป็นเลขาฯ ตรวจสอบพบประวัติเคยต้องคดีลักทรัพย์ รับของโจรมาก่อน
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 10 ก.พ. ที่ สน.บางเขน พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น. พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ ผบก.น.2 พ.ต.อ.พัฒนา เพศยนาวิน ผกก.สน.บางเขน แถลงจับกุมผู้ต้องหาแอบอ้างเป็นราชนิกุลชั้นสูงได้ผู้ต้องหา 2 ราย คือ นายปิญช์ มาลากุล ณ อยุธยา อายุ 42 ปี และน.ส.จุฬาลักษณ์ หรือ "หม่อมอุ๋มอิ๋ม" ฟอสเตอร์ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35/76 ม.3 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. พร้อมของกลางซองเอกสารสีน้ำตาล 1 ซอง และเอกสารมีรอยตราประทับประจำราชนิกุลกิติยากร เลขที่ ม.ญ.จ.51-1/53 ลงวันที่ 8 ก.พ. 2553 จับกุมตัวได้ที่ สน.บางเขน เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ซึ่งทำให้ประชาชนหรือผู้อื่นเสียหายและใช้เอกสารปลอม
พ.ต.อ.พัฒนา เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเวลาประมาณ 16.00 น. วันที่ 9 ก.พ. น.ส.จุฬาลักษณ์ได้เดินทางมาขอพบตนที่ สน.บางเขน แต่ตนติดภารกิจ จึงให้ พ.ต.ท.พิเชษฐ์ ฟูสินไพบูลย์ รอง ผกก.สส.สน.บางเขน เป็นผู้ดำเนินการแทน โดยน.ส.จุฬาลักษณ์ได้ยื่นเอกสาร จำนวน 1 ชุด มีใจความสำคัญที่ว่า "อ้างถึงราชนิกุลกิติยากร ระบุขอไม่ให้ดำเนินการในเรื่องละเมิดลิขสิทธิ์ และขอความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ห้ามหน่วยงานของลิขสิทธิ์เข้าไปในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ทุกท่านควรปกป้องและควรดูแลบุคคลสำคัญในราชนิกุลชั้นสูง" ซึ่งเอกสารดังกล่าวมีการปลอมแปลงลายพระนาม ตราประทับราชนิกุลกิติยากร เมื่อพ.ต.ท.พิเชษฐ์เห็นเอกสารดังกล่าว จึงไม่กล้าตัดสินใจดำเนินการรับเรื่องเอาไว้ และแนะนำนัดให้ผู้ต้องหามาพบอีกครั้งหนึ่งในวันรุ่งขึ้น
พ.ต.อ.พัฒนา กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นเวลาประมาณ 20.00 น. วันเดียวกัน นายปิญช์ มาลากุล ณ อยุธยา ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นเลขานุการของน.ส.จุฬาลักษณ์ ได้นำเอาเอกสารชุดเดิมมายื่นกับตนอีกครั้งหนึ่ง ด้วยความไม่แน่ใจกลัวมีการแอบอ้าง จึงประสานไปยัง พล.ต.ท.ไตรรัตน์ อฆาตยกุล ผบช.สง.นรป. เพื่อตรวจสอบเอกสารดังกล่าวว่าเป็นเอกสารจริงหรือไม่ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าเป็นเอกสารปลอม จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติม
จากการตรวจสอบประวัติน.ส.จุฬาลักษณ์เคยถูกดำเนินคดีอาญาที่ สน.บางชัน ในข้อหาลักทรัพย์หรือรับของโจร ศาลพิพากษาจำคุก เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 2545 นอกจากนี้ยังพบว่า น.ส.จุฬาลักษณ์ได้เปลี่ยนชื่อในบัตรประชาชนเป็น ม.ล.จุฬาลักษณ์ กิติยากร และยังพบนามบัตรกับเอกสารจัดตั้งมูลนิธิหม่อมเจ้าหญิงกิติปปียา กิติยากร เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต และเจ้าตัวก็จะทำตัวเป็นหัวคิวลิขสิทธิ์ที่ตลาดนัดหน้าห้างโลตัส สาขาหลักสี่ จึงเดินทางมายื่นเอกสารไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้อง และล่าสุดยังตรวจสอบพบอีกว่าได้เปลี่ยนคำนำหน้าบุตรของตนเป็นหม่อมหลวงด้วย
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก






