

สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ศูนย์บริการแพทย์ฉุกเฉิน กทม. (ศูนย์เอราวัณ) เปิดเผย จำนวนผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่คนร้าย ยิงระเบิดชนิด M79 บริเวณ ถนนหน้าประตู 4 สวนลุมพินี ด้านถนนพระราม 4 ขาเข้า โดยระเบิดตกลงที่คลองริมถนน 1 ลูกและพื้นถนน 2ลูก ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 5 นาย ประกอบด้วย จ.ส.ต.วิทยา พรหมสาลี ได้รับบาดเจ็บสาหัสที่บริเวณหน้าอก ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในการผ่าตัดของแพทย์อยู่ ด.ต.เกรียติศักดิ์ อินทรินทร์ ด.ต.ชูศักดิ์ แสงเย็น จ.ส.ต เกษม แก้วกูล ส.ต.อ.ณัฐกาญจน์ โพธิ์น้อย โดยทั้งหมดเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หางน้ำสาคร ทั้งหมด
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด ได้เข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ นอกจากนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่หทารได้รับบาดเจ็บ อีก 3 ราย ประกอบด้วย พลหทาร มงคล บุเมืองตัก พลทหารสมศักดิ์ วงษ์อุ๊ย พลทหารพีระศักดิ์ บุราธานี ซึ่งทั้งหมดเป็นทหารจากค่าย ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ จังหวัดนครราชสีมา เจ้นหน้าที่ได้ย้ายออกจากโรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้าแล้ว
ก่อนหน้านี้ ได้เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้ชุมนุมชาวสีลม บริเวณหน้าธนาคารกรุงไทย สาขาย่อยชิลลิคเฮ้าส์ ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยมีตำรวจได้รับบาดเจ็บ 2 ราย คือ ส.ต.ท.กานต์ณุพัฒน์ เลิศจันทร์เพ็ญ ตำรวจจราจร สน.ทุ่งมหาเมฆ อาการสาหัส ถูกอาวุธปืนยิงเข้าใส่บริเวณช่องท้องเจ้าหน้าที่ต้องปั้มหัวใจช่วย แต่สุดท้ายได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา


ดาบตำรวจวิสุทธิ์ บุญยังมาก ตำรวจชุดปราบปราบจราจล สน.บางนาถูกยิงเข้าที่บริเวณหัวไหล่ ด้านซ้าย และ ด.ต.บรรจบ โยมา ตำตรวจชุดปราจรจาล สภ.เกาะทวด จ.นครศรีธรรมราช ได้รับบาดเจ็บตรงบริเวณนิ้วมือเล็กน้อย แพทย์ได้ทำการรักษาและอนุญาติให้กลับบ้านได้แล้ว หลังทั้ง 3 ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
นอกจากนี้ กระสุนยังถูกประชาชน เป็นชายอายุประมาณ 60 ปี ถูกยิงเข้าบริเวณขา และอีกคนเป็นหญิง ได้รับบาดเจ็บบริเวณนิ้วมือ ทั้งสองถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลกรุงเทพศริสเตียน ส่วนจุดเกิดเหตุ พบว่า กระจกธนาคารแตกบานและร่องรอยกระสุนเป็นรูหลายจุด
อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นทั้ง 2 จุด ประกอบด้วย คนร้ายกราดยิงอาวุธปืนใส่กลุ่มผู้ชุมนุมที่บริเวณถนนสีลม และระเบิด M79 ที่ถนนพระราม 4 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย รวมบาดเจ็บกว่า 12 ราย ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน และตรวจสอบภาพจากกล้องวงปิดในที่เกิดเหตุ เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายต่อไป
ล่าสุด น.พ.อดิศร ภัทราดูลย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เปิดเผยความคืบหน้า อาการผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ จากสถานการณ์ความไม่สงบทั้ง 2 จุด เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมาว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลจุฬาฯ ทั้งหมด จำนวน 8 นาย เสียชีวิต 2 นาย คือ ส.ต.ท. กานต์ณุพัฒน์ เลิศจันทร์เพ็ญ ผู้บังคับหมู่งานจราจร สน.ทุ่งมหาเฆม ที่ถูกคนร้าย ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดยิงจนเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ควบคุมฝูงชน บริเวณหน้าธนาคารกรุงเทพ สาขาย่อย อาคารซิลลิค หน้าถนนสีลม และ จ.ส.ต.วิทยา พรหมสาลี หน่วยควบคุมฝูงชน สภ.หางน้ำสาคร จ.ชัยนาท ที่เสียชีวิต ถูกยิง M 79 บริเวณด่านตรวจความมั่นคง ทางเข้าสวนลุมพีนี และยังมีผู้นอนรักษาอาการต่อที่โรงพยาบาล 4 นาย ขณะนี้ทั้งหมดอาการปลอดภัยแล้ว
ส่วนเหตุที่เกิดขึ้นนั้น ไม่ได้ส่งผลต่อผู้ป่วยที่นอนพักที่โรงพยาบาลมากนัก เนื่องจากผู้ป่วยส่วนใหญ่ ไม่ได้นอนที่ อาคาร ภปร. และ สก. แต่ทางเจ้าหน้าที่ จะประเมินคนไข้อีกครั้ง นอกจากนี้ ผอ.ร.พ.จุฬาฯ ยังกล่าวด้วยว่า หลังจากที่โรงพยาบาลเปิดให้บริการคนไข้ตามปกติมา 2 วัน พบว่า มีคนไข้ เดินทางเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก กว่า 4 พันคน ส่วนคลินิกพิเศษนอกเวลา จะเปิดให้บริการในวันนี้เป็นวันแรก
ทั้งนี้ พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เดินทางไปยังสถาบันนิติเวชโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เพื่อรับศพตำรวจทั้ง 2 นาย ไปชันสูตรพลิกศพ ต่อที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ
โดย พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า จะมีการปูนบำเหน็จ ตำรวจทั้ง 2 นาย เพิ่มขึ้น 8 ขั้นเงินเดือน และเลื่อนขั้นอีก 5 ชั้นยศ พร้อมให้รวบรวมพยานหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิด มาตรวจสอบทั้งนี้ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เข้าประชุมร่วมกับศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) โดยอาจจะขอให้ตำรวจติดอาวุธและเพิ่มกำลังตามความเหมาะสมต่อไป







