
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุรภาพประกอบจาก mapculture.org
เขมรสร้างบันไดขึ้นปราสาทตาควายเสร็จแล้ว ยันไม่ได้ล่วงล้ำอธิปไตยของไทย เพราะยึดตามแผนที่ของฝรั่งเศส
เมื่อประมาณต้นปีที่ผ่านมา กัมพูชาได้สร้างบันไดขึ้นเขาด้านปราสาทตาควาย ซึ่งเป็นปราสาทหินศิลาแลงที่ตั้งอยู่บนภูสูงในเขตสำปันน้ำ ชายแดน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ โดยสร้างห่างจากตัวปราสาท 500 เมตร เพื่อใช้เป็นเส้นทางขนสัมภาระให้แก่ทหารกัมพูชาที่ลาดตระเวนอยู่บริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา ซึ่งขณะนี้ได้สร้างแล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
จากการสร้างบันไดขึ้นเขาดังกล่าว ฝ่ายไทยได้มีการส่งหนังสือทักท้วงไปยังสถานทูตกัมพูชาเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยมีเนื้อหาระบุในหนังสือว่า กัมพูชากำลังล่วงล้ำอธิปไตยของไทย พร้อมแนะนำให้หยุดโครงการสร้างบันไดขึ้นเขานี้
ล่าสุด หนังสือพิมพ์พนมเปญโพสต์ได้ลงข่าว เรื่องความสำเร็จของการสร้างบันไดขึ้นเขาด้านปราสาทตาควาย พร้อมอ้างถึงหนังสือของสถานทูตกัมพูชาในกรุงเทพฯ ที่ส่งถึงกระทรวงการต่างประเทศของไทยว่า การสร้างบันไดขึ้นเขาในครั้งนี้ ไม่ได้ล่วงล้ำอธิปไตยของไทยอย่างที่ฝ่ายไทยกล่าวหา เพราะสร้างห่างจากปราสาทตาควายถึง 500 เมตร และบริเวณดังกล่าว ก็อยู่ในเขตแดนประเทศกัมพูชา โดยกัมพูชาอิงตามแผนที่ที่ฝรั่งเศสจัดทำเมื่อ 100 กว่าปีก่อน ซึ่งเป็นแผนที่คนละฉบับกับไทย
จากประเด็นดังกล่าว พล.ท. ชุมสุชาติ โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชาได้ออกมากล่าวว่า บันไดขึ้นเขาด้านปราสาทตาควายนั้นเริ่มก่อสร้างเมื่อประมาณ 5 เดือนที่ผ่านมา เพื่อใช้ในการขนส่งอุปกรณ์ ของใช้จำเป็นต่าง ๆ ขึ้นไปบนเนินเขา สำหรับทหารกัมพูชาที่ลาดตระเวนอยู่ในพื้นที่นั้น ปัจจุบันการก่อสร้างนี้ได้แล้วเสร็จหมดแล้ว และก่อนหน้านี้ กัมพูชาก็ได้สร้างบันไดในลักษณะเดียวกันนี้ขึ้นไปยังภูมะเขือ ด้านทางขึ้นปราสาทเขาพระวิหาร ซึ่งการสร้างในครั้งนั้น ทำให้ฝ่ายไทยก็ไม่พอใจเช่นกัน แต่ก็ยังยืนยันเหมือนครั้งนี้ว่า ไม่ได้ล่วงล้ำอธิปไตยของไทยแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ระหว่างการสร้างบันไดขึ้นไปยังภูมะเขือ ได้มีการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาอยู่หลายครั้ง ตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมาที่มีการยิงโต้ตอบกัน และเดือนเมษายนก็มีการปะทะกันอีกครั้ง โดยทหารกัมพูชาอ้างว่าทหารไทยยิงเข้าฝ่ายกัมพูชาก่อน นอกจากนี้ ภูมะเขือก็ยังเคยเป็นพื้นที่อันตราย ที่มีการสู้รบกันทั้งสองฝ่าย ในวันที่ 15 ตุลาคม 2551 และอีกครั้งในวันที่ 3 เมษายน 2552 ซึ่งเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวรวมแล้วประมาณ 10 คน และได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 10 คน







