
สืบศักดิ์ ผันสืบ
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก วิกิพีเดีย , สำนักงานกองทุนสนับสนุนเพื่อสุขภาพ(สสส.) , healthcorners.com
จอมเสิร์ฟหน้าหยก โจ้ สืบศักดิ์ ผันสืบ ประกาศอำลาวงการตะกร้อ รับต้นเหตุปัญหาขัดแย้งจากศึกเอเชียนเกมส์-อายุเยอะแล้ว
หลังจากเคยนำทัพเซปักตะกร้อทีมชาติไทยไปคว้าแชมป์มาแล้วมากมาย และล่าสุดกับเหรียญทอง เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 16 หรือ "กว่างโจวเกมส์" ที่ประเทศจีน ล่าสุด จอมเสิร์ฟเบอร์ 1 ของวงการ โจ้ สืบศักดิ์ ผันสืบ เจ้าของฉายา "โจ้ หลังเท้า" ได้ออกมาประกาศอำลาวงการลูกหวายอย่างเป็นทางการแล้ว โดย โจ้ สืบศักดิ์ ยืนยันว่า จะเลิกเล่นทั้งทีมชาติและระดับสโมสรอย่างแน่นอน
สืบศักดิ์ ผันสืบ
ทั้งนี้ โจ้ สืบศักดิ์ ผันสืบ ยอมรับว่า สาเหตุส่วนหนึ่งของการเลิกเล่นตะกร้อและยุติการรับใช้ชาติ มาจากปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในช่วงเอเชียนเกมส์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นปัญหาที่เขาไม่สามารถยอมรับได้ ประกอบกับอายุที่เพิ่มขึ้น สภาพร่างกายไม่แข็งแรงเหมือนแต่ก่อน ขณะเดียวกัน ก็มีนักกีฬารุ่นใหม่ที่สามารถทำผลงานได้ดีหลายคน เขาจึงอยากเปิดทางให้เด็กรุ่นใหม่ขึ้นมาโชว์ผลงานในระดับทีมชาติแทน และนับจากนี้ โจ้ สืบศักดิ์ ก็จะมุ่งมั่นกับการรับราชการตำรวจต่อไปอย่างเต็มที่ ซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่าจะทำให้ดีที่สุดเช่นเดียวกัน
สำหรับ โจ้ สืบศักดิ์ ผันสืบ เกิดเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ.2520 ปัจจุบันอายุ 33 ปี เป็นชาวจังหวัดราชบุรี เริ่มลงแข่งขันเซปักตะกร้อในนามทีมชาติไทยครั้งแรก ในปี พ.ศ. 2539 เป็นการแข่งขันตะกร้อชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 12 ซึ่งเขาสามารถพาทีมชาติไทยคว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ และหลังจากนั้น โจ้ สืบศักดิ์ ก็กลายเป็นแกนนำคนสำคัญในการพานักกีฬาตะกร้อทีมชาติไทยกวาดเหรียญรางวัลมากมาย ไม่ว่าจะเป็น...
- เหรียญทองซีเกมส์ ประเภททีมชุด 7 สมัย ทีมเดี่ยว 7 สมัย
- เหรียญทองเอเชียนเกมส์ ทีมเดี่ยว 3 สมัย และทีมชุด 4 สมัย
- แชมป์คิงส์คัพ ประเภททีมเดี่ยว 14 สมัย และทีมชุด 14 สมัย
ช่วงระยะเวลากว่า 15 ปีเต็ม ของการรับใช้ทีมชาติ จอมเสิร์ฟหน้าหยก โจ้ สืบศักดิ์ ผันสืบ เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของวงการตะกร้อไทย ด้วยฝีมือที่เฉียบขาด และหน้าตาที่หล่อเหลาคมเข้ม ทำให้เขามีแฟนคลับเหนียวแน่นทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะในหมู่สาว ๆ ที่คอยตามกรี๊ดให้กำลังใจอยู่ข้างสนามทุกครั้งที่ลงแข่ง

สืบศักดิ์ ผันสืบ
แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่า สืบศักดิ์ ผันสืบ จะประสบความสำเร็จอย่างสูงกับเส้นทางสายนักกีฬาตะกร้ออาชีพ ทว่าอาชีพที่หนุ่มคนนี้ใฝ่ฝันตั้งแต่เด็ก คือ การเป็นตำรวจ เขาเคยไปสอบเข้าเรียนโรงเรียนนายร้อยตำรวจ แต่ไม่ติด จึงคิดว่าจะใช้ความสามารถด้านกีฬามาเป็นใบเบิกทางสู่การเป็นตำรวจให้จงได้ และฝันของเขาก็เป็นจริงในปี พ.ศ.2545 โจ้ สืบศักดิ์ ผันสืบ ได้รับสิทธิ์โควตาพิเศษประดับยศ ส.ต.ท. กองกำกับการสายตรวจรถยนต์ (191) ดูแลงานป้องกันปราบปรามทั่ว กทม. ก่อนจะเลื่อนขั้นเป็น ร.ต.ต.ในอีก 5 ปีต่อมา และเมื่อเทียบวุฒิปริญญาโทที่ร่ำเรียนจบมา จึงได้เลื่อนยศเป็น ร.ต.ท.สืบศักดิ์ ผันสืบ รอง สว.ธร.กก.1 บก.ตปพ.(191) ช่วยราชการงานสายตรวจ 2
นอกจากอาชีพนักกีฬาเซปักตะกร้อ และการรับราชการตำรวจแล้ว โจ้ สืบศักดิ์ ยังเคยได้สัมผัสงานในวงการบันเทิงที่เขาไม่เคยคิดฝันมาก่อน โดยมีผลงานเล่นมิวสิควิดีโอเพลง "จากวันนี้ไป ให้ใจนำทาง" ของนักร้องลูกทุ่งหน้าหวาน ฝน ธนสุนทร, ละครเรื่อง ใจสู้มุ่งสู่ฝัน, ภาพยนตร์เรื่อง เกิดมาลุย และ หนู กันภัย ศึกมหายันต์ ยิงกันสนั่นจอ รับบทเป็น อาจารย์หนู กันภัย ในวัยผู้ใหญ่
สำหรับใครที่เป็นแฟนคลับตัวยงของ โจ้ สืบศักดิ์ ผันสืบ นับจากนี้ คงไม่ได้เห็นลีลาของ โจ้ หลังเท้า กันอีกแล้ว แต่ยังไงก็อย่าลืมเอาใจช่วยกับอีกบทบาทของ รองสารวัตรโจ้ ที่คอยทำหน้าที่พิทักษ์สันติราษฎร์ดูแลทุกข์สุขของประชาชนกันต่อไปด้วยนะจ๊ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
- th.wikipedia.org
- thaihealth.or.th
- healthcorners.com






