x close

ตามติดภารกิจพระมหาสมปอง ในวู้ดดี้เกิดมาคุย

พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต

พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต ในวู้ดดี้เกิดมาคุย


พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต

พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต ในวู้ดดี้เกิดมาคุย



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก youtube.com โพสต์โดย fcfav  , รายการวู้ดดี้เกิดมาคุย

        เมื่อการสื่อสารในยุคปัจจุบันนี้ถูกเชื่อมไว้ด้วยเทคโนโลยี ก็ทำให้หลาย ๆ เรื่องเขยิบเข้ามาใกล้ตัว และเข้าถึงง่ายขึ้นกว่าเดิม ดังเช่น "ธรรมะ" ที่สมัยก่อน หลาย ๆ คนอาจจะบอกว่าน่าเบื่อ และฟังดูเข้าใจยาก แต่ปัจจุบันหาเป็นเช่นนั้นไม่ เพราะพระนักเทศน์หลายท่านได้หยิบธรรมะมาอธิบายผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก แถมยังใช้สำนวนภาษาที่โดนใจวัยรุ่น จนกดไลค์กันเพียบ

        และแน่นอนว่า หนึ่งในพระนักเทศน์ขวัญใจวัยรุ่นในชั่วโมงนี้ ใคร ๆ ต่างก็รู้จัก "พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต" แห่งวัดสร้อยทอง ซึ่งหลายคนอยากรู้ว่า แต่ละวันท่านมีภารกิจอะไรบ้าง งานนี้ รายการวู้ดดี้เกิดมาคุยจึงได้ส่ง "วู้ดดี้" ไปเป็นเด็กวัด เพื่อขอตามติดภารกิจของพระมหาสมปองสักวัน พร้อมกับเคลียร์ข้อสงสัยมากมายที่เกิดขึ้นกับท่าน

        เริ่มต้นภารกิจเด็กวัด "วู้ดดี้" ก็ต้องร้องโอดเสียแล้ว เพราะต้องกวาดลานวัด ถูพื้นศาลา ล้างห้องน้ำ ทำงานทุกอย่างที่เด็กวัดต้องทำ และต้องนอนพื้นวัดเหมือนกับเด็กวัดคนอื่น ๆ โดยมีผ้าจีวรห่มแทนผ้าห่ม ท่ามกลางบรรยากาศหมาหอน ก่อนที่จะต้องรีบตื่นแต่ไก่โห่ในวันรุ่งขึ้น เพื่อติดตามพระมหาสมปอง ที่ต้องตระเวนรับกิจนิมนต์ไปเทศน์แต่เช้า

        เมื่อเช้าวันใหม่มาถึง "วู้ดดี้" ได้ออกติดตามพระมหาสมปองซึ่งเดินทางไปเทศน์ตามกิจนิมนต์ พร้อมกับพูดคุยเรื่องการรับกิจนิมนต์ไปเทศน์ให้ญาติโยมฟังในสถานที่ต่าง ๆ ที่ท่านมีคิวแน่นเอี้ยดยาวไปถึง 4-5 เดือน จนทำให้บางครั้งท่านไม่สามารถออกไปบิณฑบาตได้ เพราะต้องออกเดินทางแต่เช้า และอย่างไรเสีย ท่านก็ต้องเสียภาษีจากที่ได้รับปัจจัยในการตระเวนไปเทศน์ยังสถานที่ต่าง ๆ ด้วย


พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต

พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต ในวู้ดดี้เกิดมาคุย


พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต

พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต ในวู้ดดี้เกิดมาคุย


        เมื่องานเทศนาธรรมในช่วงกลางวันเสร็จสิ้น บางครั้งในช่วงกลางคืน พระมหาสมปองยังมีภารกิจต้องตอบคำถามที่คนโพสต์ถามในเว็บไซต์ และเฟซบุ๊กธรรมะของท่าน ซึ่งแต่ละวันก็มีผู้เข้ามาตั้งคำถามถามท่านเป็นจำนวนมาก และจะมีพระอาจารย์สมปอง และพระอาจารย์อีกท่านมาทำหน้าที่ตอบคำถาม โดยให้คำแนะนำสอดแทรกธรรมะกลับไป ซึ่งการที่ท่านมีเฟซบุ๊กธรรมะเป็นของตัวเอง ก็ทำให้หลายคนเข้าใจว่า ท่านเป็นพระรูปแรกที่มีเฟซบุ๊ก แต่จริง ๆ แล้ว ท่านไม่ได้เป็นพระที่มีเฟซบุ๊กเป็นรูปแรก เพราะมีพระอาจารย์หลายท่านที่มีเฟซบุ๊กมาก่อน เช่น พระไพศาล วิสาโล หรือ พระอาจารย์ ว.วชิรเมธี ซึ่งพระมหาสมปองก็ชี้แจงว่า การที่พระสงฆ์มีเฟซบุ๊ก หรือทำเว็บไซต์ธรรมะ ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีเผยแผ่ธรรมะที่ปรับตัวไปตามกระแสของสังคม

        ส่วนเรื่องมุกตลกที่ท่านเล่าสอดแทรกขณะเทศน์ แม้คนฟังจะชอบใจ แต่ท่านก็ยอมรับว่าถูกตำหนิมาบ้าง โดยเฉพาะเรื่องมุกทางโลกที่หลายคนฟังแล้วอาจเข้าใจไปในทางไม่ดี หรือเข้าใจไปทางสองแง่สองง่าม แต่พระมหาสมปองก็ได้ให้แง่คิดว่า สิ่งที่ทำจะผิดศีลหรือไม่ขึ้นอยู่กับเจตนาที่เราพูด หากมีเจตนาดี เพื่อเตือนและสอนสั่งญาติโยม ก็ไม่ถึงกับผิดร้ายแรง

        จากนั้น "วู้ดดี้" ก็ได้ถามพระอาจารย์สมปองว่า การที่ท่านเป็นพระนักเทศน์ที่ออกสื่อบ่อย ๆ ทำให้มีคนชื่นชอบมาก แล้วท่านได้เคยหลงระเริงไปกับสิ่งเหล่านี้หรือไม่ ซึ่งพระมหาสมปองก็ให้แง่คิดว่า จริง ๆ แล้ว ท่านทำงานด้านนี้มานานแล้ว จนกระทั่งมาออกสื่อจึงทำให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น และคนก็ชื่นชมในผลงานมากกว่า ซึ่งอย่างที่ท่าน ว.วชิรเมธี พูดไว้ว่า ชื่อเสียงมันเป็นสะพานเชื่อมให้เราทำงานมากขึ้น แต่ถ้าอยู่ในวัด พระมหาเถระก็มองว่าท่านเหมือนพระเด็ก ๆ ทั่วไป เพราะเห็นมาตั้งแต่สมัยเป็นสามเณรแล้ว

        ระหว่างการพูดคุย วู้ดดี้ ก็ยังถามต่อว่า การที่พระอาจารย์ต้องเทศน์สั่งสอนญาติโยมอยู่เรื่อย ๆ ทำให้ท่านต้องดูทีวี ดูข่าว ละคร เสพสื่อต่าง ๆ บ่อย ๆ เพื่อนำไปใช้เทศน์สั่งสอนญาติโยมด้วยหรือไม่ ซึ่งพระอาจารย์ชี้แจงว่า พระก็ต้องดูข่าว อ่านหนังสือพิมพ์บ้าง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ถือว่าผิดมหันต์ต่อพระวินัย และก็ไม่ใช่เรื่องที่ถูก เพราะหากดูอะไรที่เหมาะสม ดูแล้วได้ข้อคิดก็ไม่ใช่เรื่องผิด

        "อย่างสมัยพุทธกาลมีเรื่องเล่าว่า พระเทวทัตไปขอพระพุทธเจ้าว่า พระต้องห่มจีวร 3 ผืนเท่านั้น อยู่เฉพาะโคนต้นไม้เท่านั้น อย่าอยู่กุฏิแบบนี้ ให้ฉันเฉพาะมังสวิรัติ อย่าทานเนื้อ ซึ่งพระพุทธเจ้าฟังแล้วก็ตรัสว่า ใครปฏิบัติตามได้เช่นนั้นก็ปฏิบัติ แต่ถ้าใครทำไม่ได้ขนาดนั้นก็ไม่ต้องถึงขนาดนั้น ใครเป็นพระธุดงค์ต้องเข้าป่า ทำได้ก็ทำไป แต่สำหรับเราเป็นพระบ้าน คามวาสี ต้องอยู่กับสังคม" พระมหาสมปอง กล่าว

        สำหรับประเด็นที่พระอาจารย์สมปองต้องออกสื่อบ่อย ๆ แม้จะมีคนชอบมาก แต่ก็อาจมีบางคนวิพากษ์วิจารณ์ท่านถึงความเหมาะสมบ้างนั้น พระมหาสมปอง ก็ให้แง่คิดในเรื่องนี้ว่า

        "มีคำสามคำที่มาด้วยกันคือ "เด่น ดัง ด่า" ตอนเป็นพระมหาสมปองธรรมดา ๆ ไม่ออกสื่อ ก็ไม่มีคนรู้จัก ไม่มีคนทัก พอเด่นแล้วความดังตามมา ก็ต้องมีคนด่า คนวิจารณ์บ้างว่า สนุกเกินไปไหม เหมาะสมหรือไม่ มันก็ต้องมี แต่เขาด่าเรา เราก็ไม่ได้เป็นอะไร จมูกเราแหว่งไปไหม หน้าเราหายไปแถบหนึ่งไหม ก็ไม่ใช่ ความเกรงใจเป็นสมบัติของคนดี แต่ทำความดีไม่ต้องเกรงใจใคร หากเป็นความดีแล้วไซร้ทำได้ทันที" พระมหาสมปอง ชี้แจง

        จากนั้น "วู้ดดี้" ก็ยังได้ยิงคำถามเด็ดที่ว่า มีคนมองว่าพระมหาสมปองเป็นสัญลักษณ์ของพุทธพาณิชย์ เพราะความที่ท่านออกสื่อบ่อย ๆ ซึ่งพระอาจารย์สมปองก็มองว่า ไม่น่าใช่ อย่างเช่นปัจจัยที่ได้มาก็ถือว่าได้มาเป็นปกติ เหมือนกับเวลาที่ญาติโยมนิมนต์ไปฉันเพลที่บ้านก็ยังถวายปัจจัย ส่วนท่านไปบรรยาย ไปทำงาน ก็ได้รับปัจจัยมาเป็นเรื่องธรรมดา

        "เราไม่รู้จริง ๆ ว่า เราเหลือเวลาอีกเท่าไหร่ ดังนั้นใช้ชีวิตในเวลาที่เหลืออยู่ให้คุ้มค่า เป็นประโยชน์และสร้างสรรค์มากที่สุด เพราะเราสามารถดึงศักยภาพของคนแล้วให้เกิดแรงบันดาลใจกับคนอื่นได้อีกมากมาย นั่นคือสิ่งที่อาตมาทำมาตลอดสิบกว่าปีนี้ เจริญพร" พระมหาสมปอง กล่าว

        สุดท้ายแล้ว พระมหาสมปองยังได้ฝากถึงวิธีสร้างความสุขให้เกิดขึ้นในชีวิตว่า "อันดับแรกต้องเลือกอารมณ์ดี อย่าเลือกอารมณ์เสีย ออกไปข้างนอกเจอได้แค่ 2 สิ่ง คือหนึ่ง สิ่งดี ๆ คนมีน้ำใจ หลบทางให้เรา พูดจาดีกับเรา ส่วนสองคือสิ่งไม่ดี เช่น ขับรถปาดหน้า ปาดซ้ายปาดขวา ด่าเราอีกต่างหาก นั่นคือสิ่งไม่ดีนะ แต่แท้จริงแล้วมันเป็นสิ่งดีสำหรับเรา เพราะเราจะได้รู้ว่า เราจะไม่ทำ ไม่พูด เช่นเดียวกับที่เขาทำ"

        และนี่ก็คือแง่คิด ๆ จากพระมหาสมปอง พระนักเทศน์ขวัญใจประชาชน ที่ทิ้งท้ายไว้ให้พวกเราได้คิด และนำไปปฏิบัติกัน





พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต ในวู้ดดี้เกิดมาคุย 1/4




พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต ในวู้ดดี้เกิดมาคุย 2/4




พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต ในวู้ดดี้เกิดมาคุย 3/4




พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต ในวู้ดดี้เกิดมาคุย 4/4



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ตามติดภารกิจพระมหาสมปอง ในวู้ดดี้เกิดมาคุย อัปเดตล่าสุด 11 กรกฎาคม 2554 เวลา 16:11:38 27,261 อ่าน
TOP