2 ข้าราชการต้นแบบ ครูสมยศ พงศาปาน - ช่อทิพย์ โคตรโน

ครูสมยศ พงศาปาน คนดีของแผ่นดิน

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ทีวีบูรพา , thaireform.in.th

          เป็นอีก 2 "คนดีของแผ่นดิน" ที่เราควรยึดถือแนวทางการดำรงชีวิตเป็นแบบอย่างสำหรับ "ครูสมยศ พงศาปาน" ข้าราชการครูแห่งจังหวัดนครศรีธรรมราช และ "ช่อทิพย์ โคตรโน" ข้าราชการที่ทุกคนยกย่องในความซื่อสัตย์สุจริต จนทำให้ทั้งสองได้รับรางวัล "คนดีของแผ่นดิน" จากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปรามปรามการทุจริตในภาครัฐ (ปปท.) กระทรวงยุติธรรม 

          โดย "ครูสมยศ พงศาปาน" เป็นข้าราชการครูโรงเรียนบ้านขอนหาด อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช โรงเรียนประถมเล็ก ๆ ที่มีนักเรียนเพียงสองร้อยกว่าคน แต่โรงเรียนแห่งนี้กลับเลื่องชื่อเป็นอย่างมาก ในฐานะทีมวอลเลย์บอลที่เป็นแชมป์ประเทศไทยติดต่อกันสามปีซ้อน จนได้รับถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพฯ มาครองเป็นกรรมสิทธิ์ และสมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย ยังได้มอบประกาศนียบัตรให้กับชุมชนแห่งนี้เป็นกรณีพิเศษ ในฐานะชุมชนแห่งกีฬาวอลเลย์บอลดีเด่น และที่จะลืมไม่ได้เลยก็คือ ความสำเร็จที่โรงเรียนบ้านขอนหาดได้รับนั้น กำลังสำคัญมาจาก "ครูสมยศ พงศาปาน" คนนี้

           นั่นเพราะนอกเหนือจากการสอนหนังสือวิชาประวัติศาสตร์ เพื่อให้ความรู้เรื่องความเป็นชาติกับเด็ก ๆ แล้ว ครูสมยศ ซึ่งยังรับหน้าที่เป็นครูสอนลูกเสือ-เนตรนารี และครูพละไปพร้อม ๆ กัน ยังเห็นว่า "กีฬา" คือยาวิเศษสำหรับเยาวชน เขาจึงผลักดันและปลุกปั้นโครงการ "กีฬาเพื่ออนาคต (วอลเล่ย์บอล)" ให้เยาวชนในบ้านเกิดใช้ความสามารถด้านกีฬาวอลเลย์บอล เป็นใบเบิกทางก้าวขึ้นไปสู่เส้นทางสดใสในอนาคต ครูสมยศ จึงทุ่มเทเวลาทุก ๆ นาทีในการคิดค้นเทคนิคที่ทำให้เด็ก ๆ เล่นวอลเลย์บอลได้เก่งขึ้น และคอยอยู่ฝึกซ้อมกับเด็ก ๆ มาโดยตลอด

          กว่า 15 ปีที่ "ครูสมยศ" ปลุกปั้นโครงการนี้ ในฐานะศิษย์เก่าคนหนึ่งของโรงเรียนบ้านขอนเก่า เขาได้ส่งเสริมให้ศิษย์หลายต่อหลายรุ่นเล่นวอลเลย์บอล จนคว้าแชมป์มินิวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทยมาได้หลายสมัย และสร้างชื่อเสียงระดับประเทศให้กับตำบลขอนหาด แถมยังมีบางคนถึงขั้นติดทีมชาติไทยด้วย นอกจากนี้บรรดาเด็ก ๆ ที่มีความสามารถด้านวอลเลย์บอล ก็สามารถนำความสามารถด้านนี้ไปเป็นโควต้าเข้าศึกษาต่อในสถานศึกษาดี ๆ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ๆ ใด เท่ากับว่า "กีฬา" ได้สร้าง "อนาคต" ให้แก่เยาวชนของ ณ ตำบลขอนหาดแห่งนี้

           แม้ว่าในช่วงแรก ๆ ของการทำทีมวอลเลย์บอลของครูสมยศ จะมีปัญหาเรื่องงบประมาณค่อนข้างมาก และยังมีปัญหาที่พ่อแม่ผู้ปกครองหลายคนไม่เข้าใจ เพราะเด็ก ๆ ใช้เวลากับการเล่นวอลเลย์บอลมาก แต่ครูสมยศและทีมงานของเขา ก็สามารถอธิบายให้พอ่แม่ผู้ปกครองเข้าใจ และหันมาส่งเสริมให้เด็ก ๆ หันมาเล่นกีฬามากขึ้น โดยไม่หันไปยุ่งกับสิ่งยั่วยุ อย่างเช่น เกมส์ หรือ ยาเสพติด

          หากจะถามว่า ตลอด 15 ปีที่ผ่านมา "ครูสมยศ" ทุ่มเทแรงกายและแรงใจทั้งหมดไปเพื่ออะไร เขาตอบกลับโดยไม่ลังเลเลยว่า เขาต้องการสร้างเยาวชนให้เป็นเมล็ดพันธุ์ที่ดีของสังคม และต้องการให้กิจกรรมกีฬาช่วยหล่อหลอมให้เกิดความรัก ความสามัคคีขึ้นในชุมชน จนกลายเป็น "หมู่บ้านเข้มแข็ง" ในที่สุด นั่นเพราะเมื่อมีการแข่งขันกีฬาวอลเล่ย์บอลทีไร ชาวบ้านจะร่วมใจกันมาเชียร์ และให้กำลังใจลูกหลานของพวกเขาทุกครั้ง

          ขณะที่ข้าราชการดีเด่นอีกท่าน ก็คือ "ช่อทิพย์ โคตรโน" นักตรวจสอบภาษีผู้ชำนาญการ สำนักงานสรรพากรพื้นที่กรุงเทพฯ 21 ซึ่งได้รับการยกย่องจากผู้บังคับบัญชา และเพื่อนร่วมงานว่า เป็นคนดีและซื่อสัตย์สุจริตเป็นอย่างมาก 

          แม้ว่างานของ "ช่อทิพย์ โคตรโน" จะคาบเกี่ยวอยู่บนเส้นด้ายที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตทางการเงินได้ง่าย ๆ หากเธอเลือกเดินเส้นทางผิด แต่ทว่า "ช่อทิพย์ โคตรโน" ไม่เคยคิดที่จะใช้ลู่ทางหน้าที่การงานที่เธอได้รับมอบหมายไปเอื้อผลประโยชน์ให้แก่ตัวเอง หรือครอบครัวแม้แต่ครั้งเดียว
       
          นั่นเพราะ "ช่อทิพย์ โคตรโน" ยึดคติหนึ่งตอกย้ำกับตัวเองอยู่ในดวงใจเสมอว่า "ข้าราชการ" คือ "ข้าราชการของในหลวง" ดังนั้นเธอต้องยึดมั่นรักษาเกียรติ และศักดิ์ศรีนี้ ด้วยการแสดงออกประพฤติตนเป็นข้าราชการที่ดีมาโดยตลอด ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มเข้ามาทำงาน ดังนั้นทุกคนในกรมสรรพากรต้องภูมิใจ เพราะถือว่าเป็นคนหาเงินเข้ารัฐ ให้รัฐนำไปพัฒนาประเทศ

          ตลอดเวลา 19 ปีที่ "ช่อทิพย์ โคตรโน" ทำงาน เธอไม่เคยมาสายเลยแม้แต่ครั้งเดียว ซ้ำยังมาเช้าเสียทุก ๆ วัน และกลับทีหลังแทบจะตลอด เพราะเธอถือว่า เธอเป็นข้าราชการ จะต้องทุ่มเทให้กับการทำงาน รวมทั้งการออกตรวจพื้นที่ตามบริษัท หรือโรงงานแต่ละแห่งที่เธอจะต้องใช้ความรอบคอบ ความละเอียดเป็นอย่างมาก เพื่อให้เกิดความถูกต้อง และเป็นธรรมมากที่สุด เพราะงานของเธอเกี่ยวข้องกับการเงินของประเทศ ดังนั้นเธอจะผิดพลาดไม่ได้แม้แต่เพียงนิดเดียว เพื่อเป็นการตอบแทนประชาชน ที่เป็นผู้เสียภาษีให้เงินเดือนกับเธอ

          แม้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา "ช่อทิพย์ โคตรโน" จะเคยได้รับข้อเสนอจากผู้ประกอบการบางรายให้ช่วยเหลือ โดยจะให้เงินตอบแทนจำนวนมาก แต่ "ช่อทิพย์ โคตรโน" ก็รายงานไปตามตรง แม้ว่าในใจเธอจะรู้สึกกลัวบ้าง แต่เพราะหน้าที่และความถูกต้อง "ช่อทิพย์ โคตรโน" จึงไม่ลังเลที่จะทำตามกฎหมาย รวมทั้งคำสั่งสอนของพ่อ ที่เธอจำไว้ขึ้นใจ ว่า "พ่อไม่มีสมบัติอะไรให้ มีแต่ความรู้ ดังนั้นให้เรียนหนังสือเก่ง ๆ ให้ทำความดี มีความซื่อสัตย์ในอาชีพการงาน แล้วจะได้ดีเอง"

          ด้วยความประพฤติ และจิตใจที่ดีงาม ของข้าราชการทั้ง 2 คน จึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมทั้งสองท่านจึงได้รับการยกย่องเป็น "คนดีของแผ่นดิน"

   ร่วมปลุกพลังบวก เปลี่ยนประเทศไทย ได้ที่นี่ค่ะ    

ขอขอบคุณข้อมูลจาก