ซานตาคลอส ประวัติคุณลุงใจดีในวันคริสต์มาส


          ประวัติซานตาคลอส คุณลุงใจดีใส่เสื้อสีแดง หนวดเครายาวเฟิ้มมาส่งของขวัญตามบ้านเพื่อเป็นการส่งความสุขเนื่องในวันคริสต์มาส ซานตาคลอสมาจากไหน ไปดูกัน

          ช่วงใกล้เทศกาลคริสต์มาส 25 ธันวาคม เราก็มักจะเห็นภาพคุณลุงเคราขาวพุงพลุ้ยในชุดสีแดงทั้งตัว แบกถุงขนาดยักษ์ที่เต็มไปด้วยของขวัญ พร้อมส่งเสียงหัวเราะ โฮโฮโฮ ปรากฏกายออกมาให้เห็นประจำพร้อมกับเจ้ากวางเรนเดียร์คู่ใจ

"ซานตาคลอส ภาษาอังกฤษคือ Santa Claus"


          แน่นอน ไม่มีใครไม่รู้จัก คุณลุง หรือ ซานตาคลอส ผู้นำของขวัญและความสุขมาให้กับเด็ก ๆ ในเทศกาล "คริสต์มาส" แต่ถ้าถามให้ลึกลงไปว่า จริง ๆ แล้ว คุณลุง ซานตาคลอส คือใครกันแน่ หลายคนอาจส่ายหน้า เช่นนั้นแล้ว กระปุกดอทคอม ก็ขอเปิดตำนาน ซานตาคลอส ให้อ่านรับเทศกาลกันเลยค่ะ

ซานตาคลอส

ประวัติซานตาคลอส


          สำหรับตำนาน ซานตาคลอส (Santa Claus) มีเรื่องเล่าว่า ซานตาคลอสคนแรก คือ นักบุญ (เซนต์) นิโคลัส ผู้เป็นสังฆราชแห่งเมืองไมรา ที่มีชีวิตอยู่ในราวศตวรรษที่ 4 โดยชีวิตในวัยเด็กของเซนต์นิโคลัส อาศัยอยู่ทางฝั่งทะเลตอนใต้ของตุรกี และเขาต้องอยู่ท่ามกลางความหวาดกลัว เนื่องจากชาวโรมัน ผู้ครอบครองดินแดนแถบนั้น กดขี่ชาวคริสเตียน ต่อมาบิดามารดาของเซนต์นิโคลัสเสียชีวิตลงและได้ทิ้งทรัพย์สมบัติให้เขาไว้มากมาย

เซนต์นิโคลัส
อนุสาวรีย์เซนต์นิโคลัส (Saint Nicholas) ที่เมืองบารี ประเทศอิตาลี

          วันหนึ่ง เซนต์นิโคลัสเกิดสงสารครอบครัวเด็กหญิงคนหนึ่งที่ยากจน ด้วยความมีน้ำใจและใจบุญสุนทาน เขาจึงปีนขึ้นไปบนหลังคาบ้านของครอบครัวยากจนนี้ แล้วทิ้งถุงเงินลงไปทางปล่องไฟ แต่บังเอิญถุงเงินหล่นไปทางถุงเท้าที่เด็กหญิงแขวนตากไว้ข้างเตาผิงพอดี ทำให้ครอบครัวแปลกใจที่ใครมาช่วยเหลือพวกเขา ก่อนจะแอบดูและทราบในที่สุดว่า ผู้ใจบุญคนดังกล่าวคือ เด็กหนุ่มนามว่า นิโคลัส นั่นเอง

          ต่อมา นิโคลัส ได้เข้าเป็นนักบวชคริสเตียน ก่อนจะได้ดำรงตำแหน่ง บิชอป แล้วย้ายไปดำรงตำแหน่งสังฆราชแห่งเมืองไมรา (Myra) ซึ่งขณะนั้นท่านสามารถประกอบศาสนกิจได้อย่างเต็มที่แล้ว เพราะจักรพรรดิองค์ใหม่ของอาณาจักรโรมสนับสนุนศาสนาคริสต์ ท่านเซนต์นิโคลัสจึงเผยแผ่ศาสนาและอุทิศชีวิตให้กับคริสต์ศาสนาจนมีชื่อเสียงลือเลื่องไปทั่ว ก่อนจะมรณภาพในวันที่ 6 ธันวาคม ราวปี ค.ศ. 340 คริสต์ศาสนิกชนจึงได้สร้างโบสถ์เก็บรักษาศพของท่านไว้ ณ เมืองไมรา เพื่อให้ผู้แสวงบุญเดินทางมาเคารพศพ และยังได้เกิดปรากฏการณ์มหัศจรรย์ เมื่อมีน้ำมนต์ไหลออกมาจากกระดูกของท่าน ซึ่งเรียกว่า "มานนา"

          แต่ทว่าชาวเมืองบารี เมืองเล็ก ๆ ในอิตาลี ต้องการหาสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวให้กับเมืองของตัวเอง จึงได้ว่าจ้างนักโจรกรรม นำโดยแมทธิว เป็นหัวหน้าของกลุ่ม ไปโจรกรรมกระดูกของเซนต์นิโคลัส ที่เมืองไมรา กลับมายังเมืองบารี เมื่อกลุ่มโจรกรรมทำงานสำเร็จ ชาวบารีก็ได้สร้างโบสถ์เพื่อบรรจุกระดูกเซนต์นิโคลัส และยังพบความมหัศจรรย์ เมื่อมีน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ไหลซึมออกมาจากกระดูกของท่านเช่นเดียวกัน ซึ่งนักแสวงบุญได้นำน้ำมนต์นี้ไปรักษาโรค ก็รักษาได้ผลชะงัด และจากนั้นสถานที่แห่งนี้ก็กลายเป็นสิ่งดึงดูดที่ทำให้คริสต์ศาสนิกชนแห่แหนมาคารวะกระดูกท่านเซนต์นิโคลัสที่เมืองบารีอย่างล้นหลาม


โบสถ์เซนต์นิโคลัส ในเมืองบารี ประเทศอิตาลี

วันเซนต์นิโคลัส


          กระทั่งในคริสต์ศตวรรษที่ 12 ชาวเมืองฝรั่งเศสได้กำหนดให้วันที่ 6 ธันวาคม ของทุกปี ซึ่งเป็นวันมรณภาพของเซนต์นิโคลัส เป็นวันเซนต์นิโคลัส และได้นำถุงเท้าที่ใส่อาหาร ขนม ไปแขวนไว้หน้าบ้านของคนยากไร้ตามแบบอย่างท่าน ก่อนที่ประเพณีนี้จะแพร่อย่างรวดเร็วไปทั่วยุโรป และแพร่หลายไปในสหรัฐอเมริกา ก่อนที่จะได้มีการผนวกวันเฉลิมฉลองเซนต์นิโคลัส เข้ากับวันคริสต์มาส

          ต่อมาจิตรกรนาม "โธมัส นาสต์" (Thomas Nast) ได้เขียนภาพซานตาคลอสขึ้นมาเป็นชายแก่ร่างอ้วนใส่เสื้อผ้า และหมวกสีแดง อาศัยอยู่ที่ขั้วโลกเหนือ มีเลื่อนเป็นยานพาหนะที่มีกวางเรนเดียร์ลาก โดยจะปรากฏตัวในวันคริสต์มาส ลงมาทางปล่องไฟของบ้านเพื่อเอาของขวัญมาให้เด็ก ๆ ที่แขวนถุงเท้าไว้นั่นเอง

ซานตาคลอส วันคริสต์มาส
ซานตาคลอส

          และนี่ตำนานของ ซานตาคลอส ที่บอกเล่าสืบต่อกันมาช้านาน แน่นอนว่าเรื่องราวของ ซานตาคลอส ไม่ใช่เป็นเพียงแค่ตำนานเพื่อเฉลิมฉลองวันคริสต์มาสเท่านั้น แต่ ซานตาคลอส ถือเป็นสัญลักษณ์ของ "ความรัก" และ "ความเมตตา" ที่มีให้เพื่อนมนุษย์ที่ร่วมโลกใบเดียวกันอีกด้วย

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ซานตาคลอส ประวัติคุณลุงใจดีในวันคริสต์มาส อัปเดตล่าสุด 7 ธันวาคม 2566 เวลา 16:03:41 456,620 อ่าน
TOP
x close