ทอท.ยันสุวรรณภูมิ ไม่ได้สูบน้ำท่วมประชาชน (ไอเอ็นเอ็น)
ทอท. ยัน สุวรรณภูมิ ไม่ได้สูบน้ำออกท่วมชาวบ้าน เตรียมแจงผู้นำชุมชน 14 พ.ย.นี้
นายสมชัย สวัสดีผล รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ (ทอท.) กล่าวยืนยันว่า ทอท. ไม่ได้มีการสูบน้ำออกจากสนามบิน และทำให้เกิดน้ำท่วมชาวบ้าน ตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด โดยระบบแก้มลิง ในสนามบินมีศักยภาพรองรับน้ำกว่า 4 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะนี้มีน้ำอยู่แล้ว 1 ล้านลูกบาศก์เมตร รองรับได้อีก 3 ล้านลูกบาศก์เมตร
ทั้งนี้วันจันทร์ที่ 14 พ.ย. นี้ ทอท.จะชี้แจงให้กับผู้นำชุมชนรอบข้างให้เกิดความเข้าใจ ทราบข้อเท็จจริง และทางสนามบินได้ขนส่งหินเกเบี้ยน และหินคลุก เตรียมพร้อมหากสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือมีน้ำรั่วซึม จะได้ป้องกันได้ทันที
อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าระบบป้องกันน้ำท่วมของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งได้รับการออกแบบตามหลักวิศวกรรม มีคันดินสูง 3.5 เมตร ระยะทางรอบสุวรรณภูมิ 23.5 กิโลเมตร ฐานกว้าง 70 เมตร จะสามารถรับมือกับสถานการณ์อุทกภัย ในครั้งนี้ได้แน่นอน
[8 พฤศจิกายน] ไม่น่าห่วง! สนามบินสุวรรณภูมิ ยังปกติ ไม่พบน้ำซึม
สนามบินสุวรรณภูมิ ยังปกติไม่พบน้ำซึม (ไอเอ็นเอ็น)
ท่าอากาศยานสุวรรภูมิ ยังปกติ ไม่มีน้ำซึม ขณะที่สถานีสูบน้ำติดคลองบางโฉลงระดับน้ำอยู่ที่ 1.50 เมตร
วันนี้ (8 พฤศจิกายน) จากการลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์ น้ำและระบบป้องกันน้ำท่วม บริเวณท่าอากาศยานสุวรรณภูมินั้น พบว่าสถานการณ์โดยทั่วไปยังปกติ ไม่มีน้ำซึมเข้ามาในพื้นที่ของท่าอากาศยานแต่อย่างใด และสำหรับสถานการณ์น้ำล่าสุด บริเวณสถานีสูบน้ำฝั่งตะวันออก ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งอยู่ติดกับคลองบางโฉลง ระดับน้ำภายในแก้มลิงอยู่ที่ประมาณ 1.50 เมตร ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลปานกลาง ส่วนระดับน้ำในคลองบางโฉลงนั้น จากการสังเกตด้วยสายตา พบว่าอยู่ต่ำกว่าแนวตลิ่งพอสมควร ส่วนเขื่อนดินสูง 3.50 เมตร ที่ทำไว้ป้องกันน้ำท่วมบริเวณโดยรอบท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นระยะทางกว่า 23 กิโลเมตร ก็ยังคงมีความแข็งแรง โดยยังไม่พบว่ามีน้ำแทรกซึมผ่านเขื่อนดินเข้ามาแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ถือว่ามีความพร้อมอย่างมากในการรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้น โดยมีคูคลองถึง 2 ชั้นล้อมรอบรวมไปถึงมีเขื่อนดินขนาดใหญ่ สถานีสูบน้ำ 2 จุด และแก้มลิงเก็บกักน้ำอีกจำนวน 6 จุดด้วย
[4 พฤศจิกายน] สุวรรณภูมิมั่นใจแผนรับน้ำ ตุน 2 หมื่นกระสอบ
สุวรรณภูมิมั่นใจแผนรับน้ำตุน2หมื่นกระสอบ (ไอเอ็นเอ็น)
ทอท. มั่นใจแผนรับมือน้ำท่วมสุวรรณภูมิ ตุนกระสอบทรายอีก 20,000 ลูก หากฉุกเฉินเล็งย้ายไป 5 สนามบิน "อู่ตะเภา - เชียงใหม่ - เชียงราย - ขอนแก่น - อุดรฯ"
นายสมชัย สวัสดีผล รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) และรักษาการผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เปิดเผยว่า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เชื่อมั่นในศักยภาพของระบบป้องกันน้ำท่วมของสนามบิน ที่มีเขื่อนสูง 3.50 ม. ซึ่งเขื่อนดังกล่าวได้ก่อสร้างตั้งแต่ปี 2538 และแล้วเสร็จในปี 2543 ทำให้ดินมีความแข็งแรง สามารถป้องกันน้ำได้เป็นอย่างดี และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางกรมทางหลวง ได้มีการเจาะทดสอบความแข็งแรงของดินของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พบว่า มีมาตรฐาน สามารถป้องกันน้ำจากภายนอกได้ ส่วนการบริหารจัดการน้ำภายในท่าอากาศยานมีคลองระบายน้ำทั่วพื้นที่ เพื่อระบายน้ำลงสูงอ่างเก็บน้ำ ซึ่งสามารถรองรับได้ถึง 10 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งขณะนี้ มีปริมาณน้ำเพียง 1 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนทางด้านทิศใต้มีสถานีสูบน้ำ 2 สถานี
พร้อมกันนี้ ทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ยังได้เตรียมกระสอบทรายจำนวน 20,000 ถุง เพื่อใช้ในเหตุการณ์ฉุกเฉิน แต่หากเกิดเหตุการณ์เลวร้ายน้ำท่วมสนามบิน ก็จะย้ายการให้บริการไปที่ 5 สนามบิน ประกอบด้วย สนามบินอู่ตะเภา สนามบินเชียงใหม่ สนามบินเชียงราย สนามบินอุดรธานี และสนามบินขอนแก่น
[13 ตุลาคม] กรมทางหลวงเร่งเสริมคันดิน กันน้ำท่วมสุวรรณภูมิ
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3
กรมทางหลวงเร่งเสริมคันกั้นน้ำสูง 3.50 เมตร ระยะทาง 23.5 กิโลเมตร เพิ่มประสิทธิภาพป้องกันน้ำท่วมสุวรรณภูมิ
เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2554 นายวันชัย ภาคลักษณ์ อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยถึงการเตรียมการป้องกันสถานการณ์อุทกภัยในส่วนของพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิว่า ขณะนี้กรมทางหลวงได้รับนโยบายจากรัฐบาลในการเสริมความแข็งแรงของคันดินกั้นน้ำ หรือเขื่อนดิน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ รวมทั้งป้องกันและการกักเก็บน้ำในพื้นที่ ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อชุมชนรอบบริเวณท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งเดิมมีความสูงอยู่ที่ 3 เมตร ให้สูงขึ้นอีก 50 เซนติเมตร รวมเป็น 3.50 เมตร ระยะทาง 23.5 กิโลเมตร เพื่อเพิ่มความแข็งแรงในการรองรับและเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันน้ำท่วม คาดว่าจะแล้วเสร็จในที่ 16 ตุลาคมนี้
สำหรับทางทิศใต้ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรมทางหลวง โดยแขวงการทางสมุทรปราการ สำนักทางหลวง ที่ 11 (กรุงเทพ) ได้ดำเนินการเสริมแนวกระสอบทรายบริเวณเกาะกลาง และนำแผงกั้นจราจรคอนกรีต เรียงซ้ายทางพร้อมเสริมกระสอบทราย เพื่อทำเป็นแนวกั้นน้ำระยะทาง 1 กิโลเมตร โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จวันศุกร์ที่ 14 ตุลาคม นี้
นอกจากนี้ นายวันชัย กล่าวต่อไปว่า นอกจากดำเนินมาตรการป้องกันดังกล่าวแล้ว กรมทางหลวงยังดำเนินการช่วยเหลือประชาชนในการเดินทางในทุก ๆ ด้าน ทั้งนี้ เพื่อความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทางของผู้ใช้รถใช้ถนนที่จำเป็นต้องสัญจรบนถนนทางหลวงในเขตพื้นที่ประสบอุทกภัย และโปรดใช้ความระมัดระวังในการใช้เส้นทางเพิ่มขึ้นด้วย โดยให้สอบถามเส้นทางก่อนเดินทางอย่างน้อย 1 ชั่วโมง หรือทุกระยะในการเดินทางที่ สายด่วนกรมทางหลวง (ตลอด 24) ชั่วโมง โทร.1586, ตำรวจทางหลวง (ตลอด 24 ชั่วโมง) โทร.1193 และ สำนักงานประชาสัมพันธ์ กรมทางหลวง 0-2354-6530, 0-2354-6668-76 ต่อ 2014, 2031
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมนจาก
