ชูชก
เตือนบูชาชูชก สร้างค่านิยมผิดไม่รู้จักให้ มีแต่ขอ (ไทยโพสต์)
ผู้รู้เตือนสติสังคมไทยเห่อบูชาชูชก ให้บูชาคนที่ควรบูชาจึงจะเกิดมงคลแก่ชีวิต ระบุในคัมภีร์พระไตรปิฎกสอนเรื่องการให้ทาน ไม่ใช่การขอ สะท้อนสังคมตกต่ำทางภูมิปัญญาและจริยธรรม
ขณะนี้มีวัดหลายแห่งทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดได้จัดสร้างเครื่องรางของขลังเป็นรูปชูชก ถึงกับเรียกขานว่าหลวงปู่หรือพ่อปู่ชูชก จนเกิดกระแสนิยมคลั่งไคล้ขึ้นในสังคมไทยอย่างต่อเนื่องและแพร่หลายมากยิ่งขึ้น
สังเกตได้จากการประโคมโฆษณาเชิญชวนให้เช่าบูชาชูชกกันอย่างครึกโครม โดยติดป้ายประกาศอวดอ้างสรรพคุณว่า หากใครได้กราบไหว้ชูชกจะให้ผลสำเร็จทางด้านการค้าขาย โดยเฉพาะในเรื่องการขอ ไม่ว่าใครจะขออะไรก็ได้รับสมความปรารถนาทุกสิ่ง ซึ่งทำให้มีผู้คนนิยมสนใจบูชาชูชกเป็นจำนวนมาก นับเป็นปรากฏการณ์หน้าใหม่ที่ผุดขึ้นในสังคมชาวพุทธอีกครั้งหลังจากกระแสจตุคามรามเทพเงียบหายไปแล้ว
จากการสอบถามผู้รู้เรื่องชูชกที่เป็นตัวละครปรากฏอยู่ในพระเวสสันดรชาดก รศ.ดร.สุภาพรรณ ณ บางช้าง หรือ อาจารย์แม่ชีวิมุตติยา ประธานหอพระไตรปิฎกนานาชาติ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อธิบายว่า การบูชาชูชกเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เพราะพระพุทธเจ้าสอนว่าให้บูชาบุคคลที่ควรบูชา สำหรับชูชกเป็นคนที่ไม่ควรบูชา ในคัมภีร์พระไตรปิฎกระบุไว้ชัดว่าชูชกเป็นบุรุษโทษ ไม่มีความดีสักข้อเลย ไม่ควรที่จะหยิบยกมาเชิดชูบูชา
"เราควรบูชาบุคคลที่เป็นมงคลแก่ชีวิต ไม่ควรยกย่องคนชั่วอย่างชูชก ซึ่งเป็นคนทุจริต คดโกง เอารัดเอาเปรียบ เห็นแก่ตัว ไม่รู้จักพอ เป็นต้น ในที่สุดชีวิตชูชกก็ตายอย่างน่าสมเพชเวทนา เพราะกินจนท้องแตกตาย ปรากฏการณ์นี้สะท้อนภาพสังคมอันตกต่ำทางสติปัญญา จริยธรรมและคุณธรรม อีกทั้งยังแสดงให้เห็นถึงสภาพสังคมแห่งการขอ ไม่อยากเป็นผู้ให้" รศ.ดร.สุภาพรรณกล่าว
อาจารย์แม่ชีวิมุตติยา บอกว่า เราควรจะบูชาคนดี ผู้ซึ่งมีแนวทางปฏิบัติหรือการดำเนินชีวิตเป็นแบบอย่างที่ดีให้เราประพฤติตามจึงจะเป็นมงคลแก่ชีวิต เราควรยึดหลักอิทธิบาท 4 ไม่ควรพึ่งพาอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ การบูชาชูชกยังถือว่าผิดหลักกฎแห่งกรรม ถ้าเราอยากประสบผลสำเร็จก็ต้องปฏิบัติตามคนดี ไม่ใช่ไปกราบไหว้คนไม่ดีหรือเอาอย่างชูชก ซึ่งเป็นคนไม่ทำมาหากิน เอาแต่ได้ เจ้าเล่ห์ ปลิ้นปล้อน หลอกลวง
นอกจากนี้ อดีตชาติของชูชกยังเป็นพระเทวทัต ซึ่งก็เป็นผู้จ้องทำร้ายพระพุทธเจ้า ก่อกรรมหนักจนทำให้พระพุทธเจ้าห้อเลือด เนื่องจากการกลิ้งหินก้อนใหญ่หมายฆ่าพระพุทธเจ้า และยังทำให้พระสงฆ์แตกแยก เป็นบาปกรรมที่ทำให้พระเทวทัตต้องถูกธรณีสูบลงไปชดใช้กรรมในอเวจีมหานรก
พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี หรือ ว.วชิรเมธี ผู้อำนวยการสถาบันวิมุตตยาลัย กล่าวว่า การปลุกเสกรูปชูชกขึ้นมาเป็นวัตถุมงคล สะท้อนให้เห็นถึงความเสื่อมของสังคมไทยที่เห็นกงจักรเป็นดอกบัว โดยผู้สร้างชูชกผลิตชุดคำอธิบายขึ้นมาอ้างว่า ชูชกมีส่วนดีที่ทำให้พระเวสสันดรสำเร็จบำเพ็ญเพียรบารมีจนเป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นเรื่องไม่สมเหตุสมผล และตีความหนังสือไม่แตก เพราะฉากสุดท้ายในชีวิตของชูชกหลังจากขอกัณหาชาลีได้แล้ว ชูชกมาร่วมงานเลี้ยง แต่ท้องแตกตายเพราะกินไม่รู้จักพอ ดังนั้น การบูชาชูชกคือ การบูชาความโลภ คนที่ควรได้รับการบูชาคือ พระเวสสันดร เพราะเป็นต้นแบบของผู้ให้
"ชูชกเป็นตัวละครที่ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อให้เห็นด้านมืดหรือฝ่ายตรงข้ามของความดีคือ พระเวสสันดร การปลุกกระแสชูชกถือเป็นเรื่องที่สังคมไทยขาดความเข้าใจในแก่นแท้ของพระพุทธศาสนา ไม่รู้ว่าอันไหนเปลือกหรือแก่น และยังถูกครอบงำโดยลัทธิบริโภคนิยม ทำอะไรก็ได้ขอให้ร่ำรวยโดยไม่คำนึงถึงความสง่างาม ขอให้ได้เงินแต่เสียนิสัย ขอให้ยิ่งใหญ่แต่ไม่ยั่งยืน" พระอาจารย์ ว.วชิรเมธี กล่าวเตือนสติสังคมไทย
ด้านพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือหลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จังหวัดนครปฐม วัดที่มีชื่อเสียงด้านวัตถุมงคล กล่าวว่า ที่วัดไผ่ล้อมไม่จัดสร้างชูชกไว้บูชา เพราะเป็นสิ่งที่ครูบาอาจารย์ไม่เคยสอนหรือไม่มีอยู่ในตำรา เห็นว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรบูชา เพราะที่ประเทศอินเดียได้เห็นภาพฤาษีชีเปลือยเดินเพ่นพ่านขอทานเหมือนชูชก ก็คิดว่าหากใครกราบไหว้บูชาก็เป็นเรื่องไม่ดีกับตัวเอง แต่ก็เป็นสิทธิของแต่ละวัดที่จัดสร้างขึ้นมา และไม่สามารถห้ามคนเคารพศรัทธาได้ เพราะเป็นเรื่องสิทธิเสรีภาพ แต่คงต้องช่วยกันเตือนสติ ชี้แนะให้ศึกษาประวัติความเป็นมาหรือตำนานของวัตถุมงคลนั้นๆ จนถ่องแท้เสียก่อนจะบูชาสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
"ครูบาอาจารย์ท่านไม่สอนให้กราบไหว้ชูชก ซึ่งตามพระไตรปิฎกแล้วชูชกเป็นบุรุษโทษ วันหนึ่งเมื่อคนนิยมบูชาชูชกน้อยลง วัตถุมงคลก็จะเสื่อมสูญไปเองตามสัจธรรม" เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อมกล่าว
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก akefuture.com
