มูลนิธิเพื่อนหญิงเห็นด้วยแก้กม.ทำแท้ง (ไอเอ็นเอ็น)
ผจก.มูลนิธิเพื่อนหญิง เผย เห็นด้วยกับการแก้ไข กฎหมายทำแท้ง ชี้เป็นทางเลือกให้ผู้หญิงไทย แนะควรแก้ปัญหาในหลายมิติพร้อมๆ กัน
นายจะเด็จ เชาว์วิไล ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อนหญิง เปิดเผย สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า เห็นด้วยกับกฎหมายการทำแท้ง ที่ทางพรรคประชาธิปัตย์เสนอ เพราะถือว่าเป็นทางเลือกของผ้หญิงที่ถูกกระทำทางเพศ และไม่มีความพร้อม ในการ เลี้ยงดูบุตร ซึ่งจากข้อมูลปีๆ หนึ่ง จะมีผู้หญิงประมาณ 60 กว่าราย ที่มาร้องเรียน ส่วนใหญ่ระบุว่า ผู้ชายไม่รับผิดชอบ และกลัวพ่อแม่ต่อว่า จึงไม่มีทางออก และผู้ชายมีค่านิยมไม่สวมถุงยางอนามัยกับผู้หญิง ทำให้เกิดตั้งครรภ์ขึ้นมา และนำมาสู่การทำแท้งดังกล่าว
ผจก. มูลนิธิเพื่อนหญิง กล่าวอีกว่า หากปล่อยเสรีในเรื่องการทำแท้งแล้ว ผู้หญิงจะแห่มาทำแท้งมากขึ้นหรือไม่นั้น คงไม่ใช่ทั้งหมด เพราะต้องมองว่า คนที่ทำแท้งเขามีปัญหาจริงๆ ดังนั้นต้องรณรงค์ควบคู่กันไป คือ ให้ผู้ชายเคารพสิทธิของผู้หญิงด้วย ไม่ใช่มองแค่เป็นวัตถุทางเพศเท่านั้น การแก้กฎหมายคือทางออก เยียวยาคนที่ไม่มีทางเลือก
ส่วน พ.ร.บ.เจริญพันธุ์ ที่อยู่ในสภา จะเป็นเครื่องมืออีกอย่าง ที่จะทำให้ปัญหานี้ดีขึ้น ต้องแก้ปัญหาในหลายๆ ส่วน ไม่ใช่แก้แค่มิติเดียว ต้องทำไปพร้อม ๆ กัน
ขณะที่ เซียนหวยบุกวัดไผ่เงินจุดธูปบนบานขอหวยทารกเหยื่อทำแท้ง โรคจิตโทร.หลอกตำรวจขุดหาซาก เตรียมทำบุญใหญ่ 27 พ.ย. "องอาจ" พบเลขาฯ เจ้าอาวาสขอรื้อโกดังเก็บศพทำสำนักวิปัสสนา
ประชาชนยังคงทยอยไปที่วัดไผ่เงินโชตนาราม เขตบางคอแหลม สถานที่พบศพทารกกว่า 2 พันศพที่ถูกทำแท้งแล้วนำซากใส่ถุงพลาสติกไปทิ้งไว้ในโกดังเก็บศพของวัด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวันที่ 21 พฤศจิกายนนี้ มีผู้ไปจุดธูป-เทียนและวางเครื่องเซ่นเพื่อให้วิญญาณทั้งหลายได้ไปสู่สุคติ ขณะเดียวกันก็มีผู้ที่ชอบแทงหวยจำนวนไม่น้อยพากันไปขอหวยตามแต่ความเชื่อของแต่ละคน โดยเซียนหวยเหล่านี้จำนวนหนึ่งมาจากต่างจังหวัด
ต่อมาเจ้าหน้าที่สายตรวจ สน.วัดพระยาไกร เดินทางไปตรวจบริเวณป่ากล้วยริมคลองติดกำแพงหลังวัด หลังมีผู้โทรศัพท์แจ้งไปยัง สน.ว่าพบซากทารกอีก 20 ศพถูกนำไปฝังไว้ แต่เมื่อตรวจโดยละเอียดแล้วไม่พบสิ่งผิดปกติ เข้าใจว่าเป็นพวกคอยผสมโรงสร้างความวุ่นวายโทรศัพท์ไปหลอกเจ้าหน้าที่
วันเดียวกัน นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปที่วัดเพื่อสอบถามความคืบหน้าเรื่องนี้จากพระครูวิจิตร สรคุณ เจ้าอาวาสวัดไผ่เงิน แต่เจ้าอาวาสอาพาธตั้งแต่วันที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา จึงมอบหมายให้พระทิวา ธรรมชัยโย เลาขานุการ มาพบแทน ทั้งนี้ นายองอาจก็ได้นำอาหารประกอบด้วย น้ำอัดลม นมถั่วเหลือง และนมกล่อง มาเป็นเครื่องเซ่นให้วิญญาณทารกทั้ง 2,002 ศพด้วย
นายองอาจกล่าวว่า เมื่อ 3 วันก่อนได้สั่งการให้ทีมงานเดินทางมาประสานกับทางวัดและเจ้าหน้าที่ตำรวจครั้งหนึ่งแล้วว่าจะช่วยเหลืออะไรได้บ้าง เนื่องจากมีผู้ใจบุญติดต่อผ่านมาทางตน แจ้งความประสงค์จะขอร่วมทำบุญให้แก่ดวงวิญญาณของทารกจำนวนมาก เบื้องต้นได้ข้อสรุปว่า ในวันเสาร์ที่ 27 พ.ย.นี้ จะมีพิธีทำบุญครั้งใหญ่ นิมนต์พระสงฆ์ทั้งวัดกว่า 40 รูปมาสวดมาติกา บังสุกุล และถวายสังฆทานให้แก่ทารก พิธีจะเริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 09.30 น.เป็นต้นไป หากประชาชนท่านใดสนใจจะร่วมทำบุญก็ขอให้เดินทางมาในวันดังกล่าว
รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า วันที่ 22 พ.ย. จะมาหารือกับทางวัด รวมทั้งสำนักงานเขตบางคอแหลม และ สน.วัดพระยาไกร ถึงการจัดทำบุญดังกล่าว และจะหารือด้วยว่าสมควรทุบทำลายโกดังเก็บศพเพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์อย่างไร เท่าที่ได้คุยกับพระเลขาฯ เจ้าอาวาส คงจะขอความร่วมมือจากสำนักงานเขตให้ช่วยปรับแต่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นสำนักวิปัสสนา
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อคดีสิ้นสุดจะมีการฌาปนกิจศพทารกทั้งหมดหรือไม่ นายองอาจกล่าวว่า คงต้องรอทางนิติเวชชันสูตรให้เรียบร้อยเสียก่อน จึงจะปรึกษากับทางพระชั้นผู้ใหญ่ของวัดไผ่เงินอีกครั้ง เท่าที่ลองสอบถามข้อมูลทราบว่า คนโบราณมีความเชื่อว่าไม่ให้เผาศพเด็กทารก เนื่องจากขณะที่เขามาเกิดยังเพียบพร้อมด้วยศีล 5 ประการ ยังไม่มีฟัน แม้กระทั่งพูดจาโป้ปดก็ยังทำไม่ได้ แต่หากมีความจำเป็นต้องฌาปนกิจกันจริงๆ ก็ต้องปรึกษากับหลายๆ ฝ่ายเพื่อให้ถูกต้องตามคติขนบธรรมเนียมประเพณีของชาวไทยกันต่อไป
นายองอาจกล่าวว่า สื่อมวลชนเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมสร้างทัศนคติและค่านิยมแก่เด็กๆ แต่ต้องยอมรับว่าโลกเราทุกวันนี้เปลี่ยนแปลงไปเร็วจริงๆ ที่ผ่านมา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ก็เล็งเห็นและตระหนักในเรื่องนี้เป็นอย่างดี จึงสั่งการให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์วางมาตรการด้านการสร้างค่านิยมที่ถูกต้องต่อกลุ่มวัยรุ่นอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับองค์กรที่เกี่ยวข้องทั้งเอ็นจีโอ หรือแม้กระทั่งสื่อมวลชนเองก็ตาม ตนเห็นว่าปัจจุบันนี้สื่อก็มีความระมัดระวังในการเผยแพร่ข่าวสารอยู่แล้ว เชื่อว่าหากทุกฝ่ายช่วยกันก็น่าจะทำให้สังคมมีทัศนคติและค่านิยมที่ถูกต้องมากยิ่งขึ้น
พ.ต.ท.ชูศักดิ์ คำทราย พนักงานสอบสวน สน.วัดพระยาไกร กล่าวว่า ภายหลังศาลให้ประกันตัวนายสุเทพ ชะบางบอน อายุ 56 ปี และนายสุชาติ ภูมี อายุ 34 ปี สัปเหร่อประจำวัด ผู้ต้องหาร่วมกันทำลายซ่อนเร้นพยานหลักฐาน ในการกระทำผิดเพื่อช่วยผู้อื่นไม่ให้ต้องรับโทษ ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อขยายผลการจับกุมผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อไป ขณะนี้ได้สอบปากคำพยานที่อยู่ในวัด 6-7 ปาก พร้อมทั้งรอผลชันสูตรศพจากสถาบันนิติเวชตรวจดีเอ็นเอ ว่าซากที่พบเป็นซากเด็กทารกหรือเป็นซากสัตว์ ซึ่งคาดว่าอาจใช้ระยะเวลาสักระยะหนึ่ง เนื่องจากซากศพที่พบนั้นมีเป็นจำนวนมาก
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
