แม่น้องโตมี่โวยกรรมการสิทธิที่ตำหนิตร. (ไอเอ็นเอ็น)
แม่น้องโตมี่ โวย กรรมการสิทธิมนุษยชน ตำหนิการทำงานของตำรวจ หลังวิสามัญ โจ๊ก ไผ่เขียว
ที่บ้านพักในหมู่บ้านไทยธานี ภายในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี นางสำรวย ดีผิว มารดาของน้องโตมี่ กล่าวว่า วันนี้ตนเองและครอบครัว กำลังเตรียมกระเช้าดอกไม้และกระเช้าเครื่องดื่มบำรุงร่ายกาย เพื่อที่จะเดินทางไปเยี่ยม ส.ต.ต.นพดล เหมือนดี และ ด.ต.อรุณ แตงสมุทร เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนนครบาล ที่ถูกกลุ่มคนร้ายยิงด้วยอาวุธสงคราม และรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ เนื่องจากดูจากข่าว แล้วพบว่า ด.ต.อรุณ ได้รับบาดเจ็บสาหัส จากการถูกยิง ซึ่งเหมือนกับอาการของลูกชาย จึงมาเยี่ยมและให้กำลังใจของครอบครัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสองนายเพราะหลังจากเข้าไปดูข่าวทางทีวี และหนังสือพิมพ์แล้วก็รู้สึกเห็นใจ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และครอบครัวที่มาประสบเหตุการณ์คล้ายกับครอบครัวของตนเอง
โดย นางสำรวย ดีผิว มาราดาของน้องโตมี่ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่มีกรรมการสิทธิมนุษยชน เข้ามาตำหนิการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตนขอถามว่า ใช้สมองคิดบ้างหรือเปล่า ว่าคนดีกับคนไม่ดีแตกต่างกันอย่างไร เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะต้องปกป้องชีวิตของตนเอง และไม่ได้มีเรื่องบาดหมางกับคนร้าย แต่อย่างไรขอให้เห็นใจ และยึดคนบริสุทธิ์เป็นหลัก หรือจะให้คนบริสุทธิ์ และตำรวจจะต้องตกเป็นเหยื่อกระสุนอีก พวกท่านคงไม่เข้าใจความรู้สึก เพราะว่าลูกและญาติของท่านไม่ได้ถูกยิง ญาติของคนร้ายออกมาเรียกร้องสิทธิ์ต่าง ๆ นา ๆ
นางสำรวย กล่าวอีกว่า ตนเองซึ่งเป็นคนหาเช้ากินค่ำ กับต้องสูญเสียลูกไป แต่ครอบครัวตนเองก็ยังไม่เคยเรียกร้องสิทธิ์เลย และไม่เห็นกรรมการสิทธิมนุษยชนดังกล่าว จะมาดูแลหรือเรียกร้องอะไรให้กับครอบครัวตนเองเลย ซึ่งตนขอขอบคุณและเป็นกำลังใจให้ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดทำงาน เพราะว่า ท่านทำถูกแล้ว ขอให้สังคมเป็นกำลังใจและเห็นใจเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำงานเพราะปัจจุบันคนร้ายมีอาวุธสงคราม สามารถจะยิงผู้บริสุทธิ์โดยไม่ต้องคิดหรือไตร่ตรองอะไรมากเพียงแค่ชักปืนและลั่นไกออกมาเท่านั้นเอง
ด้าน ส.ต.ท.นพดล กล่าวว่า หากอาการตนหายดีเป็นปกติ ตนจะกลับไปปฏิบัติหน้าที่ต่อไป และไม่ถอดใจเพราะตนรักงานนี้ ขณะที่ทางด้านครอบครัว ส.ต.ท.นพดล ฝากให้ระวังในการทำงาน ได้พร้อมกันนี้ยังฝากไปถึงเพื่อนตำรวจให้ระวังในการปฏิบัติหน้าที่ เพราะเนื่องจากคนร้ายมีความรัดกุมในการระมัดระวังตัวมากยิ่งขึ้น
