1 ตุลาคม วันผู้สูงอายุสากล


          วันผู้สูงอายุสากล ตรงกับวันที่ 1 ตุลาคม ของทุกปี มีขึ้นเพื่อให้เห็นคุณงามความดีของผู้สูงอายุที่สร้างสรรค์สิ่งดีงามและทำคุณประโยชน์มาค่อนชีวิต

ผู้สูงอายุ

            ปัจจุบันนี้มนุษย์มีอายุขัยเฉลี่ยเพิ่มขึ้น เนื่องจากวิวัฒนาการทางการแพทย์ที่ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ประชากร "วัยสูงอายุ" ยิ่งเพิ่มมากขึ้นทุก ๆ ปี โดยองค์การสหประชาชาติได้คาดการณ์ว่า ในปี ค.ศ. 2025 (พ.ศ. 2568) จะมีประชากรที่อายุมากกว่า 60 ปี ถึง 1,200 ล้านคน ทั่วโลก และในปี ค.ศ. 2050 (พ.ศ. 2593) จะมีประชากรที่มีอายุมากกว่า 60 ปี ทั่วโลกถึงเกือบ 2,000 ล้านคนเลยทีเดียว

            แต่ทว่าในจำนวนผู้สูงอายุที่มากขึ้นนี้ กลับมีผู้สูงอายุอีกหลายคนที่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวและถูกทอดทิ้งโดยไม่เห็นคุณค่า และนี่ก็คือที่มาของการกำหนดให้ วันที่ 1 ตุลาคม ของทุกปี เป็นวันผู้สูงอายุสากล

ที่มาของวันผู้สูงอายุสากล


            องค์การสหประชาชาติ กำหนดให้ทุกวันที่ 1 ตุลาคม ของทุกปี เป็น "วันผู้สูงอายุสากล" หรือ "International Day of Older Persons" โดยกำหนดขึ้นเป็นครั้งแรกในวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 1991 (พ.ศ. 2534) จากการประชุมขององค์การสหประชาชาติ เมื่อปี ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533) ทั้งนี้ เมื่อปี พ.ศ. 2525 องค์การสหประชาชาติได้เคยจัดประชุมสมัชชาโลกเกี่ยวกับผู้สูงอายุ ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย และได้ให้ความหมายของคำว่า "ผู้สูงอายุ" ว่า

            ผู้สูงอายุ คือ บุคคลที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ทั้งชายและหญิง แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ ผู้สูงอายุตอนต้น คือ บุคคลที่มีอายุ 60-69 ปี ทั้งชายและหญิง และผู้สูงอายุตอนปลาย คือ บุคคลที่มีอายุ 70 ปีขึ้นไป ทั้งชายและหญิง

ผู้สูงอายุ


จุดประสงค์ของการกำหนดวันผู้สูงอายุสากล


            วันผู้สูงอายุสากล ถือเป็นวันสำคัญของผู้สูงอายุทั่วโลก เพราะแต่ละแห่งทั่วโลกจะจัดงานเฉลิมฉลองให้กับผู้สูงอายุ เพื่อแสดงให้เห็นถึงคุณค่าของผู้สูงอายุ ให้คนทั่วไปตระหนักว่าชั่วชีวิตที่ผ่านมาผู้สูงอายุได้สร้างคุณประโยชน์ คุณงามความดีไว้มากมาย รวมทั้งสรรค์สร้างทุก ๆ สิ่งมาให้กับสังคมตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบัน

วันผู้สูงอายุในแต่ละประเทศ


            ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกล้วนให้ความสำคัญกับวัยสูงอายุเป็นอย่างมาก และมีการกำหนดวันเพื่อเฉลิมฉลองและตระหนักถึงคุณงามความดีของผู้สูงอายุ เช่น "วันผู้สูงอายุแห่งชาติ" (National Grandparents Day) ของประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศแคนาดา ขณะที่ประเทศญี่ปุ่นก็มีวันให้ความเคารพต่อผู้สูงอายุเช่นกัน (Respect for the Aged Day) ซึ่งตรงกับวันจันทร์สัปดาห์ที่ 3 ของเดือนกันยายนของทุกปี

            สำหรับในประเทศไทยได้ตระหนักถึงคุณค่าของผู้สูงอายุเช่นกัน โดยรัฐบาล พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ ได้กำหนดให้วันที่ 13 เมษายน ของทุกปี ซึ่งถือเป็นวันสงกรานต์ และวันปีใหม่ของไทย เป็นวันผู้สูงอายุแห่งชาติ พร้อมแต่งตั้งคณะกรรมการจัดงานวันผู้สูงอายุแห่งชาติ มีปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธาน และจัดให้มีกิจกรรมต่าง ๆ สำหรับผู้สูงอายุทุกปี

            นอกจากการกำหนดให้วันที่ 13 เมษายน เป็นวันผู้สูงอายุแห่งชาติแล้ว ยังได้กำหนดให้ "ดอกลำดวน" เป็นสัญลักษณ์ของผู้สูงอายุด้วย ซึ่งสาเหตุที่เลือก "ดอกลำดวน" เนื่องจากต้นลำดวน หรือหอมหวล (Melodorum fruticosum Lour) ตามชื่อไทยพื้นเมือง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Sphaerocoryne clavipes. จัดอยู่ในวงศ์ Annonaceae. เป็นพืชยืนต้นที่มีอยู่มากในสวนสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี คอยให้ความร่มเย็น ลำต้นของลำดวนมีอายุยืน มีใบเขียวตลอดปี ดอกสีเหลืองนวล กลิ่นหอมเย็น กลีบแข็งแรงไม่ร่วงง่าย เปรียบเหมือนกับผู้ทรงวัยวุฒิที่คงคุณธรรมคุณงามความดีให้กับลูกหลานไว้เป็นแบบอย่างสืบต่อไป

            ด้วยเหตุนี้ลูกหลานทุกคนควรที่จะเอาใจใส่และแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้สูงอายุ รวมทั้งตระหนักถึงคุณค่าและเห็นความสำคัญของผู้สูงอายุทุกท่านกันด้วยนะคะ

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
1 ตุลาคม วันผู้สูงอายุสากล อัปเดตล่าสุด 1 ตุลาคม 2567 เวลา 11:05:36 69,441 อ่าน
TOP
x close