
แดน สุดสาคร ย้อนอดีต การ์ตูนไทยเล่มละบาท

แดน สุดสาคร ย้อนอดีต การ์ตูนไทยเล่มละบาท

แดน สุดสาคร ย้อนอดีต การ์ตูนไทยเล่มละบาท
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ทีวีบูรพา
ณ เวลานี้ ลมหายใจของการ์ตูนไทยลายเส้น เริ่มแผ่วปลายลงเรื่อย ๆ ชนิดกราดสายตาไปบนแผงหนังสือก็แทบมองไม่เห็น หรือบางแห่งก็มีเพียงพื้นที่เล็ก ๆ ให้พอได้เบียดวางเทียบการ์ตูนตาหวานจากต่างประเทศอยู่บ้างซึ่งเป็นไปตามกลไกความนิยมที่ลดลง ประกอบกับค่าตอบแทนทางอาชีพอันน้อยนิด ทำให้นักเขียนรุ่นใหม่ไม่คิดมาหยิบจับแบบจริงจัง...จนน่าเป็นห่วงว่า อาจใกล้ถึงตอนอวสานของการ์ตูนไทยเต็มที
แต่สำหรับ แดน สุดสาคร หรือชื่อเดิม สนิท สุดสาคร เขายังคงยืนยันจะสะบัดปลายพู่กันวาดเรื่องราวผ่านลายเส้นการ์ตูนไทยต่อไปเรื่อย ๆ หลังคร่ำหวอดอยู่ในวงการนี้เฉียดสี่สิบปีแล้ว นับตั้งแต่เป็นเด็กชายผู้ระบายสีเทียนส่งรูปภาพล่าเงินค่าขนมตั้งแต่ชั้นประถม จนกลายมาเป็นนักเขียนมืออาชีพ วันเวลาที่ผ่านมาและผลงานกว่าหมื่นเรื่องตอกย้ำว่า เขาคือตัวจริงในวงการนิยายภาพแบบไทย หรือที่ใครหลายคนเหมาเรียกไปว่า การ์ตูนไทย นั่นเอง

แดน สุดสาคร ย้อนอดีต การ์ตูนไทยเล่มละบาท

แดน สุดสาคร ย้อนอดีต การ์ตูนไทยเล่มละบาท
แดน สุดสาคร เล่าว่า ในวัยเด็กที่บ้านเกิดจังหวัดชุมพร สมัยก่อนนิตยสารบางเล่มจะมีหน้าแถมการ์ตูนเปล่า ๆ มาให้ เขาจึงระบายสีแล้วส่งไปประกวดและได้เงินค่าขนมอยู่บ่อยครั้ง จนแทบไม่ต้องรบกวนค่าขนมไปโรงเรียนจากที่บ้าน กระทั่งโตขึ้นมาหน่อยก็เริ่มหัดลอกลายเส้นการ์ตูน ก่อนจะเริ่มเขียนเรื่องของตัวเองในช่วงเรียน ปวช. ซึ่งจากการส่งผลงานประกวดบ่อยครั้งนี้เอง เป็นที่มาให้เขารู้จักกับ อโณทัย รุ่นพี่นักเขียนการ์ตูนไทยที่มีชื่อเสียงในยุคนั้น ผู้เป็นเหมือนพี่ชายและครูคนแรกที่ทำให้อาชีพนักเขียนการ์ตูนของเขาชัดเจนขึ้น
หลังจากเรียนจบ ปวช.จากวิทยาลัยเทคนิคชุมพร แดน สุดสาคร ตัดสินใจเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อหางานทำด้วยเงินติดตัว 300 บาท เขามาพักที่บ้านเช่าของเพื่อนย่านบางลำพู แต่อยู่ได้เพียงหนึ่งเดือน เงินที่มีก็ร่อยหรอจนเหลือ 50 บาท และยังไม่มีงานทำ เขาจึงตัดสินใจกลับบ้าน แต่ระหว่างทางมุ่งหน้าไปขนส่งสายใต้ ก็นึกขึ้นมาได้ว่า พี่อโณทัย เคยสั่งว่าถ้าเข้ากรุงเทพฯ ให้ไปหา และในขณะนั้นเองเขาเห็นป้ายบริษัทที่พี่อโณทัยทำงานอยู่ จึงตรงเข้าไปหาและได้เริ่มงานที่นั่น
งานแรกในวงการการ์ตูน แดน สุดสาคร เริ่มต้นด้วยการเป็นลูกมือคอยตีกรอบแบ่งช่องไว้รอคนวาดและถมหมึกแรเงาให้กับการ์ตูนของรุ่นพี่ โดยพี่อโณทัย เสนอเงินเดือนให้ 900 บาท แต่เขาก็ขอเพียงที่หลับนอนและข้าวให้อิ่มท้อง ซึ่งในตอนนั้นเขาใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในเส้นทางที่ตัวเองชอบ แต่ทำงานได้เพียงครึ่งปี ก็ถูกไล่ออกพร้อมพี่อโณทัย เหตุเพราะเมาเหล้า เล่นไพ่ ปีนขึ้นตึก

แดน สุดสาคร ย้อนอดีต การ์ตูนไทยเล่มละบาท

แดน สุดสาคร ย้อนอดีต การ์ตูนไทยเล่มละบาท
เมื่อกลายเป็นคนตกงานทั้งลูกพี่ลูกน้อง ทำให้ แดน สุดสาคร ไร้ที่หลับอับที่นอน ต้องไปขออาศัยนอนบ้านเพื่อนนักเขียนรุ่นเดียวกัน โดยไม่มีค่าเช่าให้ ชีวิตที่ไม่มีทางเลือกทำให้เขาต้องนอนในห้องครัว กินของเหลือจากคนอื่น แดน สุดสาคร จึงเริ่มเขียนการ์ตูนในแบบของตัวเอง 4 เรื่อง แล้วนำไปเสนอโรงพิมพ์ทำให้การ์ตูนของเขาเป็นเรื่องแรก ๆ ที่ได้พิมพ์ขายเป็นการ์ตูนเล่มละบาท
ทั้งนี้ เนื่องจากในอดีต นิยายภาพแบบไทย มักพิมพ์ขายอยู่กับนิตยสาร หนังสือพิมพ์ และหนังสืออื่น ๆ จะมาเริ่มพิมพ์เป็นหนังสือการ์ตูนล้วนทั้งเล่มแบบจริง ๆ จัง ๆ ในช่วงปี พ.ศ.2518 ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมากทั้งจากคนทั่วไป พ่อค้าแม่ขาย คนขับสองแถว รถเครื่องรับจ้าง วัยรุ่น เด็กนักเรียน หรือใคร ๆ ในสมัยนั้นต่างก็อ่าน การ์ตูนเล่มละบาท เพราะเป็นเรื่องสั้น อ่านสนุก เป็นวิถีชีวิตใกล้ตัว
ความรุ่งเรืองของการ์ตูนไทยเล่มละบาทดำเนินมาเรื่อย ๆ ก่อนจะเติบโตสุด ๆ ในช่วงปี พ.ศ.2525-2527 ซึ่งขณะนั้นฮิตขนาดพิมพ์เดือนละเป็นแสนเล่ม โรงพิมพ์บางแห่งตั้งตัวได้ ขณะเดียวกัน นักเขียน(ไส้แห้ง)ก็ได้ลืมตาอ้าปาก แต่หลังจากเริ่มมีการ์ตูนญี่ปุ่นเข้ามาในช่วงปี พ.ศ.2524 กระแสการ์ตูนไทยก็ค่อย ๆ ซบเซา กระทั่งช่วง 7-8 ปีที่ผ่านมา ต้องปรับราคาขายเป็นเล่มละ 5 บาท ทำให้ยอดขายแต่ละปกดิ่งลงจากเดิมเกือบเท่าตัว

แดน สุดสาคร ย้อนอดีต การ์ตูนไทยเล่มละบาท

แดน สุดสาคร ย้อนอดีต การ์ตูนไทยเล่มละบาท
แม้ว่าใคร ๆ จะชอบตำหนิติเตียนการ์ตูนไทยเล่มละบาท ว่าเป็นงานถูก ๆ เนื้อหาซ้ำ ๆ เดิม ๆ จำพวกเรื่องผี เรื่องชู้สาวไม่สร้างสรรค์ และลายเส้นเดิม ๆ ล้าสมัย หากแต่ทั้งหมดนั้นคือเอกลัษณ์ของการ์ตูนไทยเล่มละบาท ที่เป็นเรื่องราววิถีชีวิตชาวบ้าน ยิ่งหากพิจารณาผลงานของ แดน สุดสาคร แล้วจะพบว่า ฉากรัก ๆ ของเขาไม่ได้โจ๋งครึ่มเหมือนกับการ์ตูนญี่ปุ่นตาหวานเลยสักนิด ทั้งยังแฝงข้อคิดให้คนอ่านทุกครั้ง จนได้รับรางวัลการ์ตูนดีเด่นด้านส่งเสริมเยาวชนมาแล้ว
จริงอยู่ที่รางวัลจากงานเขียนการ์ตูนไทย จะช่วยเพิ่มความภาคภูมิใจในอาชีพนี้ แต่รางวัลก็ไม่เคยการันตีความมั่นคงทางอาชีพได้เลย ด้วยค่าเขียนต่อเรื่อง 16 หน้า ได้แค่ราวพันบาท ทำให้ไม่มีใครสนใจจะยึดอาชีพนี้จริงจัง เว้นแต่ที่มีใจรักจริง ๆ ไม่กี่คน แดน สุดสาคร กับเพื่อนจึงตัดสินใจร่วมกันตั้งสำนักพิมพ์เพื่อผลิตการ์ตูนลายเส้นไทยโดยเฉพาะ มาถึงวันนี้ผ่านมา 15 ปีแล้ว ผลประกอบการยังคงเป็นแบบกำไรนิด ขาดทุนหน่อย แต่ แดน สุดสาคร ก็เต็มใจแบกรับต่อไปทั้งชีวิต เหตุเพราะไม่อยากตัดโอกาสนักเขียนรุ่นใหม่ อย่างที่ในอดีตเขาเองเคยได้รับโอกาสนั้น และเพื่อรักษาพื้นที่ของการ์ตูนลายเส้นแบบไทย ๆ ต่อไป
"ถึงมันจะต้องเป็นหนี้ สำหรับผมคุ้มนะ ได้ทั้งความสุข ได้เติมโอกาสให้คนอื่นด้วย" ...นี่คือเรื่องราว และตัวตนของนักเขียนการ์ตูนไทยรุ่นเก๋า แดน สุดสาคร
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่ค่ะ