เมื่อมีการเลือกตั้ง สิ่งที่มาคู่กันก็คือ การหาเสียงเลือกตั้ง ในแต่ละเขต แต่ละจังหวัดของประเทศ แต่ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าการแข่งขันเพื่อชิงเก้าอี้ในสภาทุกวันนี้ ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ในการนี้ เมื่อวันพุธที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ และบุคคลที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดการเลือกตั้ง จึงได้มีการประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์และวิเคราะห์พื้นที่ซึ่งมีแนวโน้มการแข่งขันรุนแรง โดยหลังประชุมกว่า 1 ชั่วโมง พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ที่ปรึกษา (สบ 10) ในฐานะรับผิดชอบกำกับศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยการเลือกตั้ง (ศรส.ลต.ตร.) และเป็นประธานการประชุมได้แถลงว่า มี 10 จังหวัด คือ เขตเลือกตั้งย่านชานเมืองในกรุงเทพมหานคร จ.ขอนแก่น จ.ชลบุรี จ.เชียงใหม่ จ.นครราชสีมา จ.บุรีรัมย์ จ.ร้อยเอ็ด จ.อุดรธานี จ.สมุทรปราการ และ จ.อุบลราชธานี น่าจะมีการแข่งขันสูงและรุนแรง โดยบางพื้นที่แข่งระหว่าง 2 พรรค ขณะที่บางพื้นที่มากกว่า 3 พรรค
ซึ่งใน 10 จังหวัดดังกล่าวนี้ มีผู้สมัครหลายคนที่ขอกำลังตำรวจไปคุ้มกันแล้ว และแม้บางส่วนไม่ร้องขอมา แต่ ศรส.ลต.ตร.ก็จะจัดส่งกำลังไปดูแล โดยเฉพาะชลบุรีและนครราชสีมาที่มีแนวโน้มว่าจะเป็น 2 จังหวัดที่ใช้ความรุนแรงต่อสู้กันมากที่สุด ดังนั้น ศรส.ลต.ตร. จะส่งกำลังดูแลเป็นพิเศษ โดยล่าสุดมีผู้สมัครของพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดินใน จ.นครราชสีมา ได้ร้องขอกำลังตำรวจเพื่อมาดูแลรักษาความปลอดภัยระหว่างลงพื้นแล้วคือ นายพีรพร สุวรรณฉวี ผู้สมัคร ส.ส.เขต 7 และนายพลพีร์ สุวรรณฉวี ผู้สมัคร ส.ส.เขต 9 บุตรชายของว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ สุวรรณฉวี ซึ่งตำรวจได้ส่งกำลังไปดูแลรายละ 2 นายแล้ว
ทั้งนี้ ในกรุงเทพมหานคร กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) จะเปิดศูนย์ปฏิบัติการกองบัญชาการตำรวจนครบาล (ศปก.บช.น.) ซึ่งจะแบ่งพื้นที่เป็น 4 ส่วนในการดูแล คือ
1.พื้นที่ที่ชุมนุมอย่างต่อเนื่อง เช่น รอบทำเนียบรัฐบาล สถานทูต โดยจะตรึงกำลังเจ้าหน้าที่ไว้อย่างน้อย 2 กองร้อย
2. พื้นที่หาเสียงและพื้นที่ชุมนุมเป็นบางครั้งคราว เช่น แยกราชประสงค์ สวนลุมพินี พระบรมราชานุสาวรีย์ ร.6 หน้าเรือนจำ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จะให้ตำรวจในพื้นที่ดังกล่าวดูแล
3.พื้นที่ที่มีความสำคัญเชิงการเมือง เช่น บ้านพักบุคคลสำคัญ พรรคการเมือง วางกำลังไว้ 2 กองร้อย และชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็วอีกหนึ่งชุด
4.พื้นที่ชุมชนที่มีแนวโน้มอาชญากรรมสูง จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ดูแล
นอกจากนี้ พล.ต.อ.พงศพัศยังกล่าวอีกว่า ในวันที่ 26 พฤษภาคมนี้ ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยการเลือกตั้ง เตรียมออกประกาศบัญชีมือปืนล็อตที่สองอีก 70 ราย ทั้งนี้เชื่อว่าการกดดันอย่างต่อเนื่องนั้นจะยุติความรุนแรงในการเลือกตั้งได้ เพราะก่อนหน้านี้มีการออกประกาศ 50 มือปืน ก็ทำให้การเคลื่อนไหวลดน้อยลง และตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคมที่ได้ตรวจค้นอาวุธ ก็สามารถยึดอาวุธปืนได้ 835 กระบอก ซึ่งจะช่วยตัดทอนความรุนแรงได้ส่วนหนึ่ง
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
