เปิดขุมทรัพย์ ชูวิทย์ 1.4 พันล้านบาท

ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ไอเอ็นเอ็น
               
          ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ธุรกิจอู้ฟู่ มีทรัพย์สินกว่า 1,400 ล้านบาท จากธุรกิจย่านเยาวราชสู่อาบอบนวดย่านรัชดาถึงโรงแรมย่านสุขุมวิท
 
          ในอดีต ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้าขวาในนาม "เสี่ยอ่าง" หรือเจ้าของกิจการอาบอบนวดชื่อดังย่านรัชดา จนกระทั่งเขาตัดสินใจกระโดดลงสู่วงการการเมืองโดยการเข้าร่วมงานกับพรรคชาติไทย-ลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เมื่อหลายปีก่อน และล่าสุดเขากลับมาอีกครั้งในฐานะหัวหน้าพรรครักประเทศไทย มาขออาสาเป็นฝ่ายค้าน เพื่อตรวจสอบคอร์รัปชั่นในสภาฯ
 
          มาถึงตรงนี้ หลาย ๆ คนอาจมีคำถามที่อยากจะรู้ว่า ผู้ชายคนนี้ ผู้ที่อาสามาตรวจสอบกลโกงของรัฐบาล ผู้ที่มีท่าทีพูดจาโฉ่งฉ่าง ได้วางมือจากธุรกิจแล้วหรือไม่ ? และมีทรัพย์สินมากมายมหาศาลเท่าไหร่ ?
 
          ซึ่ง ศูนย์ข้อมูลและข่าวสืบสวนฯ (TCIJ ) ตรวจสอบพบว่า ปัจจุบันครอบครัวของชูวิทย์ เป็นเจ้าของธุรกิจ 7 บริษัท ซึ่งเป็นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เกือบทั้งหมด มีสินทรัพย์รวม 1,474 ล้านบาท ซึ่งกิจการที่มีสินทรัพย์มากที่สุด 3 ลำดับ คือ บริษัท สุขุมวิท ซิลเวอร์ สตาร์ จำกัด มีทรัพย์สินจำนวน 521.7 ล้านบาท, บริษัท ต้นตระกูล จำกัด มีทรัพย์สินจำนวน 489.3 ล้านบาท และบริษัท สมบัติเติมตระกูล จำกัด มีทรัพย์สินจำนวน 417.1 ล้านบาท

ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์

          สำหรับรายละเอียดทั้ง 7 บริษัท ของนายชูวิทย์ มีดังนี้
 
          1. บริษัท ภาติฌาน จำกัด จดทะเบียนวันที่ 6 มกราคม 2531 ทุนจดทะเบียน 44 ล้านบาท ประกอบธุรกิจบริการซัดอบรีด ที่ตั้งเลขที่ 88/8 ซอยสุขุมวิท 24 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ สินทรัพย์ 22.8  ล้านบาท ปี 2552 รายได้ 145,000 บาท กำไรสุทธิ 93,333 บาท
 
          2. บริษัท ต้นตระกูล จำกัด จดทะเบียนวันที่ 10 พฤษภาคม 2533 ทุนจดทะเบียน 170 ล้านบาท ประกอบธุรกิจให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ ที่ตั้งเลขที่ 909 ซอยสุทธิพร ถนนประชาสงเคราะห์ แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ สินทรัพย์ 489.3 ล้านบาท ปี 2552 รายได้ 43,767,862 บาท ขาดทุนสุทธิ 19,127,774 บาท
 
          3. บริษัท สมบัติเติมตระกูล จำกัด จดทะเบียนวันที่ 12 มีนาคม 2536 ทุนจดทะเบียน 170 ล้านบาท ประกอบธุรกิจโรงแรม ที่ตั้งเลขที่ 88 ซอยสุขุมวิท 24 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ สินทรัพย์ 417.1 ล้านบาท  ปี 2552 รายได้  95,966,909  บาท ขาดทุนสุทธิ 46,681,422 บาท
 
          4. บริษัท เดวิส ซิลเวอร์ สตาร์ แมเนจเมนท์ จำกัด จดทะเบียนวันที่ 2 เมษายน 2536 ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท ประกอบธุรกิจให้บริการเช่าพื้นที่ ที่ตั้งเลขที่ 88/1-88/7 ซอยสุขุมวิท 24 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ สินทรัพย์ 4.1 ล้านบาท ปี 2552 รายได้ 6,049,351 บาท ขาดทุนสุทธิ 216,035 บาท
 
          5. บริษัท ทรัพย์สินตระการตา จำกัด จดทะเบียนวันที่ 19 มิถุนายน 2538 ทุนจดทะเบียน 3 ล้านบาท ประกอบธุรกิจรับเป็นที่ปรึกษาให้คำแนะนำด้านบริหารงาน ที่ตั้งเลขที่ 88/8 ซอยสุขุมวิท 24 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ โดยมี นายต้นตระกูล กมลวิศิษฎ์, นางสาวตระการตา กมลวิศิษฎ์, ด.ช. ต่อตระกูล กมลวิศิษฎ์ และนายเติมตระกูล กมลวิศิษฎ์ ถือหุ้นคนละ 24.4% สินทรัพย์ 10.2 ล้านบาท ผลประกอบการปี  2552 รายได้ 68,750 บาท กำไรสุทธิ 40,835 บาท
 
          6. บริษัท บุญต่อตระกูล จำกัด จดทะเบียนวันที่ 20 มกราคม 2541 ทุนจดทะเบียน 3 ล้านบาท ประกอบธุรกิจรับเป็นที่ปรึกษาให้คำแนะนำด้านบริหารงาน ที่ตั้งเลขที่ 88/8 ซอยสุขุมวิท 24 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ สินทรัพย์ 8.8 ล้านบาท ปี 2552 รายได้ 70,150 บาท กำไรสุทธิ 41,811 บาท
 
          7. บริษัท สุขุมวิท ซิลเวอร์ สตาร์ จำกัด จดทะเบียนวันที่ 19 ธันวาคม 2545 ทุนจดทะเบียน 250 ล้านบาท ประกอบธุรกิจให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ ที่ตั้งเลขที่ 88/8 ซอยสุขุมวิท 24 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ สินทรัพย์ 521.7 ล้านบาท ไม่มีรายได้หลายปีติดต่อกัน

 
           ทั้งนี้ กิจการทั้งหมดทายาททั้ง 4 คือ นายต้นตระกูล กมลวิศิษฎ์, นางสาวตระการตา กมลวิศิษฎ์, ด.ช.ต่อตระกูล กมลวิศิษฎ์ และนายเติมตระกูล กมลวิศิษฎ์ ถือหุ้นคนละ  24.4 % ยกเว้น บริษัท ภาติฌาน จำกัด  ที่ ด.ญ.ดวงตระการ กมลวิศิษฏ์  ถือหุ้นมากสุด 75.7% อีก 4 คนถือคนละ 5.5 %
 
           ส่วนกิจการที่เลิกดำเนินการ 2 แห่ง คือธุรกิจรับเป็นที่ปรึกษาชื่อ บริษัท เจริญจำเนียรกาล จำกัด ทุนจดทะเบียน 30 ล้านบาท และบริษัท คงอยู่ตลอดกาล จำกัด ทุนจดทะเบียน 40 ล้านบาท
 
           และแม้ว่าเมื่อหลายปีก่อน ชูวิทย์ ได้ออกมาเปิดโปงการเรียกรับผลประโยชน์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจแห่งหนึ่งหลังจากที่เขาโดนอุ้มหายเงียบไปหลายวัน แต่กลับมาในสภาพที่อิดโรย แต่จากการตรวจสอบกลับพบว่า นายชูวิทย์ได้ทำธุรกิจร่วมกับตำรวจด้วยคือ พลตำรวจตรีคงเดช ชูศรี ซึ่งเป็นกรรมการบริษัท สมบัติเติมตระกูล จำกัด โดยมีนายฤทัย กมลวิศิษฎ์ เจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด คลังภูษา ร่วมเป็นกรรมการด้วย
 
           นอกเหนือจากธุรกิจที่ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ได้ก่อตั้งขึ้นมาด้วยน้ำมือของตัวเอง หลาย ๆ คนคงทราบดีว่า ครอบครัวของนายชูวิทย์นั้น เป็นครอบครัวนักธุรกิจ มีกิจการทางด้านการขายเสื้อผ้ากหลายกิจการ คือ ห้างหุ้นส่วนจำกัด คลังภูษา, ห้างหุ้นส่วนจำกัด แอมโก้เทรดดิ้ง, ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอช 2 พาวเวอร์ และบริษัท ฮาร่า (ไทยแลนด์) จำกัด
 
            ซึ่งห้างหุ้นส่วนจำกัด คลังภูษา ถือเป็นกิจการของครอบครัวอย่างแท้จริง เพราะมีรายชื่อของพี่น้องและครอบครัวรายอื่น ๆ ของนายชูวิทย์มีหุ้นส่วนอยู่คือ นางจำเนียง กมลวิศิษฎ์, นายจิงเว้ง แซ่อึ้ง, นางซู่เอี๋ยว แซ่โค้ว, นายฤทัย กมลวิศิษฎ์, นายเลิศชัย กมลวิศิษฎ์, นายวิโรจน์ กมลวิศิษฎ์ ซึ่งปัจจุบัน ห้างหุ้นส่วนจำกัด คลังภูษา ก็ยังเปิดดำเนินการอยู่
 

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก