พัลลภ ยกตนเองเหมาะนั่ง กอ.รมน.



พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี

พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี



จี้‘ปู’ตั้งประธานฯคุมกอ.รมน. (ไทยโพสต์)
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ไทยโพสต์

          พล.อ.พัลลภ ยันคุยกับทีมงานนายกฯ แล้ว จี้ตั้งเป็นประธานที่ปรึกษาฯ อ้างกฤษฎีการะบุเปิดช่องคุม กอ.รมน.ได้ ยืดอกรับอยากเป็น รมต.แต่วาสนาไม่ถึง ซัด สุเทพ ขุดเรื่อง กรือเซะ ทำลายชื่อเสียงกีดกันทำงานมั่นคง

          พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และอดีตรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (ผอ.รมน.) เปิดแถลงข่าวชี้แจงกรณีจะเข้ามาทำหน้าที่ใน กอ.รมน. แต่ถูกฝ่ายค้านโจมตีไม่เหมาะสม ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.รมน. ได้แต่งตั้งตนเป็นที่ปรึกษาฯ โดยได้แบ่งงานที่ขึ้นกับสำนักนายกรัฐมนตรีไปหมดแล้ว เหลือเพียง กอ.รมน.แห่งเดียวที่ยังไม่ได้มอบหมายให้ใคร ดังนั้นจึงมีการหารือในที่ปรึกษาฯ ด้วยกัน

          พล.อ.พัลลภระบุว่า ทุกคนทราบว่าสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกฯ ตนทำงานที่ กอ.รมน. 4 - 5 ปี ซึ่งทุกคนลงความเห็นว่าตนเหมาะสมที่จะเข้าไปดูแล กอ.รมน. ซึ่งในอดีตตำแหน่ง รอง ผอ.รมน. นายกฯ สามารถแต่งตั้งใครก็ได้ แต่ปัจจุบันคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ได้ออก พ.ร.บ.ความมั่นคงปี 2551 ได้ล็อกไว้ 3 ตำแหน่งใน กอ.รมน. คือ นายกฯ เป็น ผอ.รมน., ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) เป็น รอง ผอ.รมน., เสนาธิการทหารบก เป็น เลขาธิการ กอ.รมน.

          ทั้งนี้ ม.8 พ.ร.บ.ความมั่นคง 51 กำหนดไว้ว่า อำนาจหน้าที่ของ ผอ.รมน.จะมอบอำนาจให้ ผอ.ศูนย์ หรือหัวหน้าหน่วยงานปฏิบัติราชการแทนก็ได้ ซึ่งมีการเปิดช่องว่างไว้ แต่ใน ม.5 วรรค 8 พ.ร.บ.ความมั่นคง 51 ระบุ ผอ.รมน.อาจมอบอำนาจให้ รอง ผอ.รมน. ปฏิบัติราชการแทนก็ได้

          "แต่ตำแหน่งผมในวันนี้คือที่ปรึกษาฯ ก็เป็นไม่ได้ เขาปฏิบัติหน้าที่ใน กอ.รมน.ไม่ได้ เพราะต้องเป็นหัวหน้าหน่วยที่จะปฏิบัติแทนได้ ซึ่งเมื่อวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา ได้สอบถามไปยังกฤษฎีกา เขาได้พูดและแนบในมุมกฎหมายว่า ม.5 กับ ม.8 มีช่องว่างอยู่ แต่ที่ปรึกษาฯ ไม่ใช่หัวหน้าหน่วยงาน จึงคิดกันว่าหากต้องการให้ผมไปรับผิดชอบ กอ.รมน.ก็มีอยู่ทางเดียวต้องตั้งผมเป็นประธานที่ปรึกษานายกฯ ทำให้มีฐานะที่รองรับ แต่จะถูกหรือผิดผมไม่ทราบ แต่ว่าผมคิดว่าแบบนี้ถึงสามารถจะปฏิบัติงานได้ จึงเป็นข้อยุติ" อดีตรอง ผอ.รมน.ระบุ

          เขาบอกว่า วันนี้นายกฯ ได้ตอบว่ายังไม่ได้คุยกับ พล.อ.พัลลภเลย ซึ่งตนก็ได้บอกตั้งแต่ต้นว่าได้คุยกับทีมงานของนายกฯ ไปแล้ว แต่ทีมงานไม่ได้แจ้งต่อนายกฯ เมื่อสื่อไปสอบถามท่านจึงงงและบอกว่ายังไม่พบ พล.อ.พัลลภ อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 12 ตุลาคมนี้ ทาง กอ.รมน.จะแถลงนโยบายโดยเชิญนายกฯ ไปร่วม ซึ่งทั้งหมดคงอยู่ที่นายกฯ ถ้าอยากให้ตนทำงานตนก็พร้อม เพราะงานด้านความมั่นคงเป็นงานที่ถนัดและอยู่ที่ กอ.รมน.มานาน จึงอยากทำงานนี้

          ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้สอบถามไปยังกฤษฎีกาว่าประธานที่ปรึกษาฯ จะสามารถทำงานใน กอ.รมน.ได้หรือไม่ พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า ต้องมีการหารือกฤษฎีกาอีกรอบ แต่การหารือกับทีมงานนายกฯ เขาก็โอเคในหลักการ แต่ตนคงไม่คุยเรื่องนี้กับนายกฯ เพราะได้คุยกับทีมงานไปแล้ว ซึ่งรับทราบและคงจะคุยกับท่านเอง และหากตั้งตนเป็นประธานที่ปรึกษาฯ คงไม่มีความขัดแย้งในพรรค เพราะตนทำงานในพรรคนี้ตั้งแต่เป็นไทยรักไทย และถือว่าอาวุโสลำดับ 2 ของพรรคเพื่อไทย

          เมื่อถามถึงการที่นำเหตุการณ์กรือเซะ อ.ตากใบ จ.ปัตตานี มาโจมตี พล.อ.พัลลภกล่าวว่า เรื่องนี้ผ่านมา 7 ปีแล้ว แต่อยากบอกให้ทุกคนทราบว่าตนไม่ใช่คนใหม่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตนเป็นผู้บังคับกองพันที่ปัตตานีเกือบ 5 ปี ช่วงปี 2520-2524 ซึ่งปัญหาภาคใต้รุนแรงมาก หากถามคนที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป มีคนรู้จักผู้พันพัลลภทั้งนั้น

          อดีตรอง ผอ.รมน.ชี้แจงกรณีกรือเซะว่า
ในวันที่ 28 เมษายน 2547 ในเวลา 05.00 น. โจรก่อการร้ายรวมตัวกันไม่ต่ำกว่า 300 คน เข้าตีที่ตั้งหน่วยทหารและตำรวจรวม 10 จุด ใน  3 จชต. วันนั้นโจรตาย 107 คน จับเป็นได้ 5 คน ส่วนเจ้าหน้าที่ตาย 8 นาย บาดเจ็บสาหัส 17 นาย โดยเฉพาะที่กรือเซะ-หน่วยรบพิเศษ ตาย 3 บาดเจ็บสาหัส 8 นาย ทางด้านโจรตาย 32 คน แผนเขาเป็นแผนที่โหดร้ายมาก เขาต้องการก่อจลาจลทั่ว 3 จชต. ยึดมัสยิดกรือเซะเพื่อเป็นกองบัญชาการ เพราะเขากะเมื่อประชาชนมาอยู่บริเวณนั้นเป็นจำนวนมาก ค่ำลงเขาจะปิดล้อมเข้ามา ดังนั้นลองคิดดู หากท่านเป็นผม ผมจะยอมให้เขาฆ่าตายเฉยๆ หรือ ผมก็ต้องป้องกันตนเอง และศาลยกฟ้องตน ซึ่งทนายกับญาติผู้ตายร้อยกว่าคนทุกคนยกมือขอโทษตนทั้งหมด

          เขาบอกว่า เรื่องนี้ยุติไป 7 ปีแล้ว วันนี้คนที่ไม่ชอบตนยังเอามาทำลายเพราะไม่ให้ผมทำงาน แต่การนำเหตุการณ์กรือเซะมาโจมตีนั้น คงไม่ทำให้ตนหมดกำลังใจหรือท้อถอย เพราะตนเป็นคนที่มีความอดทนสูง รบในประเทศและต่างประเทศมาทุกสมรภูมิ ซึ่งไม่เคยมีเหรียญกล้าหาญและไม่ยึดติด การเลือกตั้งที่ผ่านมาจังหวัดที่เขามอบหน้าที่ให้ผมสบายๆ ทั้งนั้น ทั้ง จ.ลพบุรี จ.บุรีรัมย์ ที่เป็นเมืองหลวงของพรรคภูมิใจไทย ที่ประกาศไม่ยอมให้เก้าอี้ ส.ส.ตนแม้แต่คนเดียว แต่ตนก็สามารถทำได้ 2 เก้าอี้ แบบสัดส่วนมีคะแนนชนะถึง 7 เขต มียอดร่วมแสนกว่าคะแนน

          "ดังนั้นในชีวิตผมไม่เคยทำอะไรที่ไม่สำเร็จ และผมไม่เคยได้อะไรที่ตอบแทนที่ผมอยากได้ แต่ถามว่าทำงานวันนี้อยากเป็นรัฐมนตรีหรือไม่ ตอบเลยว่าผมอยากเป็น แต่วาสนาผมเป็นได้แค่ที่ปรึกษาฯ ผมก็ภูมิใจแล้วที่ได้ทำงาน หากนายกฯ ไม่ให้ผมไปทำงานที่ กอ.รมน.ก็ไม่มีปัญหา ก็เป็นที่ปรึกษาฯ อยู่แบบนี้ ถ้าเรียกก็ไป ไม่เรียกผมก็ไปตีกอล์ฟ บั้นปลายชีวิตผมอยากเห็นประเทศเรามั่นคง ประชาชนอยู่อย่างสันติสุข นี่คือปณิธานของผม" พล.อ.พัลลภ ระบุ


ขอขอบคุณข้อมูลจาก







เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
พัลลภ ยกตนเองเหมาะนั่ง กอ.รมน. อัปเดตล่าสุด 22 กันยายน 2554 เวลา 16:30:28 7,050 อ่าน
TOP
x close