เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก tuoitrenews.vn
เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์ถางเหนียนของเวียดนาม รายงานว่า ชายเวียดนามสุดช็อค หลังไปอยู่ญี่ปุ่นนานหลายปี กลับมาบ้านอีกทีพบศพคนตายกว่า 39 ศพ ถูกยัดใส่ถุงไว้เต็มบ้าน ตำรวจโฮจิมินห์เร่งสอบสวนที่มาที่ไปโดยเร็ว
รายงานระบุว่า ชายเวียดนามคนนี้ คือ เลเวียตถวี วัย 42 ปี ซึ่งไปอาศัยและทำมาหากินอยู่ในประเทศญี่ปุ่นหลายปี แต่ได้ซื้อบ้านไว้ที่เวียดนามบ้านเกิดใน อ. บิ่งแจ๋ง ด้วย แต่แล้วเมื่อเขากลับมาบ้านตัวเองอีกครั้ง กลับพบว่ามีศพกว่า 39 ศพถูกยัดถุงเรียงไว้เต็มบ้าน จึงรีบแจ้งตำรวจเพื่อมาตรวจสอบเกี่ยวกับซากศพดังกล่าวทันที
และเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนที่มาที่ไปของศพเหล่านี้ พบว่า เลเวียตถวี ได้ซื้อบ้านหลังนี้ไว้โดยใช้ชื่อเพื่อน ต่อมาในปี 2547 นายเดืองวันล็อก เจ้าของกิจการโลงศพได้ติดต่อไปยังเลเวียตถวี เพื่อขอเช่าบ้านหลังนี้ใช้เป็นร้านขายโลงศพ แต่หลังจากนั้นในปี 2550 เดืองวันล็อกได้โอนกิจการให้กับนางดั่งถิเดียมเซือง และดำเนินกิจการต่อนับแต่นั้นมา
จากการสืบสวนพบว่าดั่งถิเดียมเซือง เป็นผู้ครอบครองบ้านคนสุดท้าย ก่อนจะเลิกกิจการขายโลงศพไปเมื่อปี 2552 เนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดี ประสบปัญหาขาดทุน และหลังจากนั้นก็ไม่มีใครพบดั่งถิเดียมเซืองอีกเลย ดังนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสืบประวัติดั่งถิเดียมเซืองอย่างละเอียด เพื่อหาเบาะแสเกี่ยวกับศพทั้ง 39 ศพนี้ ซึ่งพบว่า ในปี 2552 ดั่งถิเดียมเซืองได้เซ็นสัญญากับทางการ อ.บิ่งแจ๋ง เพื่อขุดศพกว่า 184 ศพออกจากหลุมฝังในสุสานแห่งหนึ่ง เพื่อนำที่ดินไปใช้ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับไม่พบหลักฐานใด ๆ ว่าศพทั้ง 39 ศพถูกขุดไปจากสุสานแห่งนี้จริง ๆ
อย่างไรก็ดี ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตามหาดั่งถิเดียมเซืองมาสอบสวน เพื่อให้ทราบที่มาที่ไป ตัวตนของผู้ตาย และสาเหตุการเสียชีวิต แต่ก็ยังคงตามตัวไม่ได้ แม้จะสอบถามจากผู้ที่เกี่ยวข้อง ก็ต่างให้การเช่นเดียวกันว่า ไม่มีใครพบดั่งถิเดียมเซืองอีกเลยหลังจากปิดกิจการไปครั้งนั้น
