เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3, ครอบครัวข่าว 3
มหันตภัยน้ำท่วมวิกฤติหนัก นาลแกจ่อถล่มอีสาน เตือนอีก 4 เดือนข้างหน้า หาดใหญ่ อาจจม ซ้ำรอย "แหลมตะลุมพุก-พายุเกย์" ขณะที่นิคมอุตสาหกรรมอยุธยา น้ำสูงเกือบ 3 เมตร คนงานหนีน้ำไม่ทันติดอยู่ในโรงงานนับร้อยคน ด้านเขื่อนภูมิพล ใกล้เต็ม จำเป็นต้องปล่อยน้ำระบาย อีก 4 วัน ไหลเข้านครสวรรค์ ส่วนทางกทม. เปิดประตูระบายน้ำ ผันน้ำไหลสู่อ่าวไทยแล้ว
นายพระนาย สุวรรณรัฐ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์สนับสนุนการอำนวยการและการบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศอส.) กล่าวว่า ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 25 จังหวัด ได้แก่ สุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม ปทุมธานี นนทบุรี อุบลราชธานี ขอนแก่น ศรีสะเกษ สุรินทร์ ฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี เชียงใหม่ ยโสธร และร้อยเอ็ด
สถานการณ์ในช่วงนี้จะมีฝนตกค่อนข้างหนักมากกระจายในทุกภูมิภาคของประเทศ โดยเฉพาะภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (จังหวัดเลย) ภาคใต้ตอนบน พร้อมเตือนให้เฝ้าระวังดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 6 จังหวัด ดังนี้ ตาก (อำเภอแม่ระมาด อำเภอแม่สอด อำเภอท่าสองยาง), สุโขทัย (อำเภอศรีสัชนาลัย), กำแพงเพชร (อำเภอขาณุวรลักษบุรี อำเภอคลองลาน), นครสวรรค์ (อำเภอแม่เปิน อำเภอแม่วงค์), ระนอง (อำเภอกระบุรี อำเภอกะเปอร์), พังงา (อำเภอกะปง อำเภอท้ายเหมือง อำเภอตะกั่วทุ่ง อำเภอตะกั่วป่า)
"สำหรับพายุโซนร้อนนาลแก คาดจะเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนในวันที่ 5 ตุลาคมนี้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประเทศไทย ทำให้บริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีฝนตกหนักในช่วงวันที่ 6-8 ตุลาคม 2554" นายพระนาย กล่าว
ขณะที่ ศ.ดร.ธนวัฒน์ จารุพงษ์สกุล ภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ในระยะเวลา 2 เดือนกว่า พื้นที่กว่า 40 จังหวัดทั่วประเทศตั้งแต่ภาคเหนือและภาคกลาง โดยเฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยากำลังเผชิญกับมหันตภัยน้ำท่วมรุนแรงที่สุดในรอบ 20 ปี สถานการณ์น้ำปี 2554 วิกฤติหนัก ภายหลังจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือตั้งแต่ต้นปีมีกำลังแรงมากกว่าปกติ อีกทั้งได้รับน้ำฝนเพิ่มเติมจากอิทธิพลพายุโซนร้อนไหหม่า พายุนกเตน และพายุนาลแก ที่กำลังจะพัดเข้าไทยวันที่ 7 ตุลาคม
"ภาคอีสานจะได้รับผลกระทบหนักที่สุด เป็นพายุลูกแรกในรอบปีที่จะเติมปริมาณน้ำมหาศาลเข้ามาในพื้นที่เต็ม ๆ ควรเร่งพร่องน้ำในอ่างเก็บน้ำในเขื่อน อยากเตือน จ.เพชรบูรณ์ พื้นที่น้ำก้อ น้ำชุน อาจจะเกิดดินถล่ม เนื่องจากปีที่แล้วฝนตกหนัก เกิดรอยแยก หากมีฝนตกรุนแรงเสี่ยงดินถล่ม ซึ่งพายุนาลแกจะหมดฤทธิ์ 9 ตุลาคม"
ศ.ดร.ธนวัฒน์ กล่าวอีกว่า ความแปรปรวนของภูมิอากาศที่เกิดขึ้นในปีนี้เกิดขึ้นเร็วและรุนแรงเหนือความคาดหมาย จากเดิมที่พบว่าปรากฏการณ์ลานีญากระหน่ำประเทศไทย ส่งผลให้เกิดปัญหาน้ำท่วม ทั้งภาคอีสาน เหนือ กลาง และที่หนักสุดคือภาคใต้ แต่จากการศึกษาเรื่องพายุที่มีจุดก่อกำเนิดในทะเลจีนใต้ กับปรากฏการณ์ลานีญาของปี 2554 พบว่ามีข้อมูลบ่งชี้ว่าสถานการณ์น้ำท่วมของภาคใต้จากนี้ไป 4 เดือน ตั้งแต่ ตุลาคม, พฤศจิกายน, ธันวาคม และ มกราคม น่าเป็นห่วงมาก
"มีแนวโน้มสูงที่ภาคใต้และ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จะเผชิญกับฝนตกหนักจากลานีญาเหมือนในปี 2518, 2531, 2543 และอาจจะมีพายุพัดถล่มเหมือนปี 2505 ที่แหลมตะลุมพุก ปี 2532 พายุเกย์เข้าที่ชุมพร และปลายปี 2553 รวมทั้งเรื่องแผ่นดินถล่มอาจจะเกิดขึ้นได้และอาจเป็นมหาอุทกภัย ปี 2554 ของภาคใต้อีกปีหนึ่ง อยากเตือนประชาชนและเทศบาลให้เตรียมพร้อมรับน้ำท่วมใหญ่ ตอนนี้สามารถดำเนินการขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงได้เลย" ศ.ดร.ธนวัฒน์ กล่าว
อยุธยา-น้ำป่าสัก ลพบุรี ถล่มนิคมอุตสาหกรรมจมในพริบตา
แม่น้ำป่าสัก และแม่น้ำลพบุรี ไหลเข้าท่วมนิคมอุตสาหกรรมใหญ่ของอยุธยา น้ำสูงเกือบ 3 เมตร ด้านคนงานหนีไม่ทัน ติดอยู่ที่โรงงาน และบ้านพักนับร้อยคน ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งระดมคนอพยพทั้งคืน
ช่วงเย็นของวานนี้ (5 ตุลาคม) ที่นิคมอุตสาหกรรมสหรัฐนคร ซึ่งเป็นนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ใน จ.อยุธยา ถูกแม่น้ำลพบุรี ไหลเข้าท่วมทางด้านทิศเหนือ และแม่น้ำป่าสักไหลทะลักท่วมทางทิศตะวันออก ทำให้คนงานต่างหนีน้ำกันอย่างชุลมุน ซึ่งบางคนหนีไม่ทันก็ต้องติดอยู่ในโรงงานและบ้านพักอีกนับร้อยคน ทางด้านเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ระดมเรือท้องแบน เรือยนต์ขนาดเล็ก ขับช่วยเหลือคนงานที่ติดอยู่ตลอดทั้งคืน
เขื่อนภูมิพลผันน้ำลงแม่น้ำปิง 100 ล้าน ลบ.ม.
อั้นไม่อยู่!!! เขื่อนภูมิพล ผันน้ำลงแม่น้ำปิงแล้ว 100 ล้านลูกบาศก์เมตร ต่อวัน คาดถึง นครสวรรค์ อีก 4 วันข้างหน้า
นายบุญอินทร์ ชื่นชวลิต ผู้อำนวยการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยเขื่อนภูมิพล อ.สามเงา จ.ตาก กล่าวว่า ขณะนี้ เขื่อนภูมิพล มีความจำเป็นต้องเปิดประตูระบายน้ำเพื่อผันน้ำ ออกจากเขื่อน เนื่องจาก ขณะนี้ปริมาณน้ำในเขื่อนเกินกว่าที่เขื่อนจะรองรับได้ ประกอบกับนำจากลำน้ำปิงที่ท่วมในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อ 3 วันก่อนไหลเข้ามาเติมน้ำเหนือเขื่อน ทำให้ขณะนี้ เขื่อนภูมิพลต้องผันน้ำออกจากเขื่อน 100 ล้านลูกบาศก์เมตร ต่อวันหรือ 500 ลูกบาศก์เมตร ต่อวินาที ซึ่งมวลน้ำที่ถูกปล่อยออกจากเขื่อนภูมิพล ที่ปล่อยสู่แม่น้ำปิง จะส่งผลกระทบในพื้นที่ต่าง ๆ
โดยในช่วง 2.00 น. มวลน้ำจะผ่านในพื้นที่ อ.สามเงา จ.ตาก เวลา 8.00 น. มวลน้ำจะผ่าน ในพื้นที่ อ.บ้านตากซึ่งตรงจุดนี้น่าเป็นห่วงเพราะ มีลำน้ำ 2 สาย คือ แม่น้ำปิงและแม่น้ำวัง มาบรรจบกัน และในช่วงเวลา 16.00 น.มวลน้ำจะไหลผ่านในพื้นที่ อ.เมือง จะส่งผลให้น้ำที่ไหลผ่านในพื้นที่ต่าง ๆ จะส่งผลให้ริมแม่น้ำปิงเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 1 เมตร และมวลน้ำดังกล่าวจะถึงนครสวรรค์ในอีก 4 วันข้างหน้า สำหรับการผันน้ำออกจากเขื่อนภูมิพลนั้นจะดำเนินการเปิดประตูระบายน้ำไปอีกกี่วัน คงต้องมีการร่วมหารือ และ ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด ส่วนประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ ที่น้ำจะไหลผ่าน ขณะนี้ ส่วนราชการในพื้นที่มีแผนเตรียมอพยพไว้แล้วหากเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมสูงขึ้น
เร่งประสาน กทม. เปิดประตูระบายน้ำ ผันน้ำออกทะเลอ่าวไทย
กรมชลประทาน เร่งประสาน กทม. ให้เปิดประตูระบายน้ำ เพื่อช่วยรับน้ำจากภาคกลาง และน้ำจากเขื่อนภูมิพลที่ปริมาณน้ำกำลังจะเต็ม เพื่อป้องกันเขื่อนแตก
ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำของกรมชลประทาน ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง กรมอุตุนิยมวิทยา การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศ กรมอุทกศาสตร์กองทัพเรือ และ กทม. ไปหารือร่วมกันเพื่อประเมินสถานการณ์น้ำ ซึ่งทางกรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งว่าพายุนาลแกจะขึ้นฝั่งเวียดนามวันพรุ่งนี้ และจะอ่อนกำลังลง เป็นเพียงพายุดีเปรสชั่นธรรมดา ทั้งนี้คาดว่า อาจมีฝนตกลงมาในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคกลางบางส่วนในช่วง 1-2 วันนี้ จึงจำเป็นต้องปล่อยน้ำเพิ่ม
ทางด้าน นายชลิต ดำรงศักดิ์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ขณะนี้เขื่อนภูมิพลมีปริมาณน้ำใกล้เต็มแล้ว ทางกรมชลฯ จึงต้องจำเป็นปล่อยน้ำเพิ่มจากเดิม จึงจำเป็นต้องเพิ่ม วันละ 80 ล้านลูกบาศก์เมตร จะเพิ่มเป็นวันละ 100 ล้านลูกบาศก์เมตร เริ่มตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (5 ก.ย.) ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำปิง ยม น่าน และระดับน้ำในจังหวัดนครสวรรค์เพิ่มขึ้น
ล่าสุด นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยว่า ขณะนี้ กทม.ได้เริ่มเปิดประตูระบายน้ำฝั่งตะวันออกบ้างแล้ว อย่างเช่น ประตูระบายน้ำที่คลอง 13 เปิดให้น้ำเข้า 30 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน
อย่างไรก็ตาม ทางกรมชลประทาน ได้ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำในแม่น้ำท่าจีน เพื่อเร่งระบายน้ำออก อีกทั้งได้ประสานกับ กทม.ว่า ช่วงใดที่ไม่มีฝนตกในกรุงเทพฯ ให้เปิดประตูระบายน้ำฝั่งริมคันกั้นน้ำด้านตะวันออก เพื่อดึงน้ำที่ท่วมอยู่ในพื้นที่ภาคกลางผ่านเข้าอุโมงค์น้ำ และคูคลองของ กทม. ออกทะเลฝั่งอ่าวไทย
ส่วนสถานการณ์ จ. สุพรรณบุรี ที่วิพากษ์วิจารณ์กันน้ำไม่ท่วมนั้น ทางอธิบดีกรมชลประทานชี้แจงว่า ขณะนี้น้ำในจังหวัดสุพรรณบุรีเต็มเกือบทุกพื้นที่แล้ว คาดว่าภายใน 1-2 วันนี้ น้ำจะทะลักไปถึงอำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
