




เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3
บ้านมั่นคงใน จ.พระนครศรีอยุธยา พังลงมาจมน้ำทั้งหลัง ชาวบ้านในโครงการนับสิบรายผวาขนของหนี คาดเป็นเพราะเสาเข็มรับน้ำหนักไม่ไหว-ดินทรุด
วานนี้ (21 สิงหาคม) เกิดเหตุบ้านในโครงการบ้านมั่นคงหลังหนึ่งทรุดและจมลงไปในคลองทั้งหลัง บริเวณริมคลองบางกลาง ม.5 ตำบลบ้านกุ่ม อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยจากการตรวจสอบทราบว่าเป็นบ้านของ นายประวิทย์ นาคกลั่น อายุ 32 ปี ซึ่งเจ้าของบ้าน เผยว่า ตนได้ซื้อบ้านหลังนี้ต่อจากเพื่อนบ้าน และเพิ่งตบแต่งภายในแล้วเสร็จเตรียมจะย้ายเข้ามาอยู่อาศัยในอาทิตย์หน้านี้ แต่ก็มาทรุดลงดังกล่าว คาดว่าน่าจะเกิดจากเสาเข็มด้านติดคลองทรุดตัว ทำให้ตัวบ้านพังลงไปอยู่ในคลองทั้งหลังเช่นนั้น
โดยโครงการบ้านมั่นคงดังกล่าว ได้รับการส่งเสริมจากรัฐให้ประชาชนมารวมตัวกันเป็นกลุ่มออมทรัพย์ดำเนินการจัดซื้อที่ดินและสร้างที่อยู่อาศัย โดยจะได้รับการสนับสนุนจากสถาบันการเงินให้กู้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ เพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้ให้มีที่อยู่มั่นคง ก่อสร้างมาตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2552 มีบ้านที่เป็นของสมาชิกอยู่ในโครงการทั้งหมดจำนวน 103 หลัง เพิ่งก่อสร้างบ้านทั้งหมดแล้วเสร็จได้เมื่อปลายปีที่ผ่านมา และชาวบ้านเริ่มทยอยเข้ามาอยู่อาศัยได้ไม่นานนัก ปรากฏว่าบ้านจำนวนมากมีสภาพทรุดตัว
ทั้งนี้ ผู้ประสานงานโครงการฯ เผยว่า สาเหตุที่ทำให้บ้านทรุดส่วนหนึ่งเกิดจากโครงสร้างของเสาเข็มรับน้ำหนักไม่ไหว ขณะนี้อยู่ระหว่างว่าจ้างช่างเข้ามาดำเนินการซ่อมแซมเสริมเสาเข็มรับน้ำหนัก แต่เหตุผลที่สำคัญ คือ บ้านหลังดังกล่าวอยู่ริมคลองจึงได้รับผลกระทบจากน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาไหลเอ่อมาล้นคลอง ทำให้ดินใต้ถุนบ้านชื้นไม่เกาะยึด ทำให้บ้านทรุดตัวเร็วขึ้นจนรับน้ำหนักไม่ไหว
ด้าน นายบุญเรือน เสิญไธสรง อายุ 40 ปี ซึ่งมีบ้านติดกับบ้านของนายประวิทย์ และอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ก็เริ่มไม่มั่นใจว่าบ้านตนเองจะพังครืนลงคลองแบบนั้นอีกหรือไม่ ทำให้ไม่กล้าเข้าไปอยู่ จึงขนของไปอยู่กับญาติ ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าจะไปเรียกร้องขอความช่วยเหลือจากที่ใดเกี่ยวกับเรื่องนี้
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบรอบบริเวณหมู่บ้านมั่นคง พบว่าบ้านในโครงการ 103 หลัง ทรุดตัวทั้งหมด 30 กว่าหลัง โดยเฉพาะบ้านที่อยู่ด้านริมของโครงการทรุดตัวมากและหนักที่สุด ในขณะนี้ช่างรับเหมากำลังเร่งทำการเสริมเสาเข็มและเสาตอม่อดีดยกบ้านให้ได้ระดับ แต่ก็เป็นไปด้วยความลำบาก อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าในส่วนของผู้รับเหมาก่อสร้างจะรับผิดชอบหรือไม่ เนื่องจากได้ส่งงานมาเกิน 2 ปี แล้ว แต่คาดว่าคณะกรรมหมู่บ้านมั่นคง จะเข้ามาช่วยเหลือในความเสียหายดังกล่าว แต่ยังไม่พบว่ามีหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องใดเข้าไปตรวจสอบช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัยเลย
อ่ายรายละเอียดเพิ่มเติมจาก







