บ.รถไฟสิงคโปร์ ยื่นค้านจ่ายชดเชย น้องธันย์ (ไอเอ็นเอ็น)
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก youtube.com โพสต์โดย ladyEdnaMode, รายการ เจาะข่าวเด่น
บริษัท SMRT ของสิงคโปร์ ยื่นแก้ต่างคดีที่ ครอบครัว "น้องธันย์" เหยื่อรถไฟทับขาขาดทั้ง 2 ข้าง ฟ้องเรียกค่าเสียหาย 3.4 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ อ้างเหตุเกิดโดยความประมาทของตนเอง
สำนักข่าวท้องถิ่นของประเทศสิงคโปร์ รายงานเมื่อวันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมา ระบุ บริษัทขนส่ง SMRT ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าในประเทศสิงคโปร์ ได้ยื่นคัดค้านแก้ต่างในคดีที่ครอบครัว "น้องธันย์" น.ส.ณิชชารีย์ เป็นเอกชนะศักดิ์ ซึ่งประสบอุบัติเหตุพลัดตกลงไปในรางรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีอังมอเกียว (Ang Mo Kio) จนถูกรถไฟทับขาขาดทั้ง 2 ข้าง เมื่อช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ยื่นฟ้องค่าเสียหายเป็นเงิน 3.4 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือราว 85 ล้านบาท
โดยประกอบการรถไฟฟ้าฯ ให้เหตุผลว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจากความประมาทของตัว น้องธันย์ เอง พร้อมทั้งยืนยันว่า มาตรการความปลอดภัยจากทางบริษัท บริเวณสถานีรถไฟฟ้าอยู่ในระดับดีพอ แต่ น.ส.ณิชชารีย์ ได้ละเลยในความปลอดภัยของตัวเองขณะยืนรอรถไฟ
นอกจากนี้ ทางผู้ประกอบรถไฟฟ้ายังกล่าวในเอกสารที่ใช้ยื่นคำร้องคัดค้านแก่ศาลสูงประเทศสิงคโปร์เมื่อวันพุธที่ผ่านมาด้วยว่า น.ส.ณิชชารีย์ เป็นผู้ทำให้เกิดอุบัติเหตุด้วยการกระทำของตนเอง โดยการไม่ให้ความสนใจกับสภาพแวดล้อมรอบข้าง และไม่ให้ความระวังที่เหมาะสมกับรถไฟที่กำลังเคลื่อนตัวเข้าใกล้ รวมถึงไม่มีการป้องกันตนที่เพียงพอ
[4 กันยายน] พ่อน้องธันย์ฟ้องรถไฟฟ้าสิงคโปร์ 3.4 ล้านดอลลาร์
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
พ่อน้องธันย์ฟ้อง SMRT ต้นเหตุทำลูกสาวขาขาดเป็นเงินกว่า 3.4 ล้านดอลลาร์ ด้านบริษัทคู่กรณียันสู้คดีไม่ถอยแน่นอน ชี้เด็กสาวไม่ระวังตัวเอง
จากกรณีที่ ด.ญ.ณิชชารีย์ เป็นเอกชนะศักดิ์ หรือ น้องธันย์ อายุ 14 ปี นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนจุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย จ.ตรัง ซึ่งเดินทางไปเรียนซัมเมอร์คอร์สภาษาอังกฤษ เคมบริดจ์ ที่ประเทศสิงคโปร์ เป็นเวลา 1 เดือน เมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา และประสบอุบัติเหตุการรถไฟฟ้าสิงคโปร์ หรือ SMRT ทับขาขาดทั้งสองข้าง จนทำให้ น้องธันย์ ต้องตัดขาทั้งสองข้าง ตั้งแต่หัวเข่าลงไป
ล่าสุด มีรายงานข่าวว่า พ่อของน้องธันย์ ได้ยื่นฟ้องบริษัท SMRT เป็นเงิน 3.4 ล้านดอลลาร์ หลัง SMRT ยื่นข้อเสนอให้เงินช่วยเหลือเพียง 5,000 ดอลลาร์ ซึ่ง SMRT ยืนยันว่าจะสู้คดีถึงที่สุด โดยให้เหตุผลว่าการรถไฟฟ้าสิงคโปร์มีมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับผู้โดยสารเป็นอย่างดี แต่กรณีของน้องธันย์นั้นเกิดขึ้นเพราะความประมาทเอง และไม่ได้มีความระมัดระวังจนทำให้ประสบอุบัติเหตุดังกล่าว
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก 
