รัฐบาลไทยเตรียมส่งโรงไฟฟ้าของ กฟผ. ไปผลิตไฟฟ้าที่ญี่ปุ่น เพื่อช่วยแก้ปัญหาขาดไฟฟ้าจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิ
ประเทศไทยส่งความช่วยเหลือด้านพลังงานไฟฟ้าให้แก่ประเทศญี่ปุ่น หลังแผ่นดินไหวและสึนามิสร้างความเสียหายแก่โรงไฟฟ้าที่ฟูกุชิมะ โดยจะส่งโรงไฟฟ้าหนองจอก ของ กฟผ. กำลังผลิต 244 เมกะวัตต์ ไปผลิตไฟฟ้าให้ชาวโตเกียว 3-5 ปี เตรียมเร่งรื้อถอนและขนส่งไปให้ทันในช่วงฤดูร้อนของญี่ปุ่นที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูง
เมื่อวันที่ 29 มี.ค. กระทรวงพลังงาน กระทรวงการต่างประเทศ สถานทูตญี่ปุ่น และการไฟฟ้าฝ่ายผลิต แห่งประเทศไทย (กฟผ.) ร่วมแถลงข่าว กฟผ. ให้ความช่วยเหลือส่งมอบโรงไฟฟ้าให้ประเทศญี่ปุ่น “ร่วมเป็นกำลังใจ ส่งโรงไฟฟ้าไทยไปญี่ปุ่น” โดยมีนายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายเซอิจิ โคจิมะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย และนายสุทัศน์ ปัทมสิริวัฒน์ ผู้ว่าการ กฟผ. ร่วมแถลงข่าว พร้อมด้วย นายณอคุณ สิทธิพงศ์ ปลัดกระทรวงพลังงาน และ นายพิษณุ จันทร์วิทัน รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ร่วมงาน ณ หอประชุมเกษม จาติกวณิช สำนักงานกลาง กฟผ. อ.บางกรวย จ.นนทบุรี
นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่าประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่นเป็นพันธมิตรร่วมกันมายาวนานกว่า 120 ปี ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม อุตสาหกรรม รวมไปถึงด้านพลังงานที่มีความร่วมมือระดับทวิภาคี โดยมีการแลกเปลี่ยนความรู้ การส่งผู้เชี่ยวชาญช่วยเหลือพัฒนาโครงการร่วมศึกษาวิจัยและคิดค้นเทคโนโลยีด้านพลังงานด้วยดีเสมอมา ดังนั้นจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิที่สร้างความเสียหายต่อประเทศญี่ปุ่นที่เกิดขึ้น ประเทศไทยในฐานะมิตรประเทศได้มีการให้ความช่วยเหลือในทุกด้านอย่างเต็มที่ โดยในด้านของพลังงานไฟฟ้า รัฐบาลไทยได้อนุมัติให้ กฟผ. ส่งโรงไฟฟ้ากังหันก๊าซหนองจอกไปติดตั้งที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นการชั่วคราว ตามที่บริษัทผลิตไฟฟ้าโตเกียว (Tokyo Electric Power Company : TEPCO) ได้ขอความช่วยเหลือ เนื่องจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ฟูกุชิมะ ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของ บริษัท TEPCO ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่สามารถเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าส่งผลให้เกิดไฟดับ และเกิดภาวะขาดแคลนพลังงานไฟฟ้าในขณะนี้
นายสุทัศน์ ปัทมสิริวัฒน์ ผู้ว่าการ กฟผ. กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบตามที่คณะกรรมการ กฟผ. เสนอคืออนุมัติให้ กฟผ. ช่วยเหลือประเทศญี่ปุ่นโดยให้ยืมเครื่องกังหันก๊าซโรงไฟฟ้าหนองจอก จำนวน 2 เครื่อง ขนาดกำลังผลิตเครื่องละ 122 เมกะวัตต์ รวมเป็นกำลังผลิตทั้งสิ้น 244 เมกะวัตต์ พร้อมอุปกรณ์ประกอบและอะไหล่ที่จำเป็นไปใช้งานตามที่ บริษัท TEPCO ต้องการ ทั้งนี้เนื่องจากโรงไฟฟ้าหนองจอกมิได้มีการเดินเครื่องผลิตไฟฟ้า เนื่องจาก กฟผ. ได้ปลดออกจากระบบผลิตไฟฟ้าหลักของประเทศ เนื่องจากเป็นโรงไฟฟ้าที่ใช้น้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิง มีต้นทุนการผลิตไฟฟ้าสูง โดยจะนำมาใช้งานเฉพาะกรณีกำลังผลิตไฟฟ้าไม่เพียงพอเท่านั้น
ผู้ว่าการ กฟผ. กล่าวต่อไปว่า ทางบริษัทฯ ได้ขอนำโรงไฟฟ้าหนองจอกไปใช้งานที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นเวลาประมาณ 3-5 ปี ในช่วงฟื้นฟูประเทศ โดยบริษัทฯ จะเป็นผู้รื้อถอนและขนย้ายไปที่ประเทศญี่ปุ่น รวมถึงการเดินเครื่อง ทดสอบ บำรุงรักษา จัดหาเชื้อเพลิง ตลอดจนการขนย้ายและนำเครื่องกังหันก๊าซกลับคืน โดยการดำเนินการรื้อถอนจะดำเนินการในเร็ววันนี้ เพื่อนำไปใช้บรรเทาภัยพิบัติ และเยียวยาวิกฤติการณ์ของประเทศญี่ปุ่นอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะเพื่อให้ทันต่อความต้องการไฟฟ้าในช่วงฤดูร้อนของประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากการขนย้ายทางเรือต้องใช้เวลาประมาณ 10 – 15 วัน และยังต้องนำไปติดตั้ง และเชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้าของจังหวัดโตเกียว (Tokyo) คาดว่ารวมระยะเวลาที่โรงไฟฟ้าจะสามารถจ่ายไฟฟ้าให้กับชาวญี่ปุ่นได้ประมาณ เดือนสิงหาคม 2554 ซึ่งหวังว่าโรงไฟฟ้าหนองจอกจะเป็นประโยชน์ต่อชาวญี่ปุ่นในยามที่ประสบภัยพิบัติได้รับความเดือดร้อนในขณะนี้
