Placebo
มาสคาร่าสีดำกับแสงไฟอันเจิดจ้า ผมใช้บริการมอเตอร์ไซด์เพื่อมาให้ถึงงานและต้องลัดเลาะฝ่าการจราจรที่เป็นอัมพาตและคราคร่ำไปด้วยกลุ่มคนเสื้อแดง วันเดียวกันนั้นเอง Placebo บินมา สด ๆ ร้อน ๆ หลังจากการแสดงในสิงคโปร์ และ กัวลาลัมเปอร์ที่ตั๋วขายหมดเกลี้ยง ท่ามกลางสถานการณ์อันร้อนแรง Placebo ยังคงร่วมแสดงในงานเทศการศิลปะและดนตรี ไทเกอร์ทรานสเลท ที่ลานจอดรถข้างเอสพลานาดร่วมกับวงดนตรีแนวหน้าของเมืองไทยอาทิเช่น Modern Dog, Paradox, โต้ สุหฤท, Flure, Abuse the Youth และ Lula
เสียงที่ครอบคลุมชั้นบรรยากาศในกรุงเทพฯ แปรสภาพเป็นคลื่นความร้อนในตอนกลางคืน สถานที่จัดคอนเสิรต์ ค่อนข้างแออัดเมื่อมีแฟนขาร็อคเข้าชมกว่าหมื่นคน ซึ่งมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ เสก โลโซและวงของเขาได้ใช้เวลาหลังเวทีพูดคุยสบาย ๆ ไปกับ ไบรอัน มอลโค, นักร้องนำวง พลาซีโบ และปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล นักร้องนำวง 4gotten laugh ส่วนมือกีตาร์นั้นนั่งคุยกับสตีฟ ฟอร์เรส มือกลองวงพลาซีโบ ทั้งหมดได้พูดคุยถึงความเป็นไปได้ในการร่วมงาน
โชว์ค่อนข้างเลท แต่พอถึงเวลาสี่ทุ่มยี่สิบ......ความมันส์ก็ระเบิดขึ้น ภายใต้แสงไฟอันเจิดจ้า กลุ่มทหารกล้าในเชิ้ตสีดำ ยีนส์สีขาว บูทดำและขอบตาดำ ก็ได้เริ่มการบรรเลงเพลง For What Its Worth ต่อด้วย Ashtray Heart เพื่อเป็นการจู่โจมแฟน ๆ อย่างต่อเนื่อง ไบรอันยืนขาหนึ่งอยู่บนกองมอนิเตอร์พร้อมกับมาสคาร่าที่เปื้อนออกมา ในขณะที่ สเตฟานร้องคอรัสในเพลง Battle For The Sun. ท่อนเพลงที่ว่า "these bones you cannot break, I will not participate" เป็นข้อความที่แสดงการท้ายทายจาก Dream brothers
เวทีในคืนนั้นมีสองชั้นใกล้ ๆ กับตึกออฟฟิศและผับที่เป็นรูปเนยแข็งขนาดใหญ่นามว่า butter butter ซึ่งเป็นอีกองค์ประกอบที่ทำให้เสียงดนตรียิ่งอัดเพลงของพลาซีโบนั้นอัดแน่นไปด้วยดนตรีที่มีคุณภาพและกลิ่นอายของดนตรีพั้งค์พร้อมกับแบคดร็อบแอนนิเมชั่นในธีมขาวดำสลับกับเอฟเฟคเต็มรูปแบบ ไวโอลีนสีขาว กีตาร์กิ๊บสันสีดำและลำโพงเฟนเดอร์สีขาวก็เป็นหนึ่งในสมาชิกของ Placebo ที่เข้าร่วมแสดงในครั้งนี้
หลังจากแฟน ๆ ได้โดดกันมันส์แล้ว ทั้งหมดก็ร่วมร้องเพลง Every You Every Me อันถือได้ว่าเป็นเพลงประจำวง Placebo อย่างกึกก้อง จากนั้นไบรอันก็ได้ตะโกนว่า "พี่น้องทั้งหลายดื่มน้ำมาก ๆ และอย่าลืม...หายใจในน้ำ" จากนั้นเพลง Breathe Underwater ก็ได้เริ่มบรรเลงด้วยจังหวะที่รัวและเร็วพร้อม ๆ กับแสงไฟอันเจิดจ้าบนเวทีที่สาดส่องไปยังไบรอันและกีตาร์กิ๊ปสันของเขาที่กวัดแกว่งอยู่บนเวทีทำให้แฟน ๆ โดดกันอย่างไม่ยั้ง
ไบรอันเปลี่ยนมาใช้กีตาร์เฟนเดอร์สีแดงตอนเล่นเพลง Never Ending Why ไบรอันกล่าวว่านี่เป็นเพลงเกี่ยวกับศาสนาพุทธ ในขณะเดียวกันผมก็สังเกตเห็นรอยสลักสีดำบนกลองเบสสีไข่มุกของสตีฟที่สลักไว้ว่า New Tomorrow ขณะที่กลุ่มคนเสื้อแดงตะโกนโหวกเหวกบนท้องถนน กลุ่มผู้รักเสียงเพลงต่างก้าวเท้าเข้ามาในงานภายใต้แสงเงาจากห้างเอสพลานาด
แฟน ๆ ส่งเสียงกรี๊ดให้กับเพลง Song to Say Goodbye และ Special Ks ท่วงทำนองอันเร้าใจส่งเสียงผ่านมาจากกีตาร์กิ๊บสันสีดำคาดขาวของไบรอัน มอลโค จากกีตาร์เลส พอล สีดำเลื่อมของสเตฟานและกีตาร์สีขาวลายดำของนิคที่กวัดแกว่งอยู่บนเวทียิ่งตอกย้ำความแรงและแน่นของดนตรี ขณะที่ฝูงชนต่างร้องเป็นจังหวะเดียวกัน บาดาบาบาบาบาบาดา และสตีฟที่รัวกลองดั่งกลองศึกเพลง Bitter End ต่อด้วย ซิงเกิ้ลใหม่ Bright Lights และเพลงใหม่ Trigger Happy ที่ใช้แสงสีแดงสาดไปบนเวทีสีถ่านหิน ในขณะที่ทุกคนพร้อมใจกันยกมือขึ้นในอากาศเพื่อตอบรับกับเนื้อหาในเพลงทีว่าหากคุณใส่ใจกับสังคมให้ยกมือขึ้น จากนั้นก็มีคนไทยหันมาพูดกับผมว่า เป็นวงดีเยี่ยมที่สุดตั้งแต่เพลง Ziggy Stardust ของ เดวิด โบวี่ และผมก็ให้เหตุผลกับเขาไปว่า Placebo เป็นวงที่มีความสามารถมากและทั้งคู่ก็มีด้านมืดและด้านสว่างในชีวิตที่คล้ายคลึงกันและได้หล่อหลอมให้พวกเขามายืนอยู่ ณ จุดนี้ raison detre
การแสดงปิดด้วยเพลง Taste in Men ซึ่งเป็นเพลงที่ดึงดูดให้ผู้ชมตกอยู่ในภวังค์ ก่อนที่จะทำให้แฟน ๆ จะถูกปลุกให้ตื่นด้วยคลื่นเสียงกีตาร์อันเป็นเอกลักษณ์ของ Placebo ท่ามกลางเสียงเชียร์จากแฟน ๆ ผมมองดูไปรอบ ๆ ตัว เห็นกำแพงขนาดยักษ์ที่ศิลปินกำลังสร้างสรรค์ผลงานกันอยู่ จักรยานเสือภูเขาที่ถูกแขวนอย่างเป็นระเบียบ และเด็กผู้หญิงที่ใส่เสื้อยืด dont wanna know anything anymore กับเล็บที่เคลือบด้วยสีดำตัดกับก้านบุหรี่สีขาวและตามมาด้วยเสียงปรบมืออันกึกก้อง ขณะที่ Placebo กำลังลงจากเวที
ฟังเพลง ข่าวเพลง ดู MV เพลงฮิต คลิกเลย
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
