ยิ่งกว่าละคร! ลูกสลับกันโดยไม่รู้นานนับ 10 ปี

สลับลูก
สองครอบครัว ที่สลับลูกกันมากกว่า 10 ปี


สองครอบครัว ที่สลับลูกกันมากกว่า 10 ปี
สองครอบครัว ที่สลับลูกกันมากกว่า 10 ปี



สองครอบครัว ที่สลับลูกกันมากกว่า 10 ปี
สองครอบครัว ที่สลับลูกกันมากกว่า 10 ปี


สองครอบครัว ที่สลับลูกกันมากกว่า 10 ปี
สองครอบครัว ที่สลับลูกกันมากกว่า 10 ปี


สองครอบครัว ที่สลับลูกกันมากกว่า 10 ปี
สองครอบครัว ที่สลับลูกกันมากกว่า 10 ปี


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

           ละคร(น้ำเน่า)... หรือที่ใครหลายคนคิดว่าเป็นเรื่องเกินจริงนั้น บางฉากบางตอน เรื่องราวในละครก็สะท้อนชีวิตจริงของใครบางคน

           เช่นเดียวกับ กรณีของ 2 ครอบครัวที่นำมาฝากกันวันนี้ เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นคือ ลูกของทั้งสองบ้านถูกสลับตัวกันตั้งแต่แรกคลอด เหตุเพราะคุณแม่คลอดโรงพยาบาลเดียวกัน เตียงติดกัน วัน-เวลา เดียวกัน น้ำหนักตัวของลูกเท่ากัน จะต่างกันก็ตรงที่ ครอบครัวหนึ่งได้ลูกชาย อีกครอบครัวได้ลูกสาว และเมื่อเวลาผ่านไปกว่า 10 ปี พวกเขาก็ต้องพบกับความจริงอันแสนเจ็บปวดว่า ลูกที่เลี้ยงอยู่ไม่ใช่ลูกในสายเลือดของตัวเอง!!!

           ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นกับ ครอบครัวของ คุณวันดี ณ พัทลุง และคุณสมเจตน์ บุญอยู่ สองสามีภรรยา ที่มีอาชีพรับจ้างอยู่ในโรงเรียนละแวกบ้าน โดยมีลูกชายหญิง 3 คน คือ น้องเอก อายุ 15 ปี น้องรอง อายุ 10 ปี และน้องแอน อายุ 4 ปี ซึ่งลูกที่เกิดการสลับตัวกัน คือ น้องเอก ลูกชายคนโต สลับกับ น้องหนึ่ง ซึ่งเป็นลูกสาวสุดที่รักของอีกครอบครัว คือ คุณชำนาญ จันทร์ทอง และภรรยา

           คุณวันดี เล่าว่า เช้าตรู่ของวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ.2538 เธอไปคลอดบุตรที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในบ้านเกิดจังหวัดตรัง ซึ่งเวลานั้น มีเพียงเตียงของเธอ และภรรยาของคุณชำนาญ ที่มาคลอดบุตรและอยู่ติดกัน มีเพียงม่านบังเท่านั้น ก่อนจะให้กำเนิดลูกพร้อมกันในเวลา 07.45 น. โดยในวินาทีแรกหลังคลอด คุณวันดี ได้ยินว่าเธอได้ลูกสาว และหลับไปในช่วงที่พยาบาลนำตัวทารกทั้งสองไปชำระร่างกาย จากนั้นก็ตื่นมาเห็นลูกของตัวเองเป็นผู้ชายนอนอยู่ในเปล แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร เพราะอาจเป็นไปได้ว่า ครั้งแรกที่ได้ยินว่าได้ลูกสาว อาจเป็นลูกของเตียงข้าง ๆ
 
           ด้วยความดีใจที่ให้กำเนิดลูกน้อยร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ ทั้งสองครอบครัวก็ต่างไม่ได้เอะใจถึงความผิดปกติใด ๆ อีกเลย แม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์น่าสงสัย ในวันที่ผู้เป็นพ่อต่างต้องไปแจ้งเกิดบุตร เนื่องจากทางอำเภอ เขียนคำนำหน้าชื่อลูกชายของคุณวันดีเป็น "เด็กหญิง" ขณะเดียวกันลูกสาวของคุณชำนาญ ถูกบันทึกว่า "เด็กชาย" ทั้งสองครอบครัวจึงต้องกลับมาที่โรงพยาบาลเพื่อให้นางพยาบาลทำการแก้ไขให้ใหม่ ก่อนจะแยกย้ายกันไปเลี้ยงดูลูกน้อยจนเติบใหญ่

           อาจเป็นโชคดีหรือลิขิตสวรรค์ที่สองครอบครัวนี้ บ้านไม่ได้อยู่ไกลกันคนละเขตเมือง หากแต่ยังอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน ทำให้ทั้งสองครอบครัวมีอันต้องพบหน้ากัน หลังจากที่ คุณวันดี ไปบ้านญาติของคุณชำนาญ พร้อมด้วยลูกชายคนโต แล้วถูกทักว่า "น้องเอก" หน้าตาละม้ายคล้ายมาทางครอบครัวของคุณชำนาญ ซึ่งนั่นไม่ได้สร้างความสงสัยใด ๆ เลยให้กับผู้เป็นแม่อย่างคุณวันดี เพราะไม่เคยคิดอยู่แล้วว่า ลูกที่เลี้ยงมานับสิบปีจะไม่ใช่ลูกตัวเอง

           แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานขึ้น มีชาวบ้านพูดเรื่องนี้กันหนาหูขึ้นว่าสองบ้านนี้ใช่ญาติกันหรือไม่ ความสงสัยจึงเริ่มก่อตัวขึ้นเล็ก ๆ ในใจของเธอ ก่อนจะกลายเป็นความไม่สบายใจของทั้งสองฝ่าย จนนำไปสู่การตรวจเลือด ซึ่งในขั้นต้นทางโรงพยาบาลที่ทำคลอดหนูน้อยทั้งสอง ระบุว่า ผลการตรวจ เด็กทั้งสองไม่ใช่ลูกของพ่อและแม่ จึงทำการส่งเรื่องตรวจดีเอ็นเออย่างละเอียดไปที่คุณหมอพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ซึ่งในระยะกว่า 1 เดือน ที่เฝ้ารอผลการตรวจพิสูจน์สายเลือดอย่างใจจดใจจ่อ แม้ทั้งสองครอบครัวจะภาวนาให้ผลออกมาตรงกันข้ามกับตอนแรก แต่ลึก ๆ ในใจแล้ว ต่างก็เหมือนรู้อยู่แก่ใจแล้วว่า ลูกที่เลี้ยงไม่ใช่ลูกของตัวเองแน่ ๆ

           และเมื่อผลตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอจากหมอพรทิพย์ ออกมาตอกย้ำความจริงที่พวกเขาไม่อยากรับรู้ ทั้งสองครอบครัวจึงตัดสินใจไม่ทำตามคำแนะนำของคุณหมอที่บอกว่า ควรจะแลกลูกของตัวเองคืนกลับมาเสีย เพราะสงสารลูกที่ไม่ได้อยู่กับพ่อกับแม่มานับ 10 ปี พวกเขากลับมาดำเนินชีวิตปกติ แม้ว่าในใจก็อยากจะได้ลูกของตัวเองคืนกลับมา แต่ก็รักและผูกพันกับลูกที่เลี้ยงมาตั้งแต่เกิดจนไม่อาจยอมแลกได้
 
           อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อจิตใจของพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายเท่านั้น แต่สำหรับเด็กทั้งสองคนแล้ว พวกเขายอมรับว่า รู้สึกแย่ และเครียดมากอยู่เหมือนกัน จนกระทั่ง 3 ปีนับจากทราบเรื่อง น้องหนึ่ง ก็ตัดสินใจกลับมาอยู่กับคุณวันดี ซึ่งเป็นคุณแม่ที่แท้จริง ส่วนน้องเอกนั้น ยืนยันชัดเจนว่า เขาจะไม่ไปอยู่กับพ่อแม่ที่แท้จริงแน่นอน เพราะความรักความอบอุ่นที่พ่อและแม่ที่เลี้ยงมา ทำให้สุขใจที่สุดแล้ว

           ดังนั้น ในเวลานี้ครอบครัวของคุณวันดี จึงเหมือนได้ลูก 2 คน ซึ่งน้องหนึ่งเองก็ยอมรับว่า เธอมีความสุขที่ได้กลับมาอยู่กับแม่ที่แท้จริงของตัวเอง และเธออยากจะช่วยแบ่งเบาภาระของแม่ แม้ว่าอาหารการกินหรือฐานะทางบ้านจะไม่ได้ดีเหมือนในที่ที่เธอจากมาก็ตาม ขณะที่ครอบครัวของคุณชำนาญ ก็ยอมรับว่า ยังรอการกลับมาของลูกชายตัวจริง และร้านขายของชำที่เปิดใหม่ทุกวันนี้ก็คือกิจการที่เคยตั้งใจจะให้น้องหนึ่งซึ่งเป็นลูกสาวคอยดูแลต่อไป

           แม้ว่าบทสรุปของละครชีวิตจริงเรื่องนี้ อาจไม่เหมือนกับละครเรื่องไหน ๆ แต่อย่างน้อยก็ยังโชคดีที่ทั้งสองครอบครัวยังมีโอกาสได้รู้ความจริง ยังมีโอกาสได้รู้ว่าลูกของตัวเองเป็นใคร หน้าตาเป็นอย่างไร อยู่ที่ไหน และหากมองในแง่ดี อย่างน้อยทั้งสองครอบครัวก็เหมือนกับได้มีลูก 2 คนในเวลาเดียวกัน และเป็นความโชคดีของลูก ๆ ที่มีพ่อแม่ถึง 2 คนด้วย





DNA คือคำตอบ ชีวิตยิ่งกว่านิยาย สลับลูกกันนับ10ปี ใน วีไอพี 1/3
 



DNA คือคำตอบ ชีวิตยิ่งกว่านิยาย สลับลูกกันนับ10ปี ใน วีไอพี 2/3




DNA คือคำตอบ ชีวิตยิ่งกว่านิยาย สลับลูกกันนับ10ปี ใน วีไอพี 3/3



ขอขอบคุณข้อมูลจาก
รายการ วีไอพี





เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ยิ่งกว่าละคร! ลูกสลับกันโดยไม่รู้นานนับ 10 ปี อัปเดตล่าสุด 15 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา 16:25:46 140,930 อ่าน
TOP
x close