x close

พระบรมโอรสาธิราชทรงห่วงความรู้สึกคนไทยกรณีโบอิ้ง 737

ภาพล่าสุดของเครื่องโบอิ้ง 737-400
ภาพล่าสุดของเครื่องโบอิ้ง 737-400



 

พระบรมฯ ทรงห่วงความรู้สึกปชช. (ไทยโพสต์) 

          พระบรมโอรสาธิราชทรงห่วงความรู้สึกคนไทยกรณีโบอิ้ง 737 มีพระราชวินิจฉัยไม่ต้องวางเงินค้ำประกัน "จุลสิงห์" ให้ 8 เหตุผลสำคัญยืนยันเครื่องบินเป็นราชพาหนะ 100% เตรียมเร่งศาลเยอรมนีพิจารณาคดีให้จบใน  ส.ค. เตรียมฟ้องกลับแน่ 2 ประเด็นหลัก ยึดเครื่องมั่ว-เนื้อหาคดี

          เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อัยการสูงสุด (อสส.) ได้แถลงความคืบหน้าการถอนอายัดเครื่องบินพระราชพาหนะ โบอิ้ง 737 จากประเทศเยอรมนีว่า ข้อมูลหลักฐานที่อัยการเสนอต่อศาลเยอรมันยืนยันว่าเครื่องบินเป็นทรัพย์สินของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร ไม่ใช่ของกองทัพไทย จะมายัดเยียดว่าเป็นของกองทัพอากาศไม่ได้ และในบัญชีเครื่องบินของกองทัพอากาศก็ไม่มีเครื่องบินลำนี้อยู่ตั้งแต่เดือน ส.ค.2550 จึงมั่นใจว่าจะสามารถนำเครื่องบินกลับมาได้โดยไม่ต้องเสียเงินค่ามัดจำแม้แต่บาทเดียว 

          "เงินประกันที่ศาลเยอรมนีมีคำสั่งอายัดเครื่องบินจริงๆ ตามข้อกฎหมายแพ่งของเยอรมนีนั้น ทรัพย์ที่ถูกอายัดและไม่มีคำสั่งเพิกถอน เราสามารถใช้หนังสือค้ำประกันจากธนาคารไปค้ำประกันโดยไม่ต้องวางเงินสด 20 ล้านยูโร เสียค่าธรรมเนียมเพียง 1-2% ของวงเงิน" นายจุลสิงห์กล่าว 

          นายจุลสิงห์ แถลงต่อว่า เหตุผลที่ศาลเยอรมนีสั่งอายัดเครื่องบินไว้ชั่วคราว เพราะมีข้อมูลจากเว็บไซต์เอกชนที่ไหนไม่รู้ระบุว่ากองทัพอากาศยังมีเครื่องบินลำนี้อยู่ แต่เรามีเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของไทยที่ยืนยันข้อเท็จจริงเรื่องนี้ ดังนั้นหากพูดถึงพยานหลักฐานที่มีอยู่ ยืนยันว่าเครื่องบินเป็นของสมเด็จพระบรมฯ 100% เพียงแต่ต้องรอกระบวนการพิจารณาของศาลเยอรมนี 

          ส่วนการพิจารณาคดีนั้นอัยการร้องขอให้ศาลเร่งพิจารณาคดี โดยขั้นตอนการพิจารณาไต่สวนพยานทั้ง 2 ฝ่ายภายใน 1 วัน ซึ่งฝ่ายไทยได้เสนอบัญชีพยานไปแล้ว 3 คน มีทั้งเจ้าหน้าที่กองทัพอากาศ ซึ่งเป็นผู้รู้เห็นเหตุการณ์การถวายเครื่องบินโบอิ้ง และเจ้าหน้าที่กรมการบินพลเรือนที่รู้เรื่องการจดกรรมสิทธิ์ นอกจากนี้ยังมีหลักฐานภาพถ่ายเครื่องบินเมื่อครั้งที่ยังอยู่ในบัญชีกองทัพอากาศ พร้อมใบทะเบียนแสดงกรรมสิทธิ์ ซึ่งหลังจากนี้จะต้องรอฟังว่าศาลจะกำหนดฟังคดีเมื่อใด โดยฝ่ายอัยการได้ประสานขอให้เร่งรัดพิจารณาคดีให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ส.ค.นี้

          "จะตั้งคณะทำงานขึ้นมาดูแลโดยเฉพาะ เพราะเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญเฉพาะหน้าของสำนักงานอัยการสูงสุด โดยผมจะเป็นผู้ดูแลเอง รวมทั้งจะมีการฟ้องกลับแน่นอน 2 ประเด็น โดยเฉพาะเรื่องการยึดอายัดเครื่องบินผิดลำ และเรื่องเนื้อหาในคดี โดยได้ตั้งทีมงานขึ้นมาทำเรื่องนี้โดยเฉพาะ ตอนนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา ส่วนจะฟ้องร้องใครบ้างคงจะเปิดเผยอีกครั้ง" นายจุลสิงห์กล่าว และว่า ส่วนบริษัท วอร์เตอร์ บาว ฟ้องรัฐบาลไทยชำระเงินตามคำวินิจฉัยอนุญาโตตุลาการนั้น ยืนยันว่าคดียังไม่จบ จะมาบอกว่ารัฐบาลไทยดื้อแพ่งไม่จ่ายเงินไม่ได้ โดยเตรียมยื่นอุทธรณ์ช่วงปลายเดือนนี้ แต่ถ้าถึงที่สุดแล้วหากจะแพ้คดี เราก็ต้องยอมจ่าย เราเป็นประเทศไทยมีอยู่ในแผนที่ ไม่สามารถหนีออกไปนอกโลกได้

          อัยการสูงสุดยังกล่าวอีกว่า ได้เข้าเฝ้าฯ พระบรมฯ ตั้งแต่ช่วงแรกๆ ที่ถูกอายัด พระองค์ท่านก็ทรงห่วงความรู้สึกของคนไทย ว่าพระบรมฯ ทำผิดกฎการบินหรือเปล่า แต่วันที่พระบรมฯ มาเปลี่ยนเครื่องทรงพระแก้วมรกตที่วัดพระแก้ว วันนั้นมีฝนตก และมีประชาชนรอเฝ้ารับเสด็จจำนวนมาก พร้อมเปล่งเสียงทรงพระเจริญ แสดงความรู้สึกจงรักภักดี ทั้งนี้ พระองค์ท่านเป็นนักบิน รักการบิน เมื่อถูกอายัดเครื่องบินก็ย่อมไม่สบายใจเป็นปกติ แต่เมื่อคนไทยแสดงความรู้สึกดี ท่านก็สบายใจ เรื่องคดีเจ้าหน้าที่ก็กำลังช่วยดูแล และอยากให้คนไทยเข้าใจว่าพระองค์ท่านไม่ได้ทำอะไรผิดกฎการบิน ทรงทำถูกต้องทุกอย่าง ท่านไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรเลยกับคดีที่รัฐบาลไทยกับวอร์เตอร์ บาว มีคดีความต่อกัน โดยอัยการได้ถวายรายงานกับคดีความให้พระองค์ท่านทราบแล้ว ซึ่งพระองค์ท่านมีพระราชวินิจฉัยว่าไม่ต้องวางเงินประกัน แต่รัฐบาลไทยก็พร้อมที่เอาเงินวางเพื่อจะนำเครื่องบินออกมาเพื่อถวายให้พระองค์ท่านทรงใช้งาน แต่พระองค์ท่านไม่ประสงค์ให้นำเงินของรัฐบาลไทยไปวาง

          ในการแถลงข่าว นายจุลสิงห์ยังได้ออกแถลงการณ์ตอกย้ำว่า เครื่องบิน  Boeing 737-400 ที่ถูกอายัดนั้นเป็นเครื่องบินพระราชพาหนะส่วนพระองค์  เนื่องจาก 

          1. เครื่องหมายตราครุฑสีแดงบนพื้นที่สีน้ำเงินเข้ม เป็นตราสัญลักษณ์ที่ใช้ได้เฉพาะสมเด็จพระบรมฯ 

          2. เครื่องหมายธงชาติที่มีลักษณะเป็นรูปวงกลม  

          3. หมายเลข "90401"

          4. คำว่า "Royal Fight" ที่ปรากฏบนเครื่องบิน 

          5. ข้อมูลของเครื่องบินที่ปรากฏใน Private Website ที่จัดทำโดยนายไมเคิล ฟาเดอร์ ไม่ถูกต้อง ขาดความน่าเชื่อถือ และไม่ตรงกับข้อมูลที่ปรากฏในเว็บไซต์ของกองทัพอากาศไทย 

          6. เครื่องบินลำนี้มีข้อความว่า "ฑีปังกรรัศมีโชติ" ซึ่งเป็นพระนามของพระราชโอรสในสมเด็จพระบรมฯ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงทรัพย์สินส่วนพระองค์  

          7.เครื่องหมาย "HS-CMV" ที่ปรากฏบนตัวเครื่องบิน ยืนยันได้ว่าเครื่องบินลำนี้เป็นเครื่องบินพลเรือน โดยคำว่า HS หมายถึงเครื่องบินที่จดทะเบียนในไทยกับกรมการบินพลเรือนตามที่กำหนดไว้ใน ICAO ส่วนคำว่า CMV หมายถึงพระนามย่อของสมเด็จพระบรมฯ เป็นภาษาอังกฤษ 

          8. ใบสำคัญจดทะเบียนเครื่องบินลำนี้ว่าเป็นกรรมสิทธิ์ของสมเด็จพระบรมฯ ออกให้โดยกรมการบินพลเรือน และหนังสือรับรองการเป็นเจ้าของเครื่องบินลำนี้ลงนามโดยอธิบดีกรมการบินพลเรือน

          ขณะเดียวกัน นายวีระ เรืองสุขศรีวงศ์ อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เผยว่า  กรมอยู่ระหว่างทำหนังสือขอสัญญาและเอกสารประกอบการยื่นฟ้องอนุญาโตตุลาการจากบริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือโทลล์เวย์ เพื่อนำเอกสารดังกล่าวมาหารือร่วมกับ อสส. เพื่อสรุปข้อกฎหมายก่อนให้กรมฟ้องร้องเอกชนต่อไป โดยเชื่อว่าคำตัดสินของอนุญาโตตุลาการไม่สุจริต โดยคงต้องรอให้บริษัทตอบหนังสือกลับอย่างเป็นทางการก่อน

          "กรมต้องขอข้อมูลจากบริษัททางยกระดับดอนเมือง เพราะเป็นคู่สัญญาสัมปทานโครงการดอนเมืองโทลล์เวย์ ส่วนจะได้รับความร่วมมือหรือไม่นั้น ยังไม่ทราบ หากไม่ได้รับความร่วมมือ กรมจะใช้แนวทางอื่นเพื่อขอข้อมูลต่อไป ซึ่งต้องใช้เวลาสักระยะ แต่จะพยายามให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด ซึ่งการฟ้องร้องจะเป็นการฟ้องร้องในเงื่อนไขใหม่" นายวีระกล่าว

          โดยก่อนหน้านี้กระทรวงคมนาคมได้ออกมาระบุว่าพบข้อมูลหลักฐาน ข้อเท็จจริงที่ปรากฏใหม่ที่จะส่งผลให้กรมทางหลวงในฐานะคู่สัญญาฟ้องร้องคดีต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากกรณีที่ บริษัท วอร์เตอร์ บาว ได้ฟ้องร้องให้รัฐบาลไทยชดเชยเงิน 29 ล้านเหรียญยูโร และอาจส่งผลให้กรมทางหลวงลดสัญญาสัมปทานของโทลล์เวย์ที่มีอยู่ลง หรืออาจยกเลิกสัญญาสัมปทานได้ ซึ่งหลักฐานใหม่นั้นจะมีการเสนอให้รัฐบาลใหม่พิจารณาอีกครั้ง

 

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
พระบรมโอรสาธิราชทรงห่วงความรู้สึกคนไทยกรณีโบอิ้ง 737 อัปเดตล่าสุด 23 กรกฎาคม 2554 เวลา 08:56:56 3,809 อ่าน
TOP