การปะทุของภูเขาไฟชินโมเอะดาเกะ
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก reddogreport.com , dunyabulteni.net
เมื่อวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา สำนักข่าวเอเอฟพี (AFP) รายงานว่า ภูเขาไฟชินโมเอะดาเกะ ส่วนหนึ่งของเทือกเขาคิริชิมา บนเกาะคิวชู ประเทศญี่ปุ่น ยังคงปะทุอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทางการสั่งอพยพผู้คนกว่า 600 ครัวเรือนไปพักอาศัยในที่ปลอดภัย พร้อมกับสั่งขยายพื้นที่เสี่ยงภัยเป็น 3 กิโลเมตรจากปล่อยภูเขาไฟแล้ว
โดยเจ้าหน้าที่เมืองทากาฮารุ ได้ประกาศขยายพื้นที่เสี่ยงภัยจากรัศมี 2 กิโลเมตรเป็น 3 กิโลเมตร และได้ประกาศเตือนประชาชนกว่า 1,158 ครัวเรือน เป็นเขตที่มีความเสี่ยงสูง พร้อมกับแนะนำให้ประชาชนที่อยู่ในเขตพื้นที่เสี่ยงดังกล่าว ไปพักอาศัยอยู่ในโรงยิมของโรงเรียนและศาลาประชาคมแล้ว เนื่องจากเกรงว่าประชาชนจะได้รับอันตรายจากเศษเถ้าถ่านภูเขาไฟและหมอกควันจากภูเขาไฟ ซึ่งขณะก็มีประชาชนอพยพไปอยู่ในโรงยิมและศาลาประชาคมกว่า 600 ครัวเรือน ส่วนประชาชนที่เหลือยังคงเลือกพักอยู่ในที่พักอาศัยของตัวเอง
ขณะที่สำนักงานธรณีวิทยา ได้ออกสำรวจภูเขาไฟชินโมเอะดาเกะ และพบว่าปากปล่องลาวามีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ โดยมีขยายขนาดใหญ่ขึ้น 5 เท่าจากวันแรกที่เกิดการปะทุ ทำให้ต้องติดตามความเคลื่อนไหวของภูเขาไฟลูกนี้กันอย่างใกล้ชิด แม้ว่านักธรณีวิทยาด้านภูเขาไฟจะระบุว่า การระบุครั้งนี้จะไม่มีการปล่อยแม็กม่าออกมาแต่อย่างใด แต่ภัยพิบัติทางธรรมชาติก็ไม่อาจไว้ใจได้และไม่อาจคาดการณ์ได้เลย
ทั้งนี้ ภูเขาไฟชินโมเอะดาเกะ มีความสูง 1,421 เมตร เริ่มปะทุตั้งแต่เช้าวันที่ 26 มกราคมที่ผ่านมา จนบัดนี้ก็ยังคงปะทุและปล่อยหมอกควันจำนวนมากขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศอย่างต่อเนื่อง รวมเวลากว่า 5 วันแล้ว ซึ่งการปะทุดังกล่าวเป็นการปะทุครั้งแรกของของภูเขาไฟชินโมเอะดาเกะ และเป็นการปะทุครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 50 ปี ของกลุ่มภูเขาไฟในเทือกเขาคิริชิมา และมันได้สร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนของประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณนั้น โดยเศษหินชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่ลอยออกมาจากปล่อยภูเขาไฟได้ลอยไปกระทบหน้าต่างบ้านเรือนและกระจกรถยนต์จนแตก และเถ้าถ่านภูเขาไฟก็ปกคลุมไปทั่วท้องถนนหนากว่า 5 เซนติเมตร บดบังทัศนวิสัยในการสัญจร ขณะที่โรงเรียนได้ถูกสั่งปิดอย่างไม่มีกำหนด รถไฟและเที่ยวบินภายในประเทศต้องหยุดให้บริการชั่วคราว
