เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
กระทรวงพลังงาน ยืนยันลอยตัวก๊าซแอลพีจี (LPG) ภาคขนส่ง โดยจะเริ่มวันนี้ 16 มกราคม 2555 ลั่น ไม่เอื้อประโยชน์แก่ภาคเอกชนอย่างแน่นอน พร้อมเติมสารพิเศษใส่ก๊าซครัวเรือน ป้องกันการใช้ในภาคขนส่ง
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ชี้แจงกรณีที่ น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กรุงเทพมหานคร ได้เตรียมฟ้องศาลปกครอง ถ้าหากรัฐบาลยืนยันจะลอยตัวราคาแอลพีจีภาคขนส่งในต้นปีหน้า โดยอ้างว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่ภาคเอกชนอย่างเดียว ว่า ถ้าหากจะฟ้องก็สามารถดำเนินการได้ แต่ตนก็อยากจะชี้แจงว่า สิ่งที่พลังงานดำเนินการได้ยึดประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก ซึ่งแต่เดิมกองทุนน้ำมันเชื้องเพลงมีหน้าที่หลักในการรักษาเสถียรภาพราคา แต่ถูกนำมาใช้อย่างบิดเบือนในการอุดหนุนราคาพลังงาน แล้วถ้าหากรัฐบาลไม่เปลี่ยนแปลงก็ไม่สามารถเดินหน้านโยบายพลังงานได้
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวต่อว่า ขณะนี้ทางกระทรวงกำลังมีแผนเพื่อลดภาระแก่รถสาธารณะชน โดยขณะออกบัตรเครดิตพลังงาน และเปลี่ยนเชื้อเพลิงแท็กซี่ จากแอลพีจี (LPG) เป็นเอ็นจีวี (NGV) ในช่วงก่อนปีใหม่อย่างแน่นอน โดยจะออกให้กลุ่มรถแท็กซี่ รถจักรยานยนต์รับจ้าง และรถตู้สาธารณะที่ใช้เอ็นจีวี (NGV) เป็นลำดับแรก ซึ่งผ่านคณะกรรมการคัดกรองผู้มีสิทธิรับบัตรเครดิตที่จะมีการจัดตั้งต่อไป
นายพิชัย ยังกล่าวอีกว่า ได้เตรียมมาตรการป้องกันปัญหาการถ่ายเทก๊าซแอลพีจี (LPG) จากภาคครัวเรือนไปยังภาคขนส่ง โดยทางบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้เสนอว่า ควรเติมสารบางชนิดลงไปใน แอลพีจี (LPG) ที่ใช้สำหรับภาคครัวเรือน เพื่อทำให้ไม่สามารถนำไปเติมในรถยนต์ได้ ซึ่งคาดว่า นโยบายลอยตัว แอลพีจี (LPG) ดังกล่าวน่าจะทำให้การนำเข้าแอลพีจีลดลง แต่ยังไม่สามารถระบุตัวเลขได้ เพราะขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้ของประชาชน ขณะที่ในภาคอุคสาหกรรมนั้น ถ้าพบว่ามียอดขายสูงขึ้นผิดปกติ ก็จะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบในทันทีว่า มีการลักลอบนำเข้าขาย แอลพีจี (LPG) หรือไม่
ท้ายนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวด้วยว่า ทางรัฐจะยังคงตรึงราคาก๊าซแอลพีจี (LPG) ภาคครัวเรือนไว้เท่าเดิม จนถึงปลายปี 2555 เพราะต้องบรรเทาผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมให้ประชาชนไปก่อน แต่ก็จะมีการลอยตัวราคาทั้งหมดก่อนปี 2558 เพราะได้ตกลงไว้กับ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
