เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
เฉลิม โวยตรวจสอบเอกสารก่อนอภิปราย ชี้ไม่เคยมีหลักปฏิบัติแบบนี้มาก่อน พร้อมซัดรัฐบาลพูดซ้ำซาก แย่งเวลาฝ่ายค้านอภิปราย โว จตุพร น็อก สุเทพ แล้ว
การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลวันที่สอง (1 มิ.ย.53) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลตอบเรื่องการสลายการชุมนุมอยู่เรื่องเดียว ซึ่งตนมองว่ามันซ้ำซาก และเป็นการแย่งอภิปรายของฝ่ายค้าน รัฐบาลควรใจกว้างเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านได้อภิปราย เพราะยังมีสมาชิกฝ่ายค้านอีกหลายคนที่จะชี้แจง ถ้าตนเป็นนายกฯ จะให้ฝ่ายค้านพูดไปก่อน แล้วจึงจะตอบ เพื่อไม่ให้ประเด็นซ้ำกัน
พร้อมกันนี้ ร.ต.อ.เฉลิม ยังกล่าวถึงการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อมูลก่อนอภิปรายด้วยว่า เรื่องนี้ไม่เคยมีหลักปฏิบัติแบบนี้มาก่อน ถ้าเป็นคลิปหรือภาพฝ่ายค้านยินดี แต่ถ้าเป็นข้อมูลการทุจริต ซึ่งไม่เกี่ยวข้องอะไรกับความมั่งคง ทำไมต้องเอาข้อมูลที่จะอภิปรายมาให้รัฐบาลดู เมื่อรัฐบาลรู้หมดแล้วจะเรียกว่าอภิปรายได้อย่างไร แสดงว่าฝ่ายค้านมีข้อมูลอะไรก็ต้องบอกรัฐบาลหมดเลยหรือ
ส่วนหมัดเด็ดน็อกรัฐบาลที่ ร.ต.อ.เฉลิม เคยพูดเอาไว้นั้น เจ้าตัวบอกว่า ต้องรอฟัง แต่สำหรับรองนายกฯ สุเทพ นายจตุพร พรหมพันธุ์ น็อกไปเรียบร้อยแล้ว ดังนั้น หากตนไปน็อกนายสุเทพอีก เดี๋ยวจะหาว่าทารุณ
ส่วนการอภิปรายของ ส.ส.คนอื่น ๆ ตั้งแต่ช่วงเช้าเริ่มต้นที่ นายสถาพร มณีรัตน์ ส.ส.ลำพูน พรรคเพื่อไทย ได้อภิปรายเป็นคนแรก เริ่มต้นด้วยการกล่าวหานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ละเมิดสิทธิมนุษยชนกรณีที่สั่งสลายการชุมนุม และเห็นว่าการที่ายกฯ สั่งตั้งกรรมการอิสระในการตรวจสอบข้อเท็จจริงเป็นเรื่องไม่เหมาะ เนื่องจากเป็นคนสั่งสลายการชุมนุมเอง
ขณะที่ น.พ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ได้อภิปรายไม่ไว้วางใจ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ต่อเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมือง โดยเชื่อว่านายกฯ จะไม่สามารถเดินหน้าแผนปรองดองได้สำเร็จ หากไม่เยียวยาและให้ความเป็นธรรมกับผู้ที่สูญเสีย เนื่องจากการบริหารงานของรัฐบาลเป็น 2 มาตรฐาน มาโดยตลอด โดยมองฝ่ายตรงข้ามเป็นกลุ่มที่ต้องการกำจัด และเหตุการณ์ในวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่า สิ่งที่นายกฯ ระบุว่าได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ ใช้กระสุนยางดำเนินการ ส่วนกระสุนจริงจะใช้ยิงขึ้นฟ้าเท่านั้น ไม่เป็นความจริง เพราะที่มีการเปิดคลิปของประชาชน มีการยิงด้วยกระสุนจริงจากเจ้าหน้าที่ ซึ่งนายกฯ จะปฏิเสธความรับผิดชอบ ต่อสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้
ทางด้าน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง ชี้แจงข้อเท็จจริงว่า ฝ่ายค้านพยายามนำเหตุการณ์มาตัดต่อในการอภิปราย เพื่อให้ประชาชนเข้าใจกับผลคาดเคลื่อน กับความเป็นจริง ขณะที่ยืนยันว่ารัฐบาลไม่เคย มองประชาชนเป็นศัตรู และไม่เคยสร้างสถานการณ์ขึ้น เพื่อทำลายคู่แข่งจากการเมือง
ขณะที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส. กรุงเทพ พรรคเพื่อไทย ได้เปิดอภิปรายว่า ถ้าตนเป็นนายกฯ รับรองว่าผู้ชุมนุมจะไม่ตายเด็ดขาด เพราะจะไม่ใช้กำลังทหารสลายการชุมนุม และภายใน 6 เดือนที่เป็นนายกฯ ตนก็จะแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับทุกฝ่ายแน่นอน
นอกจากนี้ ร.ต.อ.เฉลิม ยังได้อภิปรายประเด็นการบริหารราชการแผ่นดินของนายกฯ และรัฐมนตรี โดย ร.ต.อ.เฉลิม ได้ซักฟอกในส่วนของกระทรวงคมนาคมเป็นอันดับแรก ร.ต.อ.เฉลิม ได้โจมตีรัฐบาลอนุมัติงบ 3.6 หมื่นล้านบาท ให้กระทรวงคมนาคม ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายบางซื่อ-บางใหญ่ ว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง
อย่างไรตาม มีรายงานข่าวด้วยว่าวันนี้ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ได้ให้คนมาส่งจดหมายเปิดผนึกให้กับผู้ข่าวประจำรัฐสภา หลังจากที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ได้อภิปรายว่า การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรกรณีปิดทำเนียบและสนามบินสุวรรณภูมิเป็นการกระทำเข้าข่ายก่อการร้าย โดยนายสนธิได้โต้แย้งว่า การอภิปรายดังกล่าวเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง และใส่ร้ายพันธมิตรฯ เพราะการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรเป็นไปโดยสงบ ปราศจากอาวุธ ไม่ได้เข้าข่ายความผิดตามข้อหาก่อการร้ายตามที่ถูกอภิปราย
การอภิปราย ไม่ไว้วางใจ 2553 วันที่ 31 พฤษภาคม
สำหรับการอภิปราย เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม เป็นวันแรกนั้น บรรยากาศการอภิปรายมีความวุ่นวายและดุดัน ทั้งจากพรรคฝ่ายค้านและการโต้ตอบจากรัฐบาล
โดยนาย จตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และ แกนนำ นปช. ได้ขึ้นอภิปรายเมื่อเวลาประมาณ 23.20 น. ด้วยการบอกว่า ตอนนี้สถานะของตนก็เหมือนกันกับ นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ที่เคยร่วมกับฝ่ายพันธมิตรและโดนตั้งข้อหายึดสนามบิน และหากปิดประชุมแล้วจะออกหมายจับก็ให้ออกหมายจับได้เลยทั้ง 5 คดี
หลังจากนั้นนายจตุพร ก็กล่าวถึงเหตุการณ์ปะทะกัน ระหว่างเจ้าหน้าที่ทหารกับกลุ่ม นปช. ว่า ตนขึ้นอภิปรายก็เพื่อทวงความยุติธรรมให้วีรชนที่ต้องบาดเจ็บล้มตาย เนื่องจากนายสุเทพบอกว่า ผู้ตายบางคนมีคดีติดตัว แต่นายสุเทพไม่มีสิทธิ์ในการเหมารวม
นอกจากนี้นายจตุพร ยังมีการพูดถึงเหตุการณ์เผาสถานที่สำคัญต่าง ๆ ใจกลาง กทม. ว่าอาคารต่าง ๆ ที่ถูกเผา ทั้งเซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นเตอร์วัน อาคารมาลีนนท์ หรือธนาคารกรุงเทพ หลายสาขา หากรัฐบาลอ้างว่ากลุ่ม นปช. เผาจริง ทำไมไม่มีการจับกุมได้เลยแม้แต่คนเดียว ทั้งที่การเผาศาลากลางมีการจับกุมผู้ก่อเหตุได้หลายคน อีกทั้งห้างเกษรพลาซ่า ก็เป็นของลูกสาวและลูกเขยคนในพรรคประชาธิปัตย์ ทำไมพวกตนถึงไปเผาเซ็นทรัลเวิลด์ อีกทั้งเรื่องอาวุธที่ ศอฉ. นำมาแถลงนั้น ก็คือการยัดเยียดอาวุธ และทำไมไม่มีการชันสูตรพลิกศพทุกศพ จะได้รู้ว่าทั้งสองฝ่ายเสียชีวิตเพราะอะไร
โดยในระหว่างที่นายจตุพรกำลังอภิปรายนั้น มี ส.ส. จากพรรคประชาธิปัตย์ ประท้วงอยู่เป็นระยะ เช่น นายอรรถพร พลบุตร ส.ส.เพชรบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ที่ตั้งข้อสังเกตว่า นายจตุพรกำลังอภิปรายหรือแก้ข้อกล่าวหาก่อการร้ายอยู่
ด้านนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ก็มีการลุกขึ้นอธิบายตอบโต้ และย้อนกลับนายจตุพรว่า ตนเองไม่เคยเอาความผิดของตนมาฟอกในสภา
ขณะที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ก็ได้มีการชี้แจงถึงข้ออภิปรายต่าง ๆ ของนายจตุพร ว่า นายจตุพรหัวใจทำด้วยอะไร จึงโหดเหี้ยมอำมหิต รับจ้างมาหลอกให้ผู้คนต้องมาบาดเจ็บล้มตาย เพราะเห็นแก่เงิน และเห็นแก่นายเก่า โดยบอกว่านายจตุพรทำบาปมหาศาลและต้องได้รับบาปนั้น และที่ทหารทำการสลายการชุมนุมก็ทำไปตามหลักสากล
อีกทั้งนายสุเทพ ยังกล่าวด้วยว่า นายจตุพรใช้คนชรา และผู้หญิงเป็นโล่กำบัง หลายครั้งที่นายจตุพรระแวงว่าจะมีการสลายการชุมนุม แม้กระทั่งได้ยินเสียงนิดหน่อย ก็นอนราบลงกับพื้นเวทีในขณะที่ปราศรัยอยู่ เป็นการเอาตัวรอดก่อนกลุ่ม นปช. ทุกครั้ง โดยตนเชื่อว่า นายจตุพรไม่ได้คิดจะร่วมเป็นร่วมตายกับผู้ชุมนุม หากมีโอกาสก็พร้อมจะหนีก่อนเสมอ นอกจากนี้นายสุเทพยังบอกว่า ตนเล่นการเมืองมา 30 ปี ไม่เคยเห็นใครประกาศไล่ล่าชีวิตคน ชีวิตนายกและลูกเมีย เหมือนที่นายจตุพรทำ
หลังจากรองนายกฯ ชี้แจงเสร็จ นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาฯ ก็ปิดการประชุมในเวลา 02.10 น.
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
