x close

เจาะแนวคิดดี ๆ จากผู้ชายชื่อ สุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ

 









เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก youtube.com โพสต์โดย ladyEdnaMode

        ใครจะคิดว่า ผู้ชายคนหนึ่ง ที่เมื่อก่อนเป็นดำเนินชีวิตเป็นมนุษย์เงินเดือนธรรมดา ทำงานอยู่เบื้องหลัง ในวงการ วิทยุ และโทรทัศน์ ซึ่งน้อยคนนักที่จะรู้จักเขา มาวันนี้ เขากลายเป็นเจ้าของรายการที่เสริมสร้างสังคม เป็นรายการน้ำดีที่มีเอกลักษณ์ และมีผู้ชื่นชอบมากมาย อีกทั้งยังได้รับรางวัลในสาขาต่าง ๆ อีกมากมาย ล่าสุดเขายังได้รับบทนำในภาพยนตร์เรื่องหนึ่งอีกด้วย เขาคนนั้นจะเป็นใครไปติดตามกันเลยค่ะ..

        ชายผู้นี้มีชื่อว่า เช็ค สุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ ซึ่งหลายคนคงเคยเห็นหน้าค่าตาในบทบาทพิธีกร รายการ คน ค้น ฅน แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่า คุณเช็ค สุทธิพงษ์ นี้จะเป็นเจ้าของบริษัททีวีบูรพา ที่ผลิตรายการดี ๆ อย่างคน ค้น ฅน, กบนอกกะลา, กระบี่มือหนึ่ง, แผ่นดินเดียวกัน บ้านฉัน บ้านเธอ ฯลฯ วันนี้รายการเจาะใจ จะพาพวกคุณทั้งหลายไปสัมผัสชีวิตของเขา และคิดว่าทุกคนคงได้แง่คิดดี ๆ เพราะแนวคิดของคุณเช็ค เป็นแนวคิดที่น่าสนใจและน่าทึ่งมาก ๆ เลยทีเดียว

       เปิดฉากด้วยการพาไปชมบรรยากาศที่สุดแสนจะร่มรื่นของออฟฟิศใหม่ของบริษัททีวีบูรพากันค่ะ นอกจากออฟฟิศจะสวยงามน่าอยู่มาก ๆ แล้ว แนวคิดของการสร้างออฟฟิศในครั้งนี้ คุณเช็คยังได้คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และพนักงานเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นการประหยัดพลังงาน โดยการติดกระจกใสบานใหญ่รอบ ๆ ออฟฟิศ การปลูกต้นไม้ เพื่อให้ความร่มรื่นและได้ทัศนียภาพที่น่ามอง การทำรูฟการ์เด้น (ปลูกต้นไม้บนหลังคา) ที่ช่วยลดอุณหภูมิภายในออฟฟิศ การสร้างทางเดินกว้าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่พนักงานที่พิการ นอกจากนี้ คุณเช็ค ยังได้สร้างสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ และทำกิจกรรมต่าง ๆ ทั้ง สนามฟุตบอล และสนามแบดมินตัน รวมถึงการตกแต่งอาคารแต่ละหลังด้วยภาพศิลปะ คำคมดี ๆ เพราะว่าอยากให้อาคารดังกล่าว เป็นมากกว่าที่ทำงาน

      โดย คุณเช็ค กล่าวว่า ตนต้องการสร้างพื้นที่ที่ใช้สอยได้จริง ต้องการให้พนักงานที่นี่อยู่ด้วยความสุข จึงสร้างออฟฟิศให้เป็นแบบแฮปปี้เวิร์กเพลส นอกจากนี้ ตนยังได้สร้างวัฒนธรรมที่แตกต่างจากวัฒนธรรมออฟฟิศอื่น ๆ ด้วย คือการมีข้าวบริการแก่พนักงาน โดยพนักงานจะนำปิ่นโต หรือกล่องอาหารใส่กับข้าวเที่ยงมานั่งกินร่วมกัน ทั้งนี้ ข้าวดังกล่าวเป็นข้าวที่ได้มาจากกลุ่มชาวนากลุ่มหนึ่งที่ได้ตั้งชื่อว่า"ข้าวคุณธรรม" 




      คุณเช็ค ได้แสดงความคิดเห็นถึง "ข้าว" ว่า ตลอดเวลาที่ตนทำรายการคน ค้น ฅน มา ตนได้เข้าไปสัมผัสวิถีชีวิตของชาวนา ซึ่งชาวนาเป็นคนกลุ่มน้อย ที่ทำประโยชน์ให้คนกลุ่มมาก แต่ชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขานั้น ถูกมิติใหม่ในสังคมเข้ามาแทรกทำให้วิถีความเป็นอยู่พอเพียงเปลี่ยนไป บางคนมีรายจ่ายมากกว่ารายรับ หมดไปกับอบายมุขทุกรูปแบบ ทั้ง กินเหล้า สูบบุหรี่ ติดการพนัน และความอยากมีอยากได้ตามกระแสนิยม ทำให้พวกเขาใช้จ่ายเกินตัว เมื่อเห็นปัญหาดังกล่าว ทำให้ตนคิดจะหาวิธีที่ทำให้ชาวนาหันมาทำนาเหมือนอย่างในอดีต คือ "ทำนาเอานา ไม่ใช่ทำนาเสียนา"

      เจ้าของทีวีบูรพา ยังกล่าวอีกว่า ตอนแรกตนได้เข้าไปช่วยเหลือชาวนาในฐานะเป็นตัวแทนขาย เพราะว่าที่ผ่านมา ชาวนาไม่สามารถขายข้าวส่งถึงมือผู้บริโภคได้โดยตรง แต่ตนทำไม่สำเร็จ เพราะต้องคำนึงถึงเรื่องกำไรขาดทุน ตนจึงคิดว่า เราช่วยเป็นการกุศล ช่วยในเรื่องอื่นดีกว่า เมื่อตนคิดได้ดังนั้น จึงไปปรึกษากับผู้ที่มีความรู้ ไม่ว่าจะเป็นเกษตรกร ผู้ใหญ่บ้าน และชาวนา ว่าพวกเขามีปัญหา และต้องการสิ่งใดบ้าง และจากสรุปบทเรียนร่วมกันของชาวนา จึงได้จัดตั้งเครือข่ายข้าวคุณธรรม โดยมุ่งเน้นให้ชาวนา ลด ละ เลิก อบายมุขทั้งปวง และหาช่องทางขายข้าวส่งถึงมือผู้บริโภคโดยตรง

       โดยคุณเช็ค ได้สร้างโมเดล การจำหน่ายข้าวคุณธรรมในครั้งนี้ดังนี้

       ...สมมติว่า ที่บ้านกินข้าวสัปดาห์ละ 5 กิโลกรัม กิโลกรัมละ 20 บาท ตกเดือนหนึ่ง เราเสียค่าข้าว 400 บาท เราก็จ่ายชาวนาไปเลย 400 บาท เมื่อถึงเวลา เราก็มีข้าวกิน ส่วนชาวนาก็มีเงินไปลงทุนก่อน อีกทั้งการซื้อขายในลักษณะนี้ ชาวนาจะพิถีพิถันใส่ใจกับข้าวทุกเม็ด เพราะเขาคิดว่า ขายให้ลูกให้หลานกิน

         จากนั้นตนจึงได้หาสมาชิกเข้าในเครือข่ายคุณธรรม และให้สมาชิกทั้งหลายได้สัมผัสชีวิตความเป็นอยู่กับชาวนา โดยใช้ชื่อว่า "เกลอเมืองกับเกลอทุ่ง" แลกเปลี่ยนสิ่งดี ๆ แก่กันและกัน ทางด้านเกลอเมือง ที่ได้เข้ามาสัมผัสเครือข่ายดังกล่าว ทุกคนล้วนเห็นความสำคัญของชาวนา ได้รู้ว่ากว่าจะเป็นข้าวมันเหนื่อยอยากลำบากขนาด อีกทั้งยังได้เรียนรู้สังคมที่มีแต่การให้ ความมีน้ำใจ การอยู่แบบครอบครัว ซึ่งมันมากกว่าคำว่าเกลอ ตอนนี้มันเป็นครอบครัวที่ใหญ่มาก ๆ แล้ว ส่วนเกลอทุ่ง ก็จะมีกำลังใจในการทำงานมากขึ้น มีคนให้ความสำคัญ และได้ถ่ายทอดความรู้ดี ๆ แก่เกลอเมือง เมื่อก่อนเข้ามาขายข้าวในกรุงเทพ ก็ไม่มีที่อยู่อาศัย หาพักตามห้องเช่าต่าง ๆ แต่ตอนนี้ ถ้าเข้ากรุงเทพ ก็จะมีเพื่อนพ้องพี่น้อง ที่คอยให้ที่พักอย่างเต็มใจ

        หลังจากเครือข่ายข้าวคุณธรรมเริ่มแข็งแรงแล้ว คุณเช็ค ก็ได้จัดตั้งกลุ่มชาวนาอีกหลาย ๆ แห่ง เพื่อก่อให้เกิดโครงข่ายดี ๆ เหล่านี้ขึ้นอีก โดยผู้ที่จะเข้าเครือข่ายข้าวคุณธรรมนี้ได้ ต้องถามความสมัครใจก่อน อย่างแรกคุณต้องรักษาศีล 5 ให้ได้ ลดละเลิกทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นอบายมุข แต่ถ้าหากเข้ามาแล้วเกิดกลับไปสนใจอบายมุข ทางเครือข่ายก็จะใช้วิธีตักเตือน และไม่รับรองผลการผลิตว่าเป็นเกษตรอินทรีย์ เป็นข้าวคุณธรรม พร้อมทั้งให้โอกาสปรับตัวใหม่ ไม่ได้ไล่ออกแต่อย่างใด



         คุณเช็ค ยังกล่าวถึงผลตอบรับในการตั้งเครือข่ายครั้งนี้ว่า เดิมทีมีคนอยู่ในเครือข่ายนี้ประมาณ 100 คน ขายข้าวได้ประมาณ 300 กิโลกรัม แต่ตอนนี้ เดือนหนึ่งมีคนสั่งข้าวถึงประมาณ 3 ตันเลยทีเดียว และนอกจากเงินที่ได้แล้ว สิ่งที่มีค่าที่สุดนั่นก็คือ คนกินข้าวได้ข้าวที่ดี ได้รู้จักวิธีขั้นตอนการปลูกข้าว ได้พี่ได้น้อง ได้ครอบครัว ได้ศีลธรรม เป็นการเกื้อกูลกันอย่างสมบูรณ์แบบ

      "ตอนนี้ไม่มีหนี้ ไม่มีสิน อยู่แบบพอเพียง มีแต่ได้กับได้ ผลผลิตแต่ละปีก็เพิ่มขึ้น ดินก็ดีขึ้น เมื่อก่อนมีแต่เสียกับเสีย มีแต่รายจ่ายเต็มไปหมด อีกทั้งเวลาไปขายข้าว ต้องไปต่อรองกับพ่อค้าคนกลางว่า จะซื้อเท่าไร ทั้ง ๆ ที่เราเป็นคนขาย แต่ตอนนี้ไม่ต้องกังวลแล้ว" ชาวบ้านที่เข้าร่วมเครือข่ายข้าวคุณธรรม กล่าว

      หลังจากที่คุยเรื่องเครือข่ายข้าวคุณธรรมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราจะพาพวกคุณมารู้จัก อีกบทบาทหนึ่งของคุณเช็ค นั้นก็คือ บทบาทการแสดงในภาพยนตร์เรื่อง ขุนรองปลัดชู  ซึ่งขุนรองปลัดชู เป็นเรื่องจริงของคนในสังคมที่ได้ออกมาทำอะไรเพื่อประเทศชาติ ถึงแม้ชื่อของขุนรองปลัดชูจะไม่ได้เป็นที่รู้จักนัก แต่ประวัติและวีรกรรมดังกล่าวของขุนรองปลัดชู คงจะเตือนสติ และให้ข้อคิดดี ๆ กับคนจำนวนมากเลยทีเดียว

       ขุนรองปลัดชู เป็นชาวบ้านธรรมดาที่ วิเศษชัยชาญ เมืองอ่างทอง อาสาตนไปรบกับพม่า ซึ่ง ณ ตอนนั้น ทางไทยได้ห่างศึกมาเป็นนาน แต่ทางพม่ายังอยู่ในวิถีรบตลอดเวลา และในสมัยของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ นั้น เป็นยุคเมืองทอง ประชาชนกินดีอยู่ดี มีความเจริญในทุก ๆ ด้าน พอสิ้นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ก็ได้มีการแย่งชิงบังลังก์กันเกิดขึ้น อีกทั้งยังมีข้าศึกมาตี ขุนรองปลัดชู จึงรวบรวมพลทหาร 400 คน มารบ ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แล้วว่า จุดจบของชีวิตจะเป็นอย่างไร

       คุณแหม่ม สุรัสวดี เชื้อชาติ หรือ แหม่ม มาม่าบลูส์ เป็นผู้กำกับเรื่องนี้ ได้เฟ้นหานักแสดงที่มารับบทขุนรองปลัดชูมามากมาย แต่ยังไม่มีใครเหมาะสม เพราะคุณแหม่ม อยากได้คนที่มีประวัติดี เพื่อให้คนดูมีทัศนคติที่ดีกับตัวละคร และในช่วงนั้น คุณเช็ค ได้ไปถ่ายทำรายการที่ วัดสี่ร้อย จ.อ่างทองพอดี เมื่อได้ยินถึงการสร้างภาพยนตร์ดังกล่าวก็เกิดความสนใจ พร้อมติดสอยห้อยตามการเก็บข้อมูล รายละเอียดเพื่อที่จะมาถ่ายทำ โดยไม่คิดว่าตัวเองนั้นจะได้รับบทนำในเรื่องนี้

      คุณแหม่ม ยังกล่าวแบบติดตลกกับทีมงานว่า ขุนรองปลัดชู คงมีหน้าตาแบบ คุณเช็ค อายุอานามก็เท่า ๆ กัน แต่เราจะไปหาคนที่มีบุคลิก และหน้าตาอย่างนี้ได้จากไหน แต่ก็เหมือนว่าฟ้ากำหนดไว้ว่า บทขุนรองปลัดชู ต้องเป็นของคุณเช็ค เพราะจู่ ๆ วันหนึ่ง คุณแหม่ม ก็คิดได้ว่า คนที่เหมาะสมที่จะรับบทดังกล่าวที่สุดคือ คุณเช็ค นั่นเอง จึงได้รีบติดต่อคุณเช็ค พร้อมบอกว่า อยากให้คุณเช็คเป็นผู้ถ่ายทอดบทบาทนี้ ทางด้านคุณเช็ค ก็ตอบตกลง เพราะคลุกคลีกับการทำงานของทีมงานนี้มาโดยตลอด



      สำหรับการรับบทบาทในเรื่องขุนรองปลัดชูนี้ คุณเช็ค เผยว่า ไม่ใช่เรื่องง่าย มีอุปสรรคมากมาย ทั้งปัญหาทางด้านฤดูกาล งบที่จำกัด อีกทั้งตนยังต้องไปฝึกการฟันดาบ คิวบู๊หลาย ๆ อย่าง แต่ตนเชื่อว่า ใครที่ได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ จะต้องรู้สึกรักประเทศไทย ยิ่งในช่วงนี้ ตนคิดว่าภาพยนตร์ดังกล่าวคงให้แง่คิดอะไรได้หลายอย่างเลยทีเดียว 

      นอกจากนี้ คุณแหม่ม ยังได้กล่าวปิดท้ายว่า ขุนรองปลัดชู ไม่ใช่คนเดียวที่ถูกลืม แต่ตนคิดว่า ยังมีคนที่ทำดีหลายคนที่ปิดทองหลังพระ ถึงกระแสหนังเรื่องนี้จะเป็นเพียงแสงแค่วูบเดียว แต่อย่างน้อยแต่ก็เป็นวูบหนึ่งในสังคม และอย่างน้อยคงจะมีคนได้เห็นแสงวูบนี้บ้าง

      และทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวของ สุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ ชายมาดเข้มรอยยิ้มแสนจริงใจ ที่มีอะไรดี ๆ มากกว่าที่เราเคยได้เห็นผ่านหน้าจอทีวีในฐานะพิธีกร เชื่อแน่ว่าแนวคิดดี ๆ จากผู้ชายคนนี้จะช่วยจรรโลงสังคมให้น่าอยู่มากขึ้นอีกเยอะเลยล่ะ (ว่าไหมคะ)




คลิป เจาะใจ เช็ค สุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ ผู้เปิดพื้นที่ให้กับคนตัวเล็กในสังคม 1/3




คลิป เจาะใจ เช็ค สุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ ผู้เปิดพื้นที่ให้กับคนตัวเล็กในสังคม 2/3




คลิป เจาะใจ เช็ค สุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ ผู้เปิดพื้นที่ให้กับคนตัวเล็กในสังคม 3/3


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เจาะแนวคิดดี ๆ จากผู้ชายชื่อ สุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ อัปเดตล่าสุด 12 กรกฎาคม 2554 เวลา 20:38:35 44,453 อ่าน
TOP