เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
วันนี้ (25 กันยายน) พระปราโมทย์ ปาโมชโช ได้เปิดสวนสันติธรรม อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ให้สื่อมวลชนเข้าร่วมปฏิบัติธรรม พร้อมกับลูกศิษย์ลูกหาจำนวนมากที่ เข้ามาฟังธรรมคำเทศนา กว่า 300 คนโดยก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์กันว่า พระปราโมทย์ จะเป็นผู้แถลงข่าวชี้แจงถึงข้อเท็จจริงเองทั้งหมดต่อสื่อมวลชนในวันนี้
โดยหลังจากคณะสื่อมวลชนปฏิบัติธรรมเสร็จในช่วงเช้า เจ้าหน้าที่ของสวนสันติธรรมได้พาสื่อมวลชนเข้าไปชมยังจุดต่าง ๆ ที่เป็นข้อสงสัยและถูกกล่าวหา เช่น ที่กุฎิของผู้ที่มาปฏิบัติธรรม ซึ่งแต่ละหลังห่างกันและมองไม่เห็นกัน เพราะมีต้นไม้ปลูกอยู่หนาทึบ รวมทั้งยังพาไปชมกุฏิหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช ซึ่งมีรั้วรอบอย่างมิดชิด มีต้นไม้ขึ้นหนาทึบ ไม่สามารถมองเห็นกุฎิในแต่ละหลังได้
แต่อย่างไรก็ตาม สื่อมวลชนไม่สามารถเข้าไปใกล้บริเวณกุฏิได้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ให้เหตุผลว่า พระภิกษุ หรือ อุบาสิกา กำลังปฏิบัติธรรมอยู่ จึงห้ามรบกวน และตลอดการนำชมเส้นทางในสวนสันติธรรม เจ้าหน้าที่ได้ให้คณะผู้สื่อข่าวเดินตามเส้นทางที่กำหนดไว้ให้เดินเท่านั้น ส่วนบริเวณที่ไม่อนุญาตจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมายืนกันไว้ในบางเส้นทาง
หลังจากเยี่ยมชมสถานที่ต่าง ๆ เป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมงแล้ว นายธนเดช พ่วงพูล ทนายความของสำนักปฏิบัติธรรม สวนสันติธรรม ได้แถลงข่าวแทนพระปราโมทย์ว่า ได้รับแจ้งจากผู้สื่อข่าวว่า นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดี DSI ได้ตรวจสอบเรื่องเงินบริจาค ที่ดิน และพระธรรมวินัย แล้วไม่พบว่า พระปราโมทย์กระทำผิดตามข้อกล่าวหาใด ๆ แต่จะต้องดูข้อเท็จจริงต่อไปอีกระยะหนึ่ง
ทั้งนี้ทางสวนสันติธรรม จะไม่มีการฟ้องกลับผู้ที่กล่าวหาให้สวนสันติธรรมเสียหายอย่างแน่นอน แม้จะมีลูกศิษย์ของพระปราโมทย์ตั้งใจจะยื่นฟ้องกลับ แต่พระปราโมทย์ได้ห้ามปรามไว้ เพราะไม่อยากสร้างกรรมต่อกัน และนายธนเดช ยังได้ชี้แจงเรื่องเงินในบัญชีของสวนสันติธรรม โดยระบุว่า สวนสันติธรรมมีเงินฝากจำนวน 7 บัญชี มีจำนวนยอดเงินรวม 21,154,992.10 บาทเท่านั้น
ขณะที่นายสุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา ลูกศิษย์ผู้ใกล้ชิดที่เริ่มปฏิบัติธรรมมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2543 ก็ได้ตอบข้อซักถามของสื่อมวลชนในประเด็นที่หลวงพ่อปราโมทย์เขียนจดหมาย และใช้คำว่า "ลูก" แทนนางฐิตินาถ ณ พัทลุง เนื่องจาก นางฐิตินาถ ณ พัทลุง ได้มาขอกราบให้รับหลวงพ่อรับเป็นลูกสาว ส่วนการที่เขียนจดหมาย เพราะต้องการให้เกิดความมานะพากเพียรปฏิบัติ เพื่อให้พ้นทุกข์ตามหลักสอนของศาสนาพุทธ
ทั้งนี้ ยังได้ยืนยันว่า แนวคำสอนและการปฏิบัติของพระปราโมทย์ เป็นไปตามหลักคำสอนตามพระพุทธศาสนาที่เน้นให้รู้จักสภาวะทางจิต การปฏิบัติภาวนา การเดินจงกรม การดูลมหายใจ ร่วมกับศีล สมาธิ ปัญญา ซึ่งหากตรวจสอบข้อร้องเรียนของผู้กล่าวหาแล้ว จะพบไม่มีมูลความจริงแต่อย่างใด และเป็นการใส่ร้าย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
