เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก สำนักข่าวไทย
เมื่อเทคโนโลยีและความศิวิไลซ์เข้ามาในชุมชนมากขึ้น ล้วนทำให้หนุ่มสาววัยรุ่นในบ้านนาหลายคน วาดหวังที่จะไปใช้ชีวิตที่สวยหรูในเมืองใหญ่ ที่เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและความทันสมัยมากมาย แต่คงมีน้อยคนนักที่จะมีความมุ่งมั่น ขอปวารณาตัวใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติ อย่างเช่น ปรีดา เทียนส่งรัศมี ผู้พิทักษ์นกเงือกแห่งเขาบูโดคนนี้
ปรีดา เทียนส่งรัศมี ชายวัย 38 ปี เป็นคนที่เติบโตมากับครอบครัวนักอนุรักษ์ธรรมชาติ ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และด้วยความที่ ปรีดา เป็นหลานชายของอาจารย์ พิไล พูลสวัสดิ์ ผู้ซึ่งได้ชื่อว่า "มารดาแห่งนกเงือก" ก็ทำให้ ปรีดา ซึมซับความรู้สึกรักและผูกพันกับธรรมชาติ โดยเฉพาะ "นกเงือก" สัตว์ที่ใกล้จะสูญพันธุ์เต็มที
ชีวิตของ ปรีดา อุทิศให้กับการอนุรักษ์นกเงือก ณ อุทยานแห่งชาติบูโด-สุไหงปาดี ในจังหวัดนราธิวาส ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์และมีความหลากหลายทางชีวภาพมาก โดยมีนกเงือกอาศัยอยู่กว่า 6 สายพันธุ์ ซึ่ง ปรีดา และทีมงานจะต้องคอยเฝ้าดูแลนกเงือกเหล่านี้ ทั้งเก็บข้อมูล ไต่เขา ปีนต้นไม้สูง แบกสัมภาระหนักกว่า 40 กิโลกรัม ขึ้นไปตรวจสอบซ่อมโพรงนกเงือก สร้างโพรงเทียม เพื่อสร้างประชากรนกเงือกเพิ่มขึ้น และให้พวกมันสามารถใช้ชีวิตอยู่ในผืนป่าแห่งนี้ต่อไปได้
และแม้ว่า พื้นที่แห่งนี้จะเป็นพื้นที่สีแดง รอยต่อของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ใคร ๆ ก็รู้ว่ามีอันตรายรอบด้าน แต่เวลานับ 10 ปีที่ ปรีดา ได้อยู่ที่นี่ เขาก็ไม่ได้คิดถึงอันตรายจากการก่อความไม่สงบที่จะเกิดขึ้นเลย แต่มองว่า ความจริงใจให้กันคือสิ่งที่สำคัญมาก ที่ทำให้เขาอยู่ได้อย่างมีความสุข
"มองดูธรรมชาติสิ ไม่มีเส้นตรง ไม่มีเหลี่ยม ไม่มีมุม ไม่เหมือนในเมืองที่มีแต่เหลี่ยม มุมมองไปทางไหนก็อึดอัด ต้องคอยระวัง มันไม่ใช่เรา เราอยู่ที่นี่หายใจก็โล่ง มองไปทางไหนทุกอย่างก็เป็นมิตรกับเรา งานที่เราทำมันยาก แต่เราก็มีความสุข เราทำไปเพื่อความสุขของเรา" ปรีดา เผยความในใจที่มีต่องานอนุรักษ์
แต่ทว่าอุปสรรคสำคัญในการทำงานของปรีดา กลับเป็นชาวบ้านในพื้นที่บางส่วน ที่เข้ามาตักตวงผลประโยชน์จากผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์แห่งนี้ โดยการจับลูกนกเงือกไปขาย เพราะเห็นว่าเป็นแหล่งสร้างรายได้ชั้นดี จนครั้งหนึ่งถึงขนาดมีการรุกป่า และฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เจ้าสัตว์ดึกดำบรรพ์ชนิดนี้ จนเกือบจะสูญพันธุ์มาแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้ปรีดาที่แม้จะเป็นเพียงคนต่างถิ่น ยิ่งเกิดความมุ่งมั่นที่จะปกป้องเพื่อนร่วมโลกชนิดนี้ ให้อยู่รอดปลอดภัยตามธรรมชาติเหมือนเดิม
สิ่งที่ ปรีดา ทำก็คือ การเข้าไปทำความเข้าใจกับชาวบ้าน ทีละเล็กทีละน้อย แม้จะเป็นเรื่องยากที่จะเปลี่ยนใจชาวบ้านให้ละทิ้งแหล่งรายได้ชั้นยอด แต่ปรีดาก็ไม่ท้อ ค่อย ๆ สร้างความเข้าใจกับชาวบ้าน จนชาวบ้านบางส่วนค่อย ๆ เปลี่ยนทัศนคติ และพฤติกรรมจากการเป็นผู้ล่ากลายมาเป็นคนที่เป็นหูเป็นตา กลายเป็นทีมงานของ ปรีดา ที่มาช่วยกันอนุรักษ์นกเงือกในที่สุด
แต่อย่างไรก็ตาม ปัญหาการลักลอบตัดไม้ แหล่งที่อยู่อาศัยของนกเงือก ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขให้หมดสิ้นไปจากผืนป่าแห่งนี้ ซึ่งปรีดาก็ยอมรับว่า เขาเสียใจ และได้แต่ทำใจ จึงตั้งความหวังว่าจะช่วยกันอนุรักษ์นกเงือกไว้ก่อน ส่วนการห้ามชาวบ้านไม่ให้ตัดต้นไม้ก็ยังยาก จึงได้แต่ปลอบใจตัวเองว่า คนตัดต้นไม้เพียงหนึ่งต้น ก็ยังดีกว่าเผาป่าเป็นร้อย ๆ ไร่ เพื่อฆ่านกเงือก
"นกเงือกเป็นสัญลักษณ์ของความดีงาม เป็นตัวอย่างแบบอย่างให้กับมนุษย์ ทั้งเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคม ต่อครอบครัว ต่อส่วนรวม ถ้าเรียนรู้ชีวิตนกเงือก เข้าใจนกเงือกแล้ว ก็จะเข้าใจชีวิตเลย ว่านี่คือชีวิตที่เราต้องเอาเป็นแบบอย่าง เพราะนกเงือกมันรักครอบครัวมาก ถ้าจับคู่แล้วผัวเดียวเมียเดียวตลอดชีวิต มันทำหน้าที่ต่อสังคมอย่างสม่ำเสมอ และทำตลอดชีวิต" ปรีดา บอกความรู้สึกจากใจ
จากความพยายาม และความมุ่งมั่นของ ปรีดา เทียนส่งรัศมี ผู้พิทักษ์นกเงือกแห่งเขาบูโดแห่งนี้ ทำให้ ปรีดา ได้รับรางวัลคนค้นฅน อวอร์ด สาขาผู้ปิดทองหลังพระ ซึ่งแน่นอนว่า รางวัลหรือคำชมใด ๆ อาจไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ ปรีดา มีความสุขได้เทียบเท่ากับการได้เห็นความสวยงามของนกเงือก และการลงมือปกป้องอนุรักษ์ เพื่อให้นกเงือกเป็นมรดกทางธรรมชาติให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาเรียนรู้ต่อไป
คนค้นฅน ตอน ผู้พิทักษ์นกเงือกแห่งเทือกเขาบูโด ตอนแรก Pt.1/4
คนค้นฅน ตอน ผู้พิทักษ์นกเงือกแห่งเทือกเขาบูโด ตอนแรก Pt.2/4
คนค้นฅน ตอน ผู้พิทักษ์นกเงือกแห่งเทือกเขาบูโด ตอนแรก Pt.3/4
คนค้นฅน ตอน ผู้พิทักษ์นกเงือกแห่งเทือกเขาบูโด ตอนแรก Pt.4/4
คนค้นฅน ตอน ผู้พิทักษ์นกเงือกแห่งเทือกเขาบูโด ตอนจบ Pt.1/4
คนค้นฅน ตอน ผู้พิทักษ์นกเงือกแห่งเทือกเขาบูโด ตอนจบ Pt.2/4
คนค้นฅน ตอน ผู้พิทักษ์นกเงือกแห่งเทือกเขาบูโด ตอนจบ Pt.3/4
คนค้นฅน ตอน ผู้พิทักษ์นกเงือกแห่งเทือกเขาบูโด ตอนจบ Pt.4/4
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
