เศร้า! ส่งศพพลทหารเสียชีวิตขณะช่วยน้ำท่วม กลับบ้าน

ส่งกลับบ้านศพพลทหารช่วยน้ำท่วม จ.น่าน (ไอเอ็นเอ็น)

          ส่งกลับภูมิลำเนาศพพลทหารเสียชีวิตขณะช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม จ.น่าน ด้านนายกอบจ.น่านมอบเงินช่วยเหลือ พร้อมโล่เชิดชูเกียรติ

          ภายหลังจากพลทหารสิทธิศักดิ์ ขันธประณีต เป็นทหารผลัดที่ 2/53 สังกัดกองพันทหารม้าที่ 7 กรมทหารม้าที่ 2 จังหวัดอุตรดิตถ์ ประสบอุบัติเหตุถูกกระแสไฟดูด ขณะช่วยเหลือน้ำท่วมจังหวัดน่านพร้อมเพื่อน พลทหารอรรพล อินสา ปลอดภัยแล้ว และพลทหาร สุนทร สนแย้ม ถูกแก้วบาดระหว่างเข้าไปช่วยเพื่อน ส่วนพลทหารสิทธิศักดิ์ ขันธประณีต ได้เสียชีวิตท่ามกลางความเศร้าเสียใจของครอบครัว และได้ส่งศพกลับไปที่ภูมิลำเนาที่จ.แพร่ โดยนายนรินทร์ เหล่าอารยะ นายกอบจ.น่าน เป็นตัวแทนของชาวจังหวัดน่าน เข้ามอบโล่วีระบุรุษอุทกภัยให้แก่ทหารที่ถูกไฟดูดขณะเข้าช่วยน้ำท่วมที่ได้เสียชีวิต พร้อมมอบเงินให้จำนวนหนึ่งกับพ่อแม่

          ส่วนทหารอีก 2 นายอาการปลอดภัยแล้ว โดยนายนรินทร์ ได้มอบโล่วีระบุรุษอุทกภัยให้แก่ทหาร 2 นาย คือพลทหารอรรถพล อินสาและพลทหารสุทน สนแย้ม พลทหารจากกองพันทหารม้าที่ 7 จ.อุตรดิตถ์ พร้อมกล่าวขอบคุณและให้กำลังใจขอให้หายโดยเร็ว




[2 กรกฎาคม] สุโขทัย ย้าย 7 หน่วยเลือกตั้ง หนีน้ำท่วม!

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3, @thetigernutch ,เฟซบุ๊ก ร่วมด้วยช่วยกัน


         จังหวัดสุโขทัย ย้ายหน่วยเลือกตั้ง 7 หน่วย หลังถูกน้ำท่วม พร้อมประชาสัมพันธ์ชาวบ้าน รับทราบแล้ว ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมเริ่มคลายแล้วบางพื้นที่

         นายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย เปิดเผย ความคืบหน้าสถานกาณ์น้ำท่วมในพื้นที่ว่า วันนี้ (2 กรกฎาคม) ปริมาณระดับน้ำเริ่มลดลงแล้ว แต่ยังไม่มาก โดยในบางจุดที่ท่วมขังหนัก ก็ยังทรงตัว แต่ทั้งนี้คาดว่า หากไม่มีฝน หรือ พายุกระหน่ำลงมาอีกก็จะลดระดับลงเรื่อย ๆ ซึ่งในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมนั้นส่งผลกระทบในการเลือกตั้ง ต้องทำการย้ายหน่วยเลือกตั้งออกไป 7 หน่วย โดยได้เคลื่อนย้ายไปยังจุดที่สะดวกมากขึ้น เพื่อให้การเลือกตั้งผ่านพ้นไปด้วยดี พร้อมทั้งทำการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในหน่วยนั้น รับทราบการย้ายหน่วยแล้ว 

         พร้อมกันนี้ นายจักริน  ยังกล่าวยอมรับว่า จากปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้น อาจส่งผลให้ประชาชนที่ประสบปัญหาบางราย อาจไม่ไปใช้สิทธิ์ แต่จาการรณรงค์ เชื่อว่าประชานส่วนใหญ่ แม้จะประสบปัญหาน้ำท่วมก็ไปใช้สิทธิ์แน่นอน เพราะเป็นการชี้อนาคตประเทศไทยที่คนไทยทุกคนเป็นผู้กำหนด

         อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าฯ สุโขทัย ยังกล่าวถึง การทำผิดกฎหมายเลือกตั้งว่า ในพื้นที่ได้มีการประชาสัมพันธ์ประชาชนเป็นอย่างดี รวมทั้ง มีชุดเคลื่อนที่เร็วของ กกต. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ คอยตรวจสอบ จึงเชื่อว่า ผู้ที่ตั้งใจจะทำผิดกฎหมาย ทั้งการซื้อเสียง และขนคนไปเลือกตั้ง ไม่น่าจะรอดสายตาจากเจ้าหน้าที่ไปได้

[1 กรกฎาคม] น้ำท่วมน่าน เริ่มคลี่คลาย - สุโขทัย ขยายวงกว้าง

         ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติ เพิ่มเป็น 8 อำเภอแล้ว ชาวบ้านกว่า 46 ตำบล เดือดร้อน ขณะยอมรับ อยู่ในโหมดเลือกตั้ง การช่วยเหลือล่าช้า
 
         นางธวัลรัตน์ ไชยอินปัน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จังหวัดพะเยา เปิดเผยกับ ผู้สื่อข่าวว่า หลังจากทาง จ.พะเยา ได้ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติ เนื่องจาก อุทกภัยน้ำท่วมที่ผ่านมาไปแล้ว จำนวน 6 อำเภอ คือ อ.เชียงคำ อ.ปง อ.จุน อ.เชียงม่วน อ.ภูกัมยาว อ.เมืองพะเยา ไปแล้วนั้น

         ล่าสุด จากการสำรวจความเสียหาย พบว่า ยังมีอีก 2 อำเภอ ที่ได้รับผลกระทบ โดยทาง ผู้ว่าราชการ จ.พะเยา ได้ลงนามประกาศภัยพิบัติ จากเหตุการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมา อีก 2 อำเภอ คือ อ.ภูซาง อ.ดอกคำใต้ รวมเป็น การประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติทั้งหมดแล้ว 8 อำเภอ โดยมีพื้นที่ 46 ตำบล ที่ได้รับผลกระทบ

         ซึ่งขณะนี้ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จังหวัดพะเยา ยอมรับว่า การดำเนินการ การช่วยเหลือประชาชนในครั้งนี้ล่าช้าบ้าง เพราะเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง แต่อย่างไรก็ตามขณะนี้ เจ้าหน้าที่หลายฝ่าย ยังคงเร่งเข้าบูรณะและฟื้นฟูความเสียหายทุกหมู่บ้าน ในพื้นที่ 46 ตำบล ของ 8 อำเภอข้างต้นแล้ว

น้ำท่วมน่าน เริ่มคลี่คลาย

          สถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดน่านเริ่มคลี่คลาย ทางจังหวัดเตรียมประเมินความเสียหาย เพื่อเร่งฟื้นฟูให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว แต่ที่ อ.เวียงสา ระดับน้ำยังวิกฤต

          นายนราธิป พรหมพฤกษ์  นายอำเภอเวียงสา เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วม ในอำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน โดยระบุว่า น้ำจากแม่น้ำน่านได้ไหลมาบรรจบกับแม่น้ำว้าที่อำเภอเวียงสา ทำให้ระดับน้ำยังคงวิกฤต เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และได้ขยายวงกว้างไปใน 7 ตำบล คือ ตำบลไหล่น่าน ตำบลขึ่ง ตำบลตาลชุม ตำบลน้ำปั้ว ตำบลกลางเวียง ตำบลส้านนาหนองใหม่ และตำบลนาเหลือง โดยเฉพาะในเขตเทศบาลและตัวอำเภอเวียงสา มีระดับน้ำสูง ส่วนน้ำที่ท่วมตัวเมืองน่าน ขณะนี้ เริ่มลดลงแล้ว โดยความเสียหายจากน้ำท่วมน่าน ประเมินความเสียหายเบื้องต้นกว่า 30 ล้านบาท


สุโขทัยเริ่มวิกฤต น้ำท่วมขยายวงกว้าง

          สถานการณ์น้ำท่วมสุโขทัยยังน่าเป็นห่วง หลังน้ำท่วมขยายวงกว้างออกไปอีก 3 ตำบล เป็น 6 ตำบล ของอำเภอเมืองสุโขทัย ที่มีผลกระทบ คือ ต.ปากพระ ปากแคว ยางซ้าย บ้านหลุม บ้านสวน และ ตาลเตี้ย โดยเฉพาะที่หมู่ 6 ต.ปากแคว อ.เมืองสุโขทัย ถึงแม้จะมีการวางแนวกระสอบทรายสูงจากตลิ่ง 5 ชั้น แต่ก็ไม่สามารถรับปริมาณน้ำที่เต็มอย่างรวดเร็ว จึงทรุดตัวและพังลงมีทางยาว 30 เมตร และกระแสน้ำที่พุ่งมาแรงตรงเข้าพังบ้าน หมู่ 6 และอีก 4 หลัง ที่กำลังต้านน้ำอยู่ขณะนี้ รวมถึงโรงตากใบยาสูบอีกหลายหลังที่อยู่ในแนวทางน้ำพัดผ่าน

          เช่นเดียวกับที่ ม.1 ต.ปากแคว อ.เมือง ที่น้ำท่วมทั้งหมู่บ้าน ส่งผลให้บ้านเรือกว่า 350 หลังเสียหาย แต่ขณะนี้มีหน่วยงานต่าง ๆ เข้ามาแจกข้าวกล่องช่วยเหลือแล้ว โดยนายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผู้ว่าฯ สุโขทัย ได้ลงเรือนำอาหารและน้ำดื่มออกแจกจ่ายให้ชาวบ้านแล้ว

          นอกจากนี้ ยังมีทหารจากกองพันเสนารักษ์ที่ 4 กองพลทหารราบที่ 4 ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช จ.พิษณุโลก นำกำลังพลมาช่วยชาวบ้านปักไม้ยูคาฯ และวางแนวกระสอบทรายเพิ่มเติมเพื่อป้องกันตลิ่งทรุด ซึ่งจุดเป็นจุดที่แบ่งแม่น้ำออกจากแม่น้ำยม ก่อนที่จะไหลลงไปในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี ซึ่งคาดว่าจะช่วยคลี่คลายสถานการณ์ในการป้องกันเศรษฐกิจได้

          สรุปความเสียหายล่าสุดที่จังหวัดสุโขทัย ถูกน้ำท่วม 8 อำเภอ 60 ตำบล 414 หมู่บ้าน 51,366 คน 15,93 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตร 85,248 ไร่ ถนน 74 สาย มีการสั่งปิดโรงเรียนแล้ว 4 แห่ง คือโรงเรียนวัดคูหาสุวรรณ โรงเรียนวัดลัดทรายมูล อ.เมือง โรงเรียนบ้านท่าทอง อ.สวรรคโลก โรงเรียนประชาอุทิศ อ.ศรีสำโรง

[30 มิถุนายน] น้ำท่วมน่าน เสียหายหนัก - ทหารถูกไฟดูด 2 นาย

          สรุปความเสียหายจากอุทกภัย จ.น่าน ล่าสุดเกือบ 22 ล้านบาทแล้ว ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมหลายพื้นที่เริ่มคลี่คลาย และมีเหตุพลทหาร 2 นายถูกไฟดูดขณะกำลังช่วยเหลือชาวบ้าน โดยอาการปลอดภัยแล้ว 1 นาย และอาการยังโคม่าอีก 1 นาย ขณะที่ผู้ว่าฯ สุโขทัยเตือนน้ำจากแพร่-พะเยา จ่อทะลักสุโขทัยพรุ่งนี้

         เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2554 สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดน่าน มีพื้นที่ความเสียหายทั้ง 15 อำเภอ 80 ตำบล 738 หมู่บ้าน มีประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม 103,054 คน 21,300 ครัวเรือน รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 30 ล้านบาท ทั้งนี้ ที่สามารถสำรวจได้ในขณะนี้เพียง 3 อำเภอ ยังเหลืออีก 12 อำเภอ ซึ่งจังหวัดน่านกำลังเร่งสำรวจ

         โดยเฉพาะที่ อ.เวียงสา ซึ่งเป็นพื้นที่ทางตอนใต้ของ จ.น่าน และเป็นพื้นที่รับน้ำจากทางเหนือของจังหวัด มีบ้านเรือนราษฎรกว่า 100 หลังคาเรือนถูกน้ำท่วม ระดับน้ำสูงมากกว่า 1 เมตร และที่เทศบาลเวียงสา ซึ่งมีพื้นที่ติดริมน้ำ ส่งผลให้น้ำท่วมบ้านเรือนราษฎรที่บ้านบุญยืนและบ้านกลางเวียง กว่า 500 หลังคาเรือน ระดับน้ำสูงกว่า 3 เมตร ส่งผลให้หลายหมู่บ้านที่อยู่ติดริมแม่น้ำน่าน ถูกน้ำท่วมขังระดับน้ำสูงประมาณ 2 เมตร

         อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น แต่ยังคงประกาศพื้นที่ภัยพิบัติทั้งจังหวัด รวม 15 อำเภอ เนื่องจากยังต้องเฝ้าระวังฝนตกอีกใน 2-3 วันนี้ หากไม่มีฝนตกหนักลงมาอีกก็จะเข้าสู่ภาวะปกติ ส่วนพื้นที่ที่น้ำลดลง ทางจังหวัดได้ประสานให้หน่วยงาน ทหาร เจ้าหน้าที่ อพปร. องค์กรท้องถิ่น ออกช่วยเหลือประชาชน เพื่อทำความสะอาดบ้านเรือน ถนนสายต่าง ๆ รวมถึงสถานที่ราชการที่ถูกน้ำท่วม และคาดว่าสถานการณ์คงจะเข้าสู่สภาวะปกติในเร็ววันนี้

         ขณะเดียวกัน มีรายงานข่าวด้วยว่า ทหารจากกองพันทหารม้าที่ 7 กรมทหารที่ 2 จ.อุตรดิตถ์ 2 นาย ถูกไฟดูดอาการสาหัส ขณะช่วยชาวบ้านทำความสะอาด ที่บ้านดอนแก้ว ต.ในเวียง อ.เมือง ซึ่งขณะนี้อาการพ้นขีดอันตรายและรู้สึกตัวแล้ว 1 นายคือ พลทหารอรรถพล อินสา อายุ 22 ปี และสาหัส 1 นาย คือ พลทหารสิทธิศักดิ์ ขันธประณีต อายุ 22 ปี ซึ่งมีรายงานว่า พลทหารสิทธิศักดิ์ ได้หยุดหายใจไปเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาของวันนี้ (30 ก.ค.) แต่แพทย์ได้ทำการกู้สัญญาณชีพกลับมาได้ จนมีสัญญาณชีพปกติแล้ว แต่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิดต่อไป

น้ำเหนือจากแพร่-พะเยาะ ทะลักเข้าสุโขทัยพรุ่งนี้

          นายจักรินทร์ เปลี่ยนวงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ ยังคงวิกฤติอย่างต่อเนื่อง หลังจากเมื่อ 2 - 3 วัน ที่ผ่านมา ปริมาณน้ำท่วมอยู่ที่ 900 ลูกบาศก์เซนติเมตรต่อวินาที แต่จากการคาดการณ์แล้ว ในวันพรุ่งนี้ ( 1 กรกฎาคม) ตั้งแต่ช่วงบ่าย น้ำก้อนใหญ่จาก จ.แพร่ และ จ.พะเยา จะไหลมาสมทบที่ จ.สุโขทัย อีกกว่า 1,300 ลูกบาศก์เซนติเมตรต่อวินาที ซึ่งจะมีกำลังแรงมาก และจะยิ่งซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชนให้หนักมากขึ้น

          โดยขณะนี้ บ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้รับความเสียหายจำนวนมาก พื้นที่การเกษตรจมน้ำไปแล้วกว่า 10,000 ไร่ ซึ่งตนได้ประกาศให้พื้นที่ 6 อำเภอ เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติอุทกภัยแล้ว

กรมชลฯ ยันไม่มีปล่อยน้ำจากอ่างเก็บน้ำห้วยแม่สอด

          ก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่า เหตุการณ์น้ำท่วมที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ส่วนหนึ่งเกิดจากการระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำห้วยแม่สอดนั้น ล่าสุด กรมชลประทานได้ชี้แจงว่า ไม่มีเหตุการณ์น้ำล้นอ้างฯ หรือพร่องน้ำออกจากอ่างฯ ที่จะทำให้เกิดผลกระทบต่อตัวเมืองแม่สอดแต่อย่างใด มีเพียงแต่การระบายน้ำลงสู่คลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งซ้ายและฝั่งขวา เพื่อส่งน้ำเข้าสู่ระบบชลประทาน ให้เกษตรกรทำการเพาะปลูกตามฤดูกาลปกติเท่านั้น

อีสานเตรียมรับมือ หลังระดับน้ำแม่น้ำโขงเริ่มสูงขึ้น

          สถานการณ์ในแม่น้ำโขงเริ่มน่าเป็นห่วง หลังพบระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้อีก 1 เมตร อยู่ที่ 9 เมตรแล้ว ขณะที่จุดวิกฤติอยู่ที่ 11 เมตร ทำให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดต้องเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงทุกอำเภอ ให้ระวังน้ำท่มฉับพลัน เพราะหากระดับน้ำแม่น้ำโขงถึงจุดวิกฤติ จะทำให้แม่น้ำสาขา และน้ำในหนองหานที่ไหลมาจากจังหวัดสกลนครเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านได้

ระดับน้ำในแม่น้ำจันทบุรีเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝนที่ตกติดต่อกันหลายวันในพื้นที่ต้นน้ำอำเภอเขาคิชฌกูฏ และมะขาม ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำจันทบุรีเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ล่าสุดทางจังหวัดเปลี่ยนธงสัญลักษณ์การเตือนจากสีเขียวเป็นสีเหลือง เพื่อเตรียมพร้อมและเฝ้าระวังระดับน้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมประกาศเตือนให้ชาวบ้านระวังน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากแล้ว

[29 มิถุนายน] น้ำท่วมน่าน เริ่มลดลง -เตือนสุโขทัย พิษณุโลกเตรียมรับมือ

          นายกฯ ลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วม จ.น่าน กำชับทุกหน่วยเข้าช่วยเหลือ ห่วง จ.อุตรดิตถ์ จุดน้ำไหลผ่าน สั่งสร้างคันกั้นริมตลิ่ง มั่นใจไม่กระทบเลือกตั้ง ด้าน "ครม." รับทราบผลกระทบชาวบ้านเดือดร้อนแล้วเกือบแสนคน "อ.แม่สอด" พบผู้เสียชีวิต 2 ราย ด้าน ปภ.เตือน 10 จังหวัดภาคเหนือ-อีสาน เสี่ยงน้ำป่าดินถล่ม

          วานนี้ (28 มิถุนายน) ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เดินทางตรวจสถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดน่าน

          โดยนายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน รายงานสถานการณ์เบื้องต้น พร้อมนำนายกฯ ลงพื้นที่ ซึ่งจุดแรกที่อำเภอเวียงสา มีระดับน้ำสูงเกือบ 100 เซนติเมตร นายอภิสิทธิ์ต้องขึ้นรถยีเอ็มซีทหารเยี่ยมและให้กำลังใจชาวบ้าน

          นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ครม.ได้เร่งให้กระทรวงคมนาคม และกระทรวงเกษตรฯ สำรวจความเสียหาย ซึ่งที่จังหวัดน่านบางจุดน้ำเริ่มลดลง สามารถทำความสะอาดและฟื้นฟูความเสียหายได้บ้างแล้ว แต่พื้นที่ที่ต้องระวังจากนี้คือ จังหวัดอุตรดิตถ์ เนื่องจากเป็นจุดที่น้ำจะไหลไป ดังนั้นบริเวณริมน้ำควรต้องเร่งทำคันกั้นน้ำ แต่ก็ยังเชื่อว่าน้ำท่วมที่เกิดขึ้นขณะนี้จะไม่ส่งผลกระทบกับการเลือกตั้ง วันที่ 3 ก.ค.นี้

          นพ.มารุต มัสยวาณิช รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ครม.รับทราบการประกาศให้พื้นที่จังหวัดน่าน จังหวัดเชียงราย จังหวัดตาก และจังหวัดพะเยา ที่เกิดน้ำท่วม เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉิน ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 30,650 ครัวเรือน 99,416 คน, พื้นที่เกษตรเสียหาย 31,891 ไร่, ถนน 63 สาย, ท่อระบายน้ำ 35 แห่ง, ฝาย 55 แห่ง, สะพานและคอสะพาน 45 แห่ง, บ่อปลาและบ่อกุ้ง 208 บ่อ, ปศุสัตว์ 3,917 ตัว โดยที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก มีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย และจังหวัดน่านเป็นพื้นที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด

          นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดี ปภ.กล่าวว่า ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องในวันที่ 25-27 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทำให้เกิดสถานการณ์อุทกภัยใน 4 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย, ตาก, น่าน และพะเยา รวม 28 อำเภอ 106 ตำบล และเกิดดินสไลด์ใน 2 จังหวัด คือ แพร่และลำปาง

          "ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขา ทางน้ำไหล และที่ลุ่มริมแม่น้ำในพื้นที่ภาคเหนือและอีสาน 10 จังหวัด ได้แก่ น่าน, พะเยา, เชียงราย, อุตรดิตถ์, แพร่, เพชรบูรณ์, พิษณุโลก, หนองคาย, เลย และอุดรธานี ระวังอันตรายจากภาวะฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน อาจทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากและดินถล่ม" อธิบดี ปภ.กล่าว

          ขณะที่ นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับรายงานจาก 3 เขตพื้นที่การศึกษาจังหวัดน่านได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม โดยมีสถานศึกษาที่ได้รับความเสียหายทั้งหมดมีจำนวน 37 โรง และปิดเรียน 37 โรง

          ด้าน นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากภาวะน้ำท่วมในจังหวัดน่าน ทำให้สถานพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขถูกน้ำท่วม 8 แห่ง เป็น รพ.ส่งเสริมสุขภาพตำบลใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมืองน่าน, ภูเพียงและเวียงสา ระดับน้ำสูง 1 เมตร ต้องปิดบริการชั่วคราว

          นายนราธิป พรหมพฤกษ์ นายอำเภอเวียงสา จ.น่าน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอเวียงสา ว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำได้ลดลงเล็กน้อย แต่ยังคงสูงอยู่ เฉพาะในเขตเทศบาล และตัวอำเภอเวียงสา โดยเฉพาะพื้นที่ ที่ติดกับลำน้ำน่านระดับน้ำสูงประมาณ 2 - 3 เมตร ส่วนพื้นที่รอบนอกระดับน้ำสูงกว่า 6-7 เมตร บางหมู่บ้านและบางตำบล ระดับน้ำสูงจนท่วมเกือบมิดหลังคาบ้านเรือนของประชาชน ด้านประเมินความเสียหายเบื้องต้น พบว่า มีพื้นที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมหนักที่สุด ครั้งนี้กว่า 7 ตำบล 38 หมู่บ้าน จากทั้งหมด 17 ตำบล 127 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 25,000 - 26,000 คน

          ส่วนความเสียหายทางด้านการเกษตรนั้น ตอนนี้มีการประเมินกว่าเสียหายประมาณ 9,000-10,000 ไร่ ซึ่งส่วนมากเป็นไร่ข้าวโพด ทั้งนี้คาดว่า ถ้าฝนไม่ตกลงมาอีก 4-5 วัน สถานการณ์น้ำน่าจะลดลงสู่ภาวะปกติ
 
          ด้านนายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เปิดเผยว่า จากการออกสำรวจพื้นที่น้ำท่วม ใน 15 อำเภอของจังหวัด และรับรายงานจากทุกหน่วยงานในการสำรวจความเดือดร้อนของประชาชน พบว่า ขณะนี้มีประชาชนประสบภัย 40,000ครอบครัว ระดับน้ำท่วมสูง 1-2 เมตร โดยการช่วยเหลือนั้น ได้นำข้าวสารอาหารแห้ง เข้าช่วยเหลือชาวบ้านทุกครัวเรือน และเจ้าหน้าที่ออกแจกจ่ายตามพื้นที่ต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม การช่วยเหลือนั้น ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
 
          ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดน่าน ล่าสุด พบว่า ระดับน้ำที่ท่วม เริ่มลดระดับลงบ้างแล้ว แต่ระดับน้ำยังสูง หลังจากฝนได้หยุดตกมา 2 วัน

          อย่างไรก็ตาม ที่สามแยกท่าลี่ ทางเข้าชุมชนภูมินทร์ท่าลี่ ซึ่งเป็นจุดที่น้ำท่วมซ้ำซากในทุกปี ในขณะนี้ระดับน้ำก็ยังคงท่วมสูงกว่า 2-3 เมตร เนื่องจากบริเวณดังกล่าวอยู่ติดกับคูเมืองริมแม่น้ำน่าน ส่งผลให้ชาวบ้านกว่า 200 ครัวเรือน ยังคงเดือดร้อนอย่างหนัก แม้ว่าในขณะนี้น้ำที่ท่วมในตัวเมือง โดยเฉพาะถนนสายเศรษฐกิจ จะแห้งลงไปหมดแล้วก็ตาม

น้ำท่วมตาก น้ำเริ่มลด สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย

           สถานการณ์น้ำท่วมใน จ.ตาก เริ่มคลี่คลาย หลังฝนขาดช่วง ระดับน้ำเริ่มลดต่อเนื่องแล้ว ผู้ว่าฯ เตือน 5 อำเภอ 6 ตำบลเสี่ยงภัยดินถล่ม

           นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วม ในพื้นที่ 5 อำเภอ โดยกล่าวว่า ขณะนี้ระดับน้ำลดลงต่อเนื่อง ซึ่งจากคืนที่ผ่าน มาระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำแม่สอด ที่มีความจุกว่า 5 ล้านลูกบาศก์เมตร สูงขึ้นจนเกือบล้นอ่าง จึงต้องมีการระบายน้ำออก โดยผันออกทางพื้นที่เกษตรใกล้เคียง ซึ่งยอมรับว่า อาจทำให้ไร่ข้าวโพดบางส่วน ของเกษตรกรได้รับผลกระทบ แต่วิธีดังกล่าว ก็สามารถป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้าท่วมเขตเทศบาลได้ โดยตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา จังหวัดได้เร่งสูบน้ำออกจากพื้นที่เขตเทศบาล กระทั่งโรงพยาบาลแม่สอด ที่ตั้งอยู่ในที่ลุ่ม พ้นวิกฤติแล้ว สามารถเปิดให้บริการได้

           อย่างไรก็ตาม เนื่องจากไม่มีฝนตกต่อเนื่องลงมาอีก จึงทำให้การระบายน้ำลงลำน้ำเมย ทำได้คล่องมากขึ้น ซึ่งขณะนี้ระดับน้ำในพื้นที่จากที่เคยสูงถึง 80 เซนติเมตร ก็เริ่มลดลงจนขณะนี้ เหลือเพียง 10 เซนติเมตรเท่านั้น ซึ่งเชื่อว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลงเรื่อย ๆ

          และเมื่อช่วงเช้าวันนี้ ( 29 มิ.ย.) นายสามารถ ลอยฟ้า ยังได้ขึ้นบินตรวจพื้นที่เสี่ยงภัยใน 5 อำเภอด้านตะวันตก พบว่า มีพื้นที่เสี่ยงภัยโซนสีแดงที่เสี่ยงต่อภาวะน้ำป่าไหลหลาก ดินถล่มน้ำท่วมฉับพลัน โดยเฉพาะหมู่บ้านที่อาศัยอยู่ตามภูเขา จำนวน 6 ตำบล ประกอบด้วยตำบลด่านแม่ละเมา ตำบลพะวอ อ.แม่สอด , ตำบลสามหมื่น ตำบลแม่ตื่น อ.แม่ระมาด รวมทั้งตำบลคีรีราษฎร์ และตำบลร่วมไทยพัฒนา อ.พบพระ ซึ่งนายสามารถได้แจ้งผ่านวิทยุสื่อสาร จ.ตาก ด่วนที่สุดเตือนประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวให้เฝ้าระวังแล้ว

          ทั้งนี้ ในหลายพื้นที่ของ จ.ตาก มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะใน อ.แม่สอด อ.พบพระ อ.ท่าสองยาง อ.แม่ระมาด และ อ.อุ้มผาง ที่ยังคงมีกลุ่มฝนปกคลุมอยู่ในพื้นที่ โดยขอให้เจ้าหน้าที่ และมิสเตอร์เตือนภัยซึ่งอยู่ในทุกพื้นที่ ได้เฝ้าระวังภัยธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมแจ้งเตือนให้ประชาชนทราบเป็นระยะ และหากเกิดภัยธรรมชาติขึ้น

         

เฝ้าระวังสุโขทัย-พิษณุโลก ระดับน้ำเริ่มล้นตลิ่ง

          ศูนย์ประสานการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย เตือนภัย ที่ จ.ภูเก็ต และให้เฝ้าระวังที่ จ.สุโขทัย

          นายจําเริญ ยุติธรรมสกุล ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีเลขานุการ ศชอ. เป็นประธานการประชุมศูนย์ประสานการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย (ศชอ.) ระบุว่า ให้เตือนภัยที่ จ.ภูเก็ต และให้เฝ้าระวังน้ำท่วมที่ จ.สุโขทัย เนื่องจากขณะนี้มีฝนตกหนักที่ จ.ภูเก็ต และแม่น้ำยมบริเวณ อ.เมือง จ.สุโขทัย ได้เริ่มล้นตลิ่งแล้ว และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จึงให้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.สุโขทัย รวมทั้งที่ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ด้วย โดยขอให้ประชาชนเตรียมเก็บข้าวของ และขนย้ายสัตว์เลี้ยงขึ้นที่สูง

ประกาศสถานการณ์น้ำในแม่น้ำยม และการคาดการณ์ระดับน้ำสูงสุด ที่จ.แพร่และสุโขทัย จากกรมชลประทาน

          ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน รายงานสถานการณ์น้ำในแม่น้ำยมที่จังหวัดแพร่ ล่าสุด(28 มิ.ย. 54) ระดับน้ำในน้ำยมบริเวณสถานี Y.20 บ้านห้วยสัก อ.สอง จ.แพร่ วัดได้สูงสุดเมื่อเวลา 19.00 น.ของวานนี้(27 มิ.ย.) ที่ระดับ 9.80 เมตร(ระดับตลิ่ง 8 เมตร) คิดเป็นปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,304 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ระดับน้ำที่สถานี Y.1C บ้านน้ำโค้ง อ.เมืองแพร่ จะมีระดับน้ำสูงสุดประมาณ 9.60 เมตร(ระดับตลิ่ง 8.20 เมตร)ในเวลาประมาณ 19.00 น.ของวันนี้(28 มิ.ย.) โดยจะส่งผลให้เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมในเขตพื้นที่ชุมชนริมแม่น้ำยม 5 ชุมชนในเขตอำเภอเมืองแพร่ ได้แก่ บ้านเชตะวัน บ้านใหม่ ตำบลในเวียง บ้านสองแคว บ้านร้องขี้ปลา บ้านมหาโพธิ์ ตำบลป่าแมต ระดับน้ำสูงประมาณ 1.40 เมตร คาดว่าหากไม่มีฝนตกหนักลงมาเพิ่มเติม ระดับน้ำจะลดลงอย่างต่อเนื่องและเข้าสู่ภาวะปกติภายในวันที่ 29 มิ.ย. 54 นี้

          อนึ่ง ปริมาณน้ำในแม่น้ำยมจากจังหวัดแพร่ จะไหลลงสู่จังหวัดสุโขทัย เป็นจังหวัดต่อไป โดยคาดว่าปริมาณน้ำจะไหลมาถึงบริเวณประตูระบายน้ำหาดสะพานจันทร์ อำเภอสวรรคโลก ประมาณวันที่ 30 มิ.ย. 54 นี้ ซึ่งกรมชลประทาน ได้วางแนวทางในการรับมือด้วยการให้โครงการชลประทานสุโขทัย รับน้ำส่วนหนึ่งเข้าสู่แม่น้ำยมสายเก่า และคลองผันน้ำยมไปลงแม่น้ำน่านอย่างเต็มศักยภาพ ส่วนปริมาณน้ำที่เหลือจะไหลสู่ทางตอนล่าง และจะทำให้มีน้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำบริเวณอำเภอสวรรคโลก และอำเภอศรีสำโรงบางส่วน(ศักยภาพของแม่น้ำยมบริเวณอำเภอสวรรคโลก รับได้สูงสุด 1,100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่วนที่อำเภอศรีสำโรง รับได้สูงสุด 800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที) สำหรับอำเภอเมืองสุโขทัย จะได้รับผลกระทบบ้างเล็กน้อยในระยะต่อไป ทั้งนี้ โครงการชลประทานสุโขทัย ได้เตรียมพร้อมรับมือด้วยการเสริมกระสอบทรายปิดช่องระบายน้ำและที่ลุ่มต่ำต่างๆแล้ว(ศักยภาพของแม่น้ำยมบริเวณหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย บริเวณตัวเมืองสุโขทัย รับน้ำได้สูงสุดประมาณ 700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที)

         

[28 มิถุนายน] น่านอ่วม! ประกาศภัยพิบัติทั้งจังหวัด-ฝนถล่มดินทลาย

 
          สถานการณ์ภาคเหนือยังน่าห่วง เกิดฝนตกหนักเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะจังหวัดน่านอ่วมหนัก ผู้ว่าฯ ประกาศเขตภัยพิบัติแล้ว 15 อำเภอ ปิดอุทยานแห่งชาติดอยภูคา หลังดินถล่มปิดเส้นทาง ด้านอุทยานเขาใหญ่ก็ไม่น่าวางใจ สั่งจับตาใกล้ชิด

          สถานการณ์ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่จังหวัดน่าน นายพูลสถิตย์ วงศ์สวัสดิ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยภูคา กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดฝนตกหนักมากตั้งแต่วันที่ 25-26 มิ.ย.ที่ผ่านมา ปริมาณน้ำฝนวัดได้ถึง 305 มิลลิเมตร ทำให้เส้นทางสาย 1256 อ.ปัว-อ.บ่อเกลือ บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 22-23 ถนนขาดเป็นระยะทางกว่า 100 เมตร และบริเวณเจ้าหลวงภูคามีดินถล่มลงมาปิดเส้นทาง ทำให้ราษฎรบริเวณบ้านเต๋ย หมู่ 6 บ้านเต๋ยห้วยงอน หมู่ 10 บ้านเต๋ยกลาง หมู่ 11 บ้านกิ่วเห็น หมู่ 7 บ้านน้ำดั้น หมู่ 13 บ้านแจรงหลวง หมู่ 4 บ้านน้ำปัวพัฒนา หมู่ 12 ต.ภูคา ขาดการติดต่อกับพื้นที่ภายนอก รถไม่สามารถสัญจรไปมาได้ โดยเฉพาะการล่องแก่งมีปริมาณน้ำมาก กระแสน้ำไหลเชี่ยวเป็นอันตราย เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว จึงได้นำเสนออธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ขอปิดอุทยานเป็นการชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนายนเป็นต้นไป

          มีรายงานด้วยว่า ตั้งแต่เช้าวันที่ 27 มิ.ย. หลังจากเกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้น้ำทะลักท่วมถนนทุกสายในเขตเทศบาลเมืองน่าน ระดับน้ำสูงกว่า 50-70 เซนติเมตร รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ ร้านค้าถูกน้ำทะลักเข้าท่วมเสียหาย ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยระดมกำลังทำกระสอบทรายให้เพียงพอต่อความต้องการของ ประชาชน ที่ได้ร้องขอรับกระสอบทรายสำหรับทำคันกั้นน้ำเข้าบ้านเรือน ซึ่งผลิตแล้วกว่า 3,000 ลูก แต่ก็ยังไม่เพียงพอ รวมถึงทางหน่วยทหารจาก จทบ.น่าน-ม.พัน 10 และ ม.พัน 15 ออกช่วยเหลือประชาชนในการขนย้ายทรัพย์สิน

          สำหรับระดับน้ำในแม่น้ำน่านยังคงวิกฤติ เวลา 05.00 น. จุดวัดระดับที่ N64 บ้านผาขวาง วัดได้ 11.37 เมตร และที่จุดวัด N1 กาดแลง ริมแม่น้ำน่าน วัดได้ 8.8 เมตร ซึ่งเลยจุดวิกฤติ ส่งผลให้น้ำท่วมขยายวงกว้างเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตรเสีย หายในหลายอำเภอ ได้แก่ อำเภอปัว, ท่าวังผา, เมืองฯ, ภูเพียง, เวียงสา บางพื้นที่ระดับน้ำขึ้นสูงกว่า 2 เมตร ชาวบ้านต้องขนของและสัตว์เลี้ยงหนีขึ้นไปอยู่ชั้น 2 ของบ้าน และไม่สามารถออกมาจากบ้านได้เนื่องจากกระแสน้ำเชี่ยวกราก อีกทั้งน้ำยังเข้าท่วมถนนสายต่าง ๆ โดยล่าสุดน้ำได้เข้าท่วมถนนสายหลัก น่าน-ทุ่งช้าง ที่บ้านห้วยยื่น ต.บ่อ อ.เมืองฯ จ.น่าน ระดับน้ำสูงมากกว่า 50 เซนติเมตร รถเล็กทุกชนิดไม่สามารถผ่านสัญจรได้ ใช้ได้เพียงรถบรรทุกและรถขับเคลื่อนสี่ล้อสูงเท่านั้น

          นายสุรพล เธียรสูตร นายกเทศมนตรีเมืองน่าน เปิดเผยว่า น้ำได้เข้าท่วมในเขตชุมชน 12 ชุมชนกว่า 2 พันหลังคาเรือนแล้ว ทั้งยังทะลักเข้าท่วมย่านเศรษฐกิจ ระดับน้ำสูงกว่า 50-70 เซนติเมตร และขณะนี้กำลังเริ่มท่วมบนถนนเส้นสุมนเทวราช ซึ่งเป็นถนนสายสำคัญ มีร้านค้าขนาดใหญ่และโรงแรมหลายแห่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำกำลังเข้าช่วยเหลือ ขณะเดียวกันมีการปิดโรงเรียนและสถานศึกษาทุกแห่งในเทศบาลเมืองไม่มีกำหนด หรือจนกว่าสถานการณ์น้ำท่วมจะคลี่คลาย 

          ด้านนายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ได้ประกาศเขตภัยพิบัติแล้วทั้ง 15 อำเภอ หนักสุดที่ อ.เมือง, ภูเพียง, ท่าว่าผา, ปัว และ เวียงสา รวมพื้นที่ได้น้ำท่วมรวม 75 ตำบล 675 หมู่บ้าน สั่งทุกหน่วยงานเตรียมพร้อม โดยจัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจขึ้นที่ศาลากลางจังหวัดน่าน เพื่อเตรียมพร้อมช่วยเหลือประชาชนทุกด้าน และจัดให้หอประชุมศูนย์ราชการ ถ.ปางค่า ต.ไชยสถาน อ.เมืองน่าน เป็นจุดรองรับหากต้องมีการอพยพประชาชน

          นายมาโนชย์ การพนักงาน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ รายงานว่า ปริมาณน้ำฝนตลอดทั้งคืนวันที่ 26 มิ.ย. จนถึงขณะนี้ มีปริมาณอยู่ที่ 110 มิลลิเมตร ส่งผลให้พื้นที่รับน้ำทุกจุดในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เริ่มอิ่มตัวแล้ว เกรงว่าปริมาณน้ำจะไหลหลากลงสู่ด้านล่างเข้าท่วมพื้นที่ใน อ.ปากช่อง จึงได้ประสานงานให้ทุกหน่วยงานประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านเตรียมความพร้อมรับ มือหากเกิดน้ำท่วมขึ้นในระยะนี้

จ.ตากวิกฤติ! น้ำท่วมบ้านเรือนเสียหายยับ
 
          สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.ตาก หลังจากเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ 5 อำเภอฝั่งตะวันตก (อ.แม่สอด-แม่ระมาด-พบพระ-ท่าสองยาง และ อ.อุ้มผาง) ชายแดนไทย-พม่า ด้าน จ.ตาก ส่งผลให้ระดับแม่น้ำเมย ที่กั้นพรมแดนไทย-พม่า มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้น้ำท่วมบริเวณเกาะกลางแม่น้ำเมย หรือ เกาะโนแมนแลนด์ ใต้สะพานมิตรไทย-พม่า ติดกับตลาดริมเมย ตำบลท่าสายลวด อ.แม่สอด จนน้ำเมยได้ไหลเข้าน้ำท่วมร้านค้าและเพิงพักของชาวพม่าที่กลางเกาะเห็นแต่หลังคา

          อย่างไรก็ตาม จากการที่แม่น้ำเมย มีระดับสูงขึ้นและไหลเข้าท่วมพื้นที่เกาะทั้งหมด จนต้องเร่งขนสินค้าและเอาชีวิตรอดจากระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เกิดมีฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้แม่น้ำไหลหลากลงสู่แม่น้ำเมยเพิ่มขึ้น ล่าสุดระดับน้ำได้เริ่มเอ่อเข้าท่วมร้านค้าขายของฝากชาวไทยที่ตั้งอยู่ริม แม่น้ำ โดยร้านค้าบางส่วน เริ่มขนสินค้าย้ายไปไว้ในที่ปลอดภัยแล้ว

          สำหรับ เกาะโนแมนแลนด์ ซึ่งถูกน้ำเมยท่วม ได้มีชาวพม่าเข้าไปอาศัยอยู่ ทั้งๆ ที่เป็นพื้นที่พิพาท และส่วนใหญ่จะค้าของหนีภาษีและสิ่งผิดกฎหมาย โดยที่เจ้าหน้าที่ทั้ง 2 ฝ่าย ไม่สามารถทำอะไรได้




[27 มิถุนายน] น้ำท่วมน่าน ยังวิกฤต สั่งปิดโรงเรียนหลายแห่ง

          น้ำท่วมเขตเทศบาลเมืองน่าน และพื้นที่หลายอำเภอ สั่งปิดโรงเรียนแล้วหลายแห่ง เบื้องต้นนำเรือพระราชทานพร้อมรถบรรทุก เข้าช่วยเหลือ ส่วนที่ อ.ปง จ.พะเยา น้ำป่าไหลหลาก ท่วมไร่ข้าวโพดกว่าพันไร่ สูญกว่า 10 ล้านบาท

          สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมหลายพื้นที่ในจังหวัดน่าน เนื่องจากอิทธิพลของพายุไหหม่า ทำให้เกิดฝนตกต่อเนื่องตั้งแต่คืนวันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน จนถึงขณะนี้ทำให้น้ำในลำห้วยเพิ่มระดับสูงอย่างรวดเร็วและไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน และพื้นที่การเกษตรจำนวนมาก ล่าสุดทะลักเข้าท่วมเขตเทศบาลเมืองน่านแล้ว

          โดยระดับน้ำเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (26 มิถุนายน) ได้ไหลเข้าท่วมเขตเทศบาลเมืองน่าน ที่กาดแลง วัดได้ 7.40  เมตร และเข้าท่วมสนามเด็กเล่นและบ้านพักข้าราชการที่อยู่ติดริมน้ำน่าน โดยเริ่มไหลเข้าท่วมจวนผู้ว่าราชการจังหวัดน่านแล้ว ส่วนที่บ้านท่าลี่ พวงพะยอม เริ่มเอ่อเข้าท่วม ขณะที่สะพานพัฒนาภาคเหนือต้องสั่งปิดไม่ให้รถสัญจรไปมาแล้ว เนื่องจากถนนด้านบ้านท่าล้อ บ้านแสงดาว อ.ภูเพียง มีน้ำท่วมแล้ว ส่วนที่ผาขวางระดับน้ำสูงที่ระดับ 8.30 เมตร เพิ่มขึ้น 15 เซนติเมตร/ชั่วโมง


          นอกจากนี้ทางจังหวัด ยังต้องสั่งปิดโรงเรียน 3 แห่ง คือ โรงเรียนสตรีศรีน่าน โรงเรียนศรีสวัสดิ์วิทยาคาร และโรงเรียนนันทบุรีวิทยา และปิดโรงเรียนเกือบทุกแห่งใน อ.เมืองน่าน อ.เวียงสา ไม่มีกำหนด

          ส่วนความเสียหายในอำเภออื่น รายงานล่าสุดระบุว่ามีปริมาณฝนสะสมใน อ.บ่อเกลือ วัดได้ 223.4 มิลลิเมตร ส่วนที่ อ.ปัว 169.4 มิลลิเมตร ปริมาณฝนดังกล่าวทำให้เกิดน้ำท่วมใน อ.ทุ่งช้าง 1 หมู่บ้าน , อ.ภูเพียง 4 หมู่บ้าน , อ.เวียงสา 40 หมู่บ้าน ใน 5 ตำบล และ อ.ปัว 6 หมู่บ้าน ใน ต.วรนคร ในจำนวนนี้มีบ้านของนายสัมฤทธิ์ สุทธหลวง อายุ 48 ปี ในหมู่บ้านร้องแง หมู่ 7 ต.วรนคร ถูกกระแสน้ำพัดหายไปทั้งหลัง ขณะที่ถนนปัว - อุทยานแห่งชาติดอยภูคา ยังถูกน้ำพัดเสียหายจนถูกตัดขาด




          อย่างไรก็ตาม นายสุรพล เธียรสูตร นายกเทศมนตรีเมืองน่าน สั่งเดินเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่เพื่อเร่งระบายน้ำออกนอกเขต พร้อมนำรถติดเครื่องขยายเสียง ประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยเก็บข้าวของขึ้นที่สูง ขณะที่ชาวบ้านในเขตเทศบาลต้องขอกำลังทหาร จากกองพันทหารม้าที่ 10 ให้มาช่วยบรรจุกระสอบทรายใช้กั้นน้ำ และช่วยเก็บทรัพย์สินขึ้นไว้บนที่สูง พร้อมทั้งยังกำลังคนใช้เรือท้องแบน ออกช่วยผู้ประสบภัย โดยขนย้ายพระ เณร ออกมาจากวัดบ้านขอน และช่วยเด็กทารกแรกคลอดวัยเพียง 10 วัน พร้อมพ่อแม่และพี่สาว ที่หนีออกมาจากบ้านซึ่งน้ำกำลังไหลหลากเข้าท่วมอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางชาวบ้านอีกฝั่งที่เฝ้ามองดูเพื่อเอาใจช่วย เนื่องจากน้ำหลากซัดแรงมาก แต่สุดท้ายก็นำขึ้นเรือท้องแบนออกมาอยู่อีกฝั่งที่ปลอดภัยได้

          นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่านได้สั่งจัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจที่ศาลากลาง จังหวัดโดยมีตำรวจ อส. และเจ้าหน้าที่ ปภ. ประจำตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อออกช่วยเหลือตามที่ได้รับการร้องขอ นอกจากนี้ยังเปิดศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจที่ อ.ปัว อ.ท่าวังผา และ อ.เวียงสา เพื่อให้การช่วยเหลือชาวบ้านด้วยเช่นกัน โดยเบื้องต้นกำลังพลจังหวัดทหารบกน่านได้นำเรือพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตน ราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จำนวน 3 ลำ พร้อมรถบรรทุก เข้าช่วยเหลือราษฎรในพื้นที่ประสบภัยแล้ว


 
            ขณะที่ โรงเรียนนันทบุรี โรงเรียนสตรีศรีน่าน โรงเรียนศรีสวัสดิ์วิทยาคารจังหวัดน่าน และโรงเรียนราชานุบาล ประกาศหยุดการเรียนการสอนจนกว่าระดับน้ำจะเข้าสู่ภาวะปกติ








สถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดพะเยา

          ส่วนสถานการณ์ที่จังหวัดพะเยา จากฝนที่ตกหนักตลอดทั้งคืน ทำให้แม่น้ำ 4 สาย ประกอบด้วย แม่น้ำงิม แม่น้ำเงิน แม่น้ำรู และ แม่น้ำสะต๊อด ได้มีระดับสูง และเอ่อท่วมบ้านเรือนประชาชน 4 หมู่บ้าน คือ หมู่ 1, 6, 7 และ 14 โดยเฉพาะหมู่ที่ 6 ระดับน้ำสูงประมาณ 2 เมตร มีบ้านเรือน อุปกรณ์การเกษตรของชาวบ้าน ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ส่วนพื้นที่ไร่ข้าวโพดของชาวบ้าน ได้ถูกน้ำท่วมเสียหายล้มตายมากกว่า 1,000 ไร่ มูลค่าความเสียหายในขณะนี้ ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาทแล้ว

          ปภ.พะเยาเตือน 4 อำเภอ ระวังน้ำท่วมฉับพลัน



สถานการณ์น้ำท่วม จ.ตาก

          น้ำท่วมจ.ตาก ดับแล้ว 3

          ล่าสุด สถานการณ์น้ำท่วมที่ อ.แม่สอด และอ.แม่มะราด จ.ตาก ระดับน้ำเริ่มลดลงแล้ว พบผู้เสียชีวิต 3 ราย เป็นชาย 2 ราย และเด็กวัย 8 ขวบ 1 ราย

          จากการตรวจสอบ ความเสียหายจากน้ำท่วม ที่ อ.แม่มะราด จ.ตาก พบบ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายกว่า 10 หลังคาเรือน พืชผลทางการเกษตร ทั้ง นาข้าว ข้าวโพด ถั่ว และกล้วย ได้รับความเสียหายจำนวนมาก แต่ไม่ผู้เสียชีวิต

          ส่วนทางด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก ระดับน้ำลดลงแล้ว เหลือเพียงแต่น้ำขังในบางพื้นที่ และพบผู้เสียชีวิตเป็นชายไทย 2 รายไม่ทราบชื่อ จมน้ำเสียชีวติระหว่างออกหาปลา ขณะที่น้ำท่วม และอีกรายเป็นเด็กหญิงวัย 8 ขวบ ลูกสาวแรงงานพม่า ถูกไฟฟ้าช็อต ขณะที่เกาะเสาไฟหน้าโรงเรียนในบริเวณที่น้ำท่วม

           น้ำป่าทะลักท่วมหมู่บ้านแม่ระมาด จ.ตาก

            จ.ตาก ฝนตกหนัก ติดต่อกันหลายวัน ส่งผลน้ำป่าทะลักท่วม ใน อ.แม่ระมาด หลายหมู่บ้าน พื้นการเกษตร เสียหายนับพันไร่

            มีรายการสถานการณ์ฝนตกน้ำท่วม ในพื้นที่ชายแดนไทย-พม่า จังหวัดตาก ว่า พายุฝนกระหน่ำหนักในหลายท้องที่มาหลายวัน ส่งผลให้เกิดน้ำป่าจากเทือกเขาธงชัย เขตป่าสงวนแห่งชาติแม่ระมาด ไหลทะลักลงสู่ลำห้วยแม่ระมาด ที่ไหลผ่านเขตเทศบาลตำบลแม่ระมาด และอีกหลายพื้นที่ของ อ.แม่ระมาด กระแสน้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนของราษฎร ที่ปลูกเรียงรายอยู่ตลอดริมลำห้วยหลายหมู่บ้าน โดยเฉพาะหมู่ที่ 2 หมู่ที่ 3 หมู่ที่ 8 ต.แม่ระมาด บ้านเรือนราษฎรนับร้อยหลังคาเรือน ไม่สามารถออกมาข้างนอกได้ เพราะระดับน้ำสูงกว่า 80 เซนติเมตร ถนนหลายสายถูกน้ำท่วมจนรถสัญจรไปไม่ได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.หน่วยกู้ภัยหลายอำเภอถูกระดมเข้าไปให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

            นอกจากนี้ ที่หมู่ 3 ต.แม่จะเรา อ.แม่ระมาด น้ำได้เอ่อทะลักเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร อาทิ นาข้าว ไร่ถั่วเหลือง และข้าวโพด จมอยู่ใต้น้ำนับพันไร่ เนื่องจากการสถานการณ์น้ำป่ามีความรุนแรง ราษฎรต้องพากันย้ายสิ่งของไปไว้ในที่สูง โดยเบื้องต้นทางอำเภอได้นำสิ่งของไปให้ความช่วยเหลือราษฎรที่ไม่สามารถออกมาได้











อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก