กต.เขมร เผย สายลับเขมรขอยื่นอุทธรณ์ (ไอเอ็นเอ็น)
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา เผย ผู้ต้องหาสายลับชาวเขมร จารกรรมข้อมูลขอยื่นอุทธรณ์ โดย นายอึ้ง กิมไท ยืนยัน ไม่รู้จัก นายยา เปา ที่หลบหนีไปได้ หลังมีการตัดสินคดี
สำนักข่าว ดึมอัมปึล ของกัมพูชา รายงานอ้างคำพูดของ นายกอย เกือง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา ว่า นาย อึ้ง กิมไท ชาวกัมพูชา 1 ใน 3 ผู้ต้องหา ชาวเวียดนาม และชาวไทย ที่ถูกจับกุมตัว หลังจากที่ร่วมกันกระทำการจารกรรมข้อมูลที่ตั้งทางทหารของไทย ในพื้นที่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งในวันที่ 6 กันยายน 2554 ศาลจังหวัดกันทรลักษ์ ได้พิพากษาคดีให้ นายอึ้ง กิมไท รับโทษจำคุกเป็นเวลา 2 ปี 3 เดือน ในข้อหาร่วมกันกระทำการใด ๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งความลับ สำหรับความปลอดภัยของประเทศ เสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) โดย นายอึ้ง กิมไท และครอบครัวได้ตัดสินใจ ที่จะยื่นคำร้องคัดค้านคำพิพากษาศาล แต่ในขณะนี้ยังไม่ได้ดำเนินการยื่นคำร้องไปยังศาลอุทธรณ์ เนื่องจาก อยู่ระหว่างหารือประเด็นกฎหมายร่วมกับทนาย
ทั้งนี้ ทางการกัมพูชา พร้อมจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ตามช่องทางกฎหมาย ซึ่งมีทนายช่วยเตรียมเอกสารยื่นคัดค้านไปยังศาลอุทธรณ์ นอกจากนี้ โฆษกกัมพูชา ยังกล่าวยืนยันในความบริสุทธิ์ของ นายอึ้ง กิมไท ซึ่งได้ร่วมเดินทางไปกับผู้ต้องหาอีก 2 คนเท่านั้น โดย นายอึ้ง กิมไท ยืนยันว่า ไม่รู้จัก นายยา เปา ที่หลบหนีไปได้ หลังมีการตัดสินคดี
[7 กันยายน] กัมพูชาอ้าง 3 สายลับเขมร แค่ผู้ร่วมเดินทาง
กัมพูชา อ้าง หลังคำพิพากษาของศาล ระบุ สายลับเขมร เป็นเพียงผู้ร่วมเดินทางกับผู้จารกรรมตัวจริง พร้อมเตรียมช่วยเหลือ ในการยื่นอุทธรณ์
เว็บไซต์ ฟิฟทีนมูฟ รายงาน หลัง ศาลจังหวัดกันทรลักษ์ พิพากษาคดีให้ นายอึ้ง กิมไท ชายชาวกัมพูชา จำคุกเป็นเวลา 2 ปี 3 เดือน ในข้อหาร่วมกันกระทำการใด ๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งความลับสำหรับความปลอดภัยของประเทศ เสพยาเสพติดให้โทษ ประเภทที่ 1 (ยาบ้า) โดยใช้เวลาอ่านคำพิพากษา เป็นเวลา 45 นาที เมื่อช่วงสายวานนี้ ล่าสุด มีท่าทีจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกัมพูชา โดยสำนักข่าวซีอีเอ็น (6 ก.ย.) รายงานอ้างการแถลงของ นายกอย เกือย โฆษกกระทรวงต่างประเทศกัมพูชา ซึ่งระบุว่า ศาลไทยได้พิพากษาคดี นายอึ้ง กิมไท เนื่องจาก ร่วมเดินทางกับผู้จารกรรมสำคัญรายหนึ่ง ชื่อ ยา เปา ซึ่งมีแผนที่ไทยอยู่ในยานพาหนะที่ นายอึ้ง กิมไท ร่วมเดินทางมาด้วย หากแต่ นายอึ้ง กิมไท ได้ปฏิเสธแล้วปฏิเสธอีก และรัฐบาลกัมพูชา ไม่รับรู้รับทราบว่า คนชื่อ ยา เปา เป็นผู้ใด
โฆษกกระทรวงต่างประเทศกัมพูชา กล่าวชี้แจงอีกว่า ที่ผ่านมารัฐบาลกัมพูชา ได้แจ้งแล้วว่า ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องส่ง นายอึ้ง กิมไท ไปทำการจารกรรมข้อมูลในเขตไทยแต่อย่างใด
ส่วนการให้ความช่วยเหลือ นายอึ้ง กิมไท สายลับชาวกัมพูชานั้น นายกอย เกือย ระบุว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลและกงสุลใหญ่กัมพูชา จะให้ความช่วยเหลือทางกฎหมาย โดยการหาทนายช่วยยื่นอุทธรณ์ หรือ ดำเนินการอย่างอื่น ขึ้นกับตัว นายอึ้ง กิมไท และครอบครัว ซึ่งได้เข้าร่วมรับฟังการตัดสินคดีครั้งนี้ด้วย
นายอึ้ง กิมไท ชายชาวกัมพูชา อายุ 46 ปี ถูกเจ้าหน้าที่ไทยจับกุมเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน ที่ผ่านมา พร้อมพวก ซึ่งเป็นชาวไทยและชาวเวียดนาม รวม 3 คน ขณะที่ นายยา เปา ซึ่งคาดว่าเป็นตัวการใหญ่และมียศทหารนั้น หลบหนีไปได้ พร้อมแผนที่จำนวนหนึ่ง
[6 กันยายน] ศาลสั่งจำคุก 3 สายลับเขมรคนละ 2 ปีเศษ
ศาลจังหวัดกันทรลักษ์ พิพากษาจำคุก 3 สายลับเขมร เวียดนาม คนละ 2 ปีเศษ ข้อหาความผิดตามความมั่นคง ทนายความ จ่อยื่นอุทธรณ์
ที่ ศาลจังหวัดกันทรลักษ์ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นางสาวสุวนันท์ ไม้จงดี และ นายคำกอง คำพันธ์ องค์คณะผู้พิพากษาศาลจังหวัดกันทรลักษ์ ได้ขึ้นนั่งบัลลังก์ ตัดสินคดี 3 ผู้ต้องหา คดี จารกรรมข้อมูลที่ตั้งฐานทหารของไทย ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ถูกจับกุมได้ เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. เวลา 17.00 น. ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดกันทรลักษ์ ได้ขึ้นนั่งบัลลังก์พิจารณาคดีดังกล่าวนี้ และได้ตัดสินว่า จำเลย ทั้ง 3 คน มีความผิดต่างกรรมต่างวาระกัน โดยจำเลยที่ 1 นายสุชาติ มูฮำหมัด ถูกตัดสินให้ จำคุก 2 ปี รวมเป็นจำคุก 2 ปี 4 เดือน ส่วนจำเลยที่ 2 นายอึ้ง กิมไทย ศาลพิจารณาความผิดจำคุก 2 ปี 3 เดือน ส่วนจำเลยที่ 3 นายเหวียง เติ้งยัง ผู้ต้องหาชาวเวียดนาม ได้รับโทษจำคุก 2 ปี
ทางด้าน นายวีระวัฒน์ ทองสุทธิ์ ทนายความคนไทย ที่รับว่าความให้ผู้ต้องหา 3 ราย กล่าวว่า พอใจในคำพิพากษาระดับหนึ่ง และจะดำเนินการยื่นอุทธรณ์ ภายใน 30 วัน ตามกรอบของกฎหมายต่อไป
