เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอมภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
นักศึกษา ม.ศิลปากร นครปฐม
โวยถูกเด็กแว้นขี่จักรยานยนต์ประกบป่วนเมือง ทั้งปาไข่ ปาหิน บางรายถูกตบหัว ตบหน้า
ตำรวจบอกโดนทุกวันทำอะไรไม่ได้ ก่อนหน้านี้เราคงเคยได้ยินข่าวแก๊งวัยรุ่นชอบดักปาหิน
หรือปาไข่ใส่รถยนต์ที่ขับขี่ผ่านไปมาตามถนนหนทางต่าง ๆ ในต่างจังหวัด
จนหลายรายประสบอุบัติเหตุถึงแก่ชีวิต หรือได้รับบาดเจ็บไปตาม ๆ กัน หลังจากนั้นข่าวก็ค่อย ๆ เงียบไปพักหนึ่ง แต่ชาวบ้านบอกว่าแก๊งวัยรุ่นป่วนเมืองก็ยังคงก่อเหตุอยู่ประปรายในหลายจังหวัด
เพียงแต่ไม่เป็นข่าวให้เห็นกันเท่านั้น เช่นเดียวกับที่กลางเมืองนครปฐม เมื่อมีนักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปากร
วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ จังหวัดนครปฐม ได้ตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ dek-d.com และ pantip.com เพื่อขอความช่วยเหลือจากสังคม
หลังจากนักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปากรหลายรายถูกแก๊งเด็กแว้นก่อเหตุป่วนเมือง
จนหวาดผวาไปตาม ๆ กัน ทั้งนี้ ผู้เสียหายเล่าว่า พฤติกรรมของเด็กแว้นกลุ่มนี้
จะจ้องเหยื่อที่เป็นนักศึกษาทั้งเพศหญิง เพศชาย ที่ขี่รถจักรยาน
จากนั้นเด็กแว้นจะขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปประกบเหยื่อ และตะโกนให้กลัว
หรือแกล้งชักมีดขู่ เพื่อทำให้เหยื่อตกใจ บางรายถูกเด็กแว้นปาไข่ ปาหิน น้ำปลาพริก
เต้าหู้ยี้ ฯลฯ ใส่ตัว เพื่อให้รถล้ม และอาจถูกกระชากกระเป๋าไปด้วย นอกจากนี้
เด็กแว้นบางรายยังมีพฤติกรรมขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบด้านหลัง
แล้วตบศีรษะเหยื่ออย่างแรงก่อนจะขี่รถหนีไป หรือแกล้งเข้ามาถามทาง
เมื่อเหยื่อหันไปตอบก็จะถูกตบหน้า เป็นต้น ที่น่ากลัวก็คือ
ช่วงเวลาที่เกิดเหตุยังเป็นช่วงหัวค่ำที่มีคนพลุกพล่าน แต่ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ก็ได้แต่ยืนมอง
ไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลืออะไรได้ ซ้ำร้ายกว่านั้น
เมื่อนักศึกษาที่ถูกกระทำหลายรายเข้าไปแจ้งความ ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตอบกลับมาว่า"ก็โดนอย่างนี้กันทุกวัน แต่ทำอะไรไม่ได้" เมื่อได้รับคำตอบเช่นนี้ ทำให้ทุกวันนี้นักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปากรต้องขี่รถจักรยานอย่างหวาดผวา
นอกจากจะต้องระมัดระวังไม่ให้รถชนแล้ว ยังต้อพะวงหน้าพะวงหลัง
และภาวนาไม่ให้ถูกแก๊งป่วนเมืองทำร้ายอีก หนำซ้ำบางคนต้องพกก้อนหินไปเรียนด้วย
เพื่อหวังจะใช้ป้องกันตัว หากเกิดเหตุฉุกเฉินใด ๆ ขึ้น ขณะที่หลาย ๆ
คนร้องขอให้ติดตั้งกล้องวงจรปิด และไฟส่องสว่างเพิ่มเติมในบริเวณที่มืด ๆ เปลี่ยว
ๆ ด้วย แม้ว่าล่าสุด
ทางมหาวิทยาลัยศิลปากรได้ร้องเรียนเรื่องดังกล่าวไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว
ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ดำเนินการส่งกำลังเข้ามาสอดส่องตรวจตราในจุดเสี่ยงเพิ่มเติมมากขึ้น
แต่ทว่าก็ยังคงเกิดเหตุเช่นนี้อยู่ไม่เว้นวัน เพราะต้องยอมรับว่า การจะมองว่า
วัยรุ่นที่ขี่รถจักรยานยนต์คนไหนเป็นคนร้ายทำได้ยาก ดังนั้น
ทางมหาวิทยาลัยจึงต้องประกาศให้นักศึกษาทุกคนระวังตัว หากจะออกไปหน้ามหาวิทยาลัย
ก็ควรไปเป็นกลุ่ม และหากใครประสบเหตุ ก็ให้จำทะเบียนรถของคนร้ายไว้ด้วย
เพื่อจะได้ใช้ติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก