ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต แจ้งมี 3 ทางเลือกย้ายผู้ประสบภัย ทั้งที่มวกเหล็ก ค่ายอดิสร หรือแยกย้ายกันกลับบ้าน หลังสนามราชมังคลาไม่พร้อมรองรับผู้อพยพ
วันนี้ (24 ตุลาคม) รศ.ดร.กำพล รุจิวิชชญ์ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พักพิง เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการเตรียมอพยพประชาชนในพื้นที่ หลังจากความพยายามในการต้านน้ำที่ทะลักเข้าท่วมมาตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมาไม่ได้ โดยได้มีการประสานงานไปยังกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในการขออพยพย้ายประชาชนทั้งหมดในศูนย์ กว่า 3 พันคน ไปยังสนามราชมังคลากีฬาสถาน
อย่างไรก็ตาม ภายหลังการประชุมได้ข้อสรุปว่า จะไม่ย้ายผู้อพยพไปยังสนามราชมังคลากีฬาสถาน เนื่องจาก นายกนกพรรณ จุลเกษม ผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย แจ้งว่าสนามราชมังคลากีฬาสถาน รองรับผู้อพยพได้เพียง 800 คน และอินดอร์สเตเดี้ยมก็ยังปิดซ่อม อาจไม่สะดวกต่อการใช้เป็นศูนย์พักพิง ดังนั้น จะมีการแบ่งผู้อพยพออกเป็น 3 ส่วน คือ 1. อพยพไปที่ศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ประมาณ 1,500 คน 2. ค่ายอดิสร จำนวน 2,000 คน และส่วนที่ 3 คือผู้อพยพที่สมัครใจเดินทางกลับบ้าน โดยให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจเอง
ส่วนรถที่จะมีการขนย้ายประชาชนนั้น ทาง มธ.ได้ประสานกับ ขสมก. เตรียมรถไว้แล้ว 200 คัน ในการเคลื่อนย้ายประชาชนทั้งหมด ขณะที่บุคลากรของธรรมศาสตร์ นั้นจะย้ายไปยังสถานที่ของมหาวิทยาลัย ที่พัทยา ต่อไป
สำหรับแนวทางในการกู้พื้นที่คืนนั้น ดร.กำพล กล่าวว่า จะมีการหารือกับเจ้าหน้าที่ทหาร หน่วยต่าง ๆ ที่พยายามช่วยต้านน้ำอยู่อีกครั้ง หลังจากอพยพประชาชนไปทั้งหมดแล้ว
[23 ตุลาคม] มธ. ศูนย์รังสิต วิกฤติหนัก น้ำท่วมเต็มพื้นที่แล้ว
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Thammasat University
รองอธิการบดีธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เผย น้ำท่วมเต็มพื้นที่แล้ว รับดูแลศูนย์อพยพยากขึ้น ขณะยังมีโจรชุกชุม
วันนี้ (23 ตุลาคม) นายกำพล รุจิวิชชญ์ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต กล่าวว่า ล่าสุดน้ำท่วมเต็มพื้นที่แล้ว สูง 70 เซนติเมตร รอบศูนย์พักพิงมีน้ำล้อม และปริ่มเข้ามาบางจุด ตามแนวกระสอบทราย ซึ่งเมื่อวานเสริมเพิ่ม 20 เซนติเมตร โดยเชื่อว่าน้ำจะไม่สูงขึ้นไปมากกว่านี้
พร้อมกันนี้ นายกำพล กล่าวว่า การบัญชาการศูนย์พักพิงทำได้ยากขึ้น ต้องใช้เครื่องปั่นไฟ และลำเลียงอาหารลำบากขึ้น รวมถึงการรับความช่วยเหลือที่ยากขึ้นเช่นกัน แต่ยังคงต้องการอาหารและน้ำจำนวนมาก เพราะเชื่อว่าคงต้องประสบกับภาวะเช่นนี้ ไปอีกนาน ขณะที่ต้องการเรือและเสื้อชูชีพ เพื่อใช้ตรวจการณ์ เนื่องจากเริ่มมีขโมยชุกชุม
นายกำพล กล่าวด้วยว่า ในศูนย์ขณะนี้ มีผู้พักพิงกว่า 3,500 คน และเจ้าหน้าที่กว่า 600 คน
รพ.ธรรมศาสตร์ ย้ายผู้ป่วยไป รพ.โคราช ร.พ.ธรรมศาสตร์ เคลื่อนย้ายผู้ป่วยจำนวน 26 คน ประเมินอาการก่อนส่งตัวยัง ร.พ.นครราชสีมา
ทีมแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ศูนย์รังสิต เคลื่อนย้ายผู้ป่วยที่มีอาการปานกลางและเล็กน้อย 26 คน และญาติผู้ป่วย 32 คน ออกจากเครื่องบินซี 130 ของกองทัพอากาศ เพื่อส่งต่อไปยังโรงพยาบาลนครราชสีมา
โดย น.พ.คำรณ ไชยศิริ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขต 14 เปิดเผยว่า ได้จัดบุคลากรทางการแพทย์ รถพยาบาล รถฉุกเฉิน พร้อมรับผู้ป่วยกว่า 20 คัน โดยจะนำตัวไปโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาก่อน เพื่อประเมินอาการของผู้ป่วย ก่อนจะเคลื่อนย้ายไปรักษาตัวตามโรงพยาบาลต่าง ๆ ซึ่งวันนี้จะมีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยหนักจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ศูนย์รังสิต มารักษาตัวที่นี่เพิ่มอีกกว่า 50 คน
[22 ตุลาคม] มธ. ศูนย์รังสิต สู้น้ำไม่ไหว ปล่อยท่วมสูงกว่า 1 เมตรแล้ว
สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
อดีตอธิการบดี ม.ธรรมศาสตร์ ยอมรับ สู้น้ำไม่ไหว ปล่อยให้ท่วมแล้วสูงกว่า 1 เมตร ยัน ไม่อพยพออก เชื่อว่า อีก 2 สัปดาห์จะคลี่คลาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 00.30 น. วันนี้ (22 ตุลาคม) หลังจากเขื่อนดินกั้นน้ำด้านหลังสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (เอไอที) ได้พังลง พนังกั้นน้ำด้าน สวทช. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต แตกความกว้าง 40-50 เมตร ส่งผลให้มีน้ำไหลเข้าท่วมภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต ทำให้นักศึกษาต้องขนย้ายขวดน้ำบริจาคเข้ามาไว้ภายใน เพื่อป้องกันน้ำที่อาจทะลักเข้ามา ส่วนรอยแตกของเขื่อนดินกั้นน้ำนั้น มีเจ้าหน้าที่อาสาสมัครเข้าไปเร่งซ่อมแซม มีการตัดไฟฟ้าช่วงถนนทางเข้าระดมนักศึกษา ขนกระสอบทรายมาอุดน้ำที่ซึมเข้ามาจากทางด้านรั่ว ขณะนี้ทาง มธ.รังสิต ต้องการอาสาสมัครช่วยขนกระสอบทรายอุดรอยรั่ว ด้านสวทช. และต้องการอุปกรณ์ส่องสว่าง เพราะหยุดจ่ายไฟฟ้าเพื่อความปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม ต่อมาในช่วงเช้าวันที่ 22 ตุลาคม ดร.กำพล รุจิวิชชญ์ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ได้เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นสถานที่พักพิงชั่วคราวให้กับผู้ประสบภัย หลังจากเกิดน้ำทะลักเข้าท่วมเมื่อคืนที่ผ่านมา ว่า น้ำที่ท่วมนั้นเกิดจากการทะลักมาทางท่อน้ำทิ้ง ของ สวทช. ที่รับน้ำจากการแตกของพนังกั้นน้ำที่ตึก เอไอที
โดย ดร.กำพล ยังยืนยันว่า พนังกั้นน้ำของธรรมศาสตร์ที่สูงประมาณ 4.20 เมตร นั้น ยังไม่แตก และยังสามารถต่อสู้กับน้ำได้ เพราะยังมีเจ้าหน้าที่ และทหาร พยายามทำงานอย่างหนักในการต่อสู้เพื่อรักษาพื้นที่ เพียงแต่ขาดเครื่องจักรขนาดใหญ่ และรถขนดิน รวมถึงเครื่องสูบน้ำ มาช่วย ทำให้ยังไม่สามารถควบคุมนี้ได้ และน้ำท่วมพื้นที่ไปแล้ว 1 ใน 4 มีระดับสูงประมาณเอว
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเมื่อตอนเย็นวันนี้ ศ.ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ อดีตอธิการบดี ม.ธรรมศาสตร์ กล่าวถึงสถานการณ์น้ำเอ่อเข้าท่วมที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ว่า ขณะนี้ได้หยุดกู้คันกั้นน้ำแล้ว หลังจากได้เร่งแก้ไขมาหลายชั่วโมง เนื่องจากไม่สามารถรับมือน้ำที่มีจำนวนมากได้ จึงจำเป็นต้องปล่อยให้น้ำเข้าท่วมในพื้นที่ ส่วนปริมาณน้ำที่ท่วมในพื้นที่กว่า 2,600 ไร่ บริเวณด้านบ้านพักศูนย์กีฬา ที่มีปริมาณน้ำสูง 1 เมตร ส่วนบริเวณด้านหน้าศูนย์อพยพมีน้ำสูง 20 - 30 เซนติเมตร ซึ่งหลังจากนี้อีกประมาณ 6 ชั่วโมง คาดการณ์ว่า น้ำด้านหลังก็จะสูงถึง 2 เมตร ส่วนด้านหน้าจะสูงถึง 1 เมตร และอาจจะท่วมถึงประมาณ 2 สัปดาห์ ระดับน้ำถึงจะลดลง
ส่วนศูนย์อพยพที่อยู่ภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่มีผู้อพยพแล้วกว่า 4 - 5 พันคนนั้น ศ.ดร.สุรพล กล่าวว่า ยังสามารถอาศัยอยู่ภายในศูนย์ได้ เนื่องจากพื้นที่อาคารศูนย์อพยพ น้ำยังท่วมไม่ถึง และได้สร้างคันกั้นน้ำแล้วสูงกว่า 50 เซนติเมตร ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ยังต้องการเรือ และสิ่งอำนวยความสะดวกเบื้องต้น เพื่อใช้ในการดูแลผู้อพยพที่ยังอยู่ภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต
[21 ตุลาคม] คันดิน AIT มธ.รังสิตแตก เร่งทำคันกั้นสูงขึ้น
รองอธิการบดี มธ. รังสิต เผยน้ำยังไม่เข้าโจมตีมหาวิทยาลัย แต่รับน้ำล้อมรอบสูง 4 เมตร ยังอันตราย ล่าสุด มีรายงานว่า คันดินกั้น AIT พัง น้ำจ่อประตู มธ. และอาจล้นไปยังถนนพหลโยธิน
เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (21 ตุลาคม) รศ.ดร.กำพล รุจิวิชชญ์ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ศูนย์รังสิต เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำบริเวณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ระดับน้ำด้านหลังมหาวิทยาลัย สูงประมาณ 4 เมตร ห่างจากพนังกั้นน้ำ 50 เซนติเมตร และกระแสข่าวว่า น้ำทะลักเข้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ไม่เป็นความจริง ขณะนี้ มหาวิทยาลัยยังคงควบคุมสถานการณ์ได้ เชื่อว่าถ้าผ่านพ้น 2 วันไปได้ สถานการณ์จะดีขึ้น
ทั้งนี้ การเดินทางเข้า - ออกของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ใช้ได้เส้นทางเดียว คือ ประตูด้านพหลโยธิน โดยวันนี้ นางสุกุมล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ได้เดินทางมาเยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมมอบสิ่งของให้ศูนย์พักพิง ขณะที่ ปตท. ได้ให้ความช่วยเหลือด้านพลังงาน เครื่องปั่นไฟ บ่อบำบัดน้ำเสีย และจัดตั้งโรงครัวประกอบอาหารวันละ 5,000 กล่อง ให้ผู้ประสบภัย
จากนั้น ในเวลาประมาณ 19.00 น. รศ.ดร.กำพล รุจิวิชชญ์ ได้ออกมาเปิดเผยว่า ขณะนี้คันกันน้ำด้านหลังสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (เอไอที) ได้พังลงทั้งหมดแล้ว ทำให้น้ำไหลทะลักเข้าสู่เอไอที และมีโอกาสจะท่วมลงมาถึงถนนพหลโยธิน รวมถึงฝั่งที่ติดกับประตูโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งขณะนี้ได้สั่งให้เร่งเพิ่มคันดินให้สูงในระดับ 50-60 ซ.ม.ทั้งสองจุด จากเดิมที่สูง 2 เมตร เพื่อเสริมความแข็งแรง
ทั้งนี้ รศ.ดร.กำพล ยังยืนยันว่า ทางธรรมศาสตร์ยังไม่มีแผนอพยพผู้ประสบภัยออกจากมหาวิทยาลัยแต่อย่างใด
ด้าน ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เปิดเผยว่า ทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ยังไม่มีการเคลื่อนย้าย หรือขนย้ายผู้อพยพไปไว้ที่ศูนย์อพยพแห่งอื่น เพราะทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มีการป้องกันโดยการสร้างคันดินกั้นน้ำความสูงกว่า 4 เมตร พร้อมกับเสริมความแข็งแรง ทั้งนี้หากมีปริมาณน้ำเข้ามาในพื้นที่จริง ทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีแผนสำรองไว้แล้ว โดยให้อพยพประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนขึ้นชั้น 2 ซึ่งมีความสูงกว่าชั้นล่าง 4 เมตร ซึ่งสามารถรองรับจำนวนประชาชนที่อยู่ภายในศูนย์อพยพแห่งนี้ ได้อย่างเพียงพอ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
[19 ตุลาคม] มธ. แจงสถานการณ์ปกติ ยันอาสาหญิงถูกละเมิดไม่จริง
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ศูนย์พักพิง มธ. ศูนย์รังสิต ชี้แจงสถานการณ์โดยรอบมหาวิทยาลัยยังคงปกติ ลั่นเตรียมพร้อมอพยพหากน้ำท่วมเพิ่ม ชี้ข่าวอาสาหญิงถูกละเมิดทางเพศ ไม่เป็นความจริง
ช่วงเย็นของวานนี้ (18 ตุลาคม) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ปริญญา เทวานฤมิตรกุล ผู้รับผิดชอบศูนย์พักพิงผู้ประสบอุทกภัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ออกแถลงการณ์ผ่าน เฟซบุ๊ก องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อชี้แจงถึงสถานการณ์น้ำท่วมรอบมหาวิทยาลัย และศูนย์พักพิงผู้ประสบอุทกภัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต รวมไปถึงการรับมือกับน้ำท่วมที่จะส่งผลกระทบต่อผู้พักพิง และข่าวลือที่ระบุว่า มีอาสาสมัครผู้หญิงถูกละเมิดทางเพศ ซึ่งมีข้อความดังนี้ ...
แถลงการณ์ศูนย์พักพิงผู้ประสบอุทกภัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต
วันที่ 18 ตุลาคม 2554
จากการดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 9 ตุลาคม 2554 จนถึงวันนี้เป็นวันที่ 10 แล้วนั้น ศูนย์พักพิงผู้ประสบอุทกภัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต มีเรื่องขอแถลงให้พี่น้องประชาชนได้ทราบ ดังต่อไปนี้
1. จำนวนผู้ประสบอุทกภัยที่พักที่ศูนย์พักพิงผู้ประสบอุทกภัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ในวันนี้มีทั้งหมด 3,850 คน โดยพักที่ ศูนย์ประชุมธรรมศาสตร์ (ยิมเนเซียม 1) จำนวน 3,500 คน และ เมนสเตเดียม ซึ่งผู้พักพิงเป็นผู้ใช้แรงงานชาวต่างประเทศจำนวน 350 คน ทั้งนี้เนื่องจาก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต มีโอกาสสูงที่จะถูกน้ำท่วมภายใน 2 - 3 วันนี้ ศูนย์พักพิงธรรมศาสตร์ฯ จึงไม่สามารถรับผู้ประสบอุทกภัยเพิ่มเติมได้ในขณะนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีการประสานงานล่วงหน้ามาเป็นกลุ่มใหญ่ ศูนย์พักพิงธรรมศาสตร์ฯ จะประสานงานให้ศูนย์พักพิงผู้ประสบอุทกภัยแห่งอื่นที่เปิดเพิ่มเติมและสามารถรองรับได้โดยไม่มีปัญหาความเสี่ยงที่จะถูกน้ำท่วมให้รองรับต่อไป ได้แก่ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ และ ศูนย์ ศปภ. ดอนเมือง ให้รองรับต่อไป อย่างไรก็ตามถ้ามีพี่น้องประชาชนผู้ประสบอุทกภัยเดินทางมาถึงแล้ว และอยู่ในวิสัยที่จะจัดที่พักให้ได้ ศูนย์พักพิงธรรมศาสตร์ฯ จะพยายามอย่างเต็มที่ในการจัดที่พักให้
2. สำหรับการรับมือกับน้ำท่วมที่จะกระทบต่อผู้พักพิงที่พักที่ชั้น 1 จำนวน 1,800 คนนั้น แผนของศูนย์พักพิงธรรมศาสตร์ฯ ที่ได้เตรียมไว้คือ ถ้าน้ำท่วมเข้ามาในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์สูงถึง 1.20 เมตร คือถึงแนวกระสอบทรายที่ตั้งไว้รอบอาคารศูนย์ประชุม จะอพยพผู้พักที่ชั้น 1 จำนวน 1,800 คน ไปพักรอดูสถานการณ์ที่ยิมเนเซียม 5,000 ที่นั่ง ที่อยู่อีกด้านหนึ่งของอาคารศูนย์ประชุม ถ้าน้ำท่วมชั้น 1 ก็จะอพยพผู้พักชั้น 1 ไปที่ อาคารวิทยบริการ ซึ่งอยู่ด้านหลังศูนย์ประชุมธรรมศาสตร์ ซึ่งอาคารแห่งนี้จะเป็นสถานที่รองรับบุคลากรธรรมศาสตร์ที่ประสบอุทกภัยด้วย ทั้งนี้ ได้มีการเตรียมแผนรองรับเรื่องอาหาร โดยได้ย้ายโรงครัวไปอยู่บนลานคบเพลิงเอเชี่ยนเกมส์ ที่เป็นที่สูงและอยู่หน้ามหาวิทยาลัยด้านถนนพหลโยธิน โดยบริษัท ปตท. และบริษัทเจริญโภคภัณฑ์ จะมาทำข้าวกล่องให้ 3 มื้อโดยทั้งสองบริษัทจะทำให้มื้อละ 5,000 กล่อง นอกจากนี้ยังได้รับความสนับสนุนเรื่องอาหารแห้งจากบริษัทต่าง ๆ อีกหลายบริษัท รวมถึงจะได้รับการสนับสนุนสุขาลอยน้ำจากบริษัทปูนซีเมนต์ไทย เป็นต้น
3. สำหรับข่าวลือว่า มีอาสาสมัครนักศึกษาหญิงจะถูกล่วงละเมิดทางเพศ แต่ รภป. ช่วยไว้ได้นั้น ศูนย์พักพิงธรรมศาสตร์ฯ ได้ดำเนินการสอบข้อเท็จจริงในเบื้องต้น โดยสอบถาม รปภ. รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าเวรในคืนนั้นแล้ว ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว ทั้งไม่ปรากฏตัวผู้ถูกล่วงละเมิดทางเพศ และไม่ปรากฏต้นตอของผู้ให้ข่าวแต่ประการใด อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นการป้องกันสวัสดิภาพและความปลอดภัยของอาสาสมัครและผู้พักพิง ศูนย์พักพิงธรรมศาสตร์ฯ ได้เพิ่มมาตรการเรื่องการรักษาความปลอดภัยในยามวิกาลแล้ว โดยจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบวันละ 40 นาย ในการดูแลรักษาความปลอดภัย
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล
ผู้รับผิดชอบศูนย์พักพิงผู้ประสบอุทกภัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ส่วนทางด้าน รศ.ดร.กำพล รุจิวิชชญ์ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พักพิงผู้ประสบอุทกภัย เปิดเผยว่า โรงพยาบาลศูนย์ธรรมศาสตร์ รังสิต ยังคงมีสถานการณ์ที่ปกติ ปลอดภัยจากน้ำท่วม ข่าวที่ว่า โรงพยาบาลถูกน้ำท่วมแล้วเป็นเพยงข่าวลือเท่านั้น ส่วนการบริหารจัดการป้องกั้นน้ำ ทางมหาวิทยาลัยได้มีการเตรียมพร้อมในการรับมือน้ำมากขึ้น ทั้งตั้งแนวกั้นน้ำ และประสานของเครื่องมือจากทางภาครัฐเข้ามาเสริม อาทิ รถแบคโฮลอยน้ำ กระสอบทราย และผ้าใบเพิ่มขึ้น เพื่อป้องกั้นตนเองให้ดีที่สุด
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
, เฟซบุ๊ก องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
