เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก พรรคเพื่อไทย
ปชป.อัดเละรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ไม่เร่งปล่อยน้ำก่อนพายุเข้าทำน้ำท่วมใหญ่ ด้าน ธีระ รมว.เกษตร ลุกแจง ไม่มีใครคาดเดาพายุได้ล่วงหน้า ปัดข่าวสุพรรณฯ ไม่ท่วม ยอมรับสั่งชะลอน้ำ ให้ชาวนาได้เกี่ยวข้าวก่อน
ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณา ร่าง พ.ร.บ. รายจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2555 ในวันที่ 10 พฤศจิกายนนั้น มีการอภิปรายถึงงบประมาณแก้ปัญหาน้ำท่วม 1.2 แสนล้านบาท โดยนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ได้เปิดตารางข้อมูลตัวเลขปริมาณน้ำในเขื่อนภูมิพล เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และเขื่อนสิริกิติ์ เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ.2554 ซึ่งเป็นวันที่พรรคเพื่อไทยเข้ามาบริหารประเทศแล้ว
ทั้งนี้ นายนิพิฏฐ์ ระบุว่า ในวันที่ 10 พฤษภาคม ซึ่งรัฐบาลประชาธิปัตย์ประกาศยุบสภา พบว่ามีน้ำในเขื่อนภูมิพล 46% เขื่อนสิริกิติ์ 51% เขื่อนป่าสักฯ มีน้ำ 31% กระทั่งวันที่ 3 กรกฎาคมซึ่งเป็นวันเลือกตั้ง เขื่อนภูมิพลมีน้ำเพิ่มขึ้นเป็น 58% เขื่อนสิริกิติ์ มีน้ำเพิ่มขึ้นเป็น 65% เขื่อนป่าสักฯ มีน้ำเพิ่มขึ้นเป็น 58% และวันนั้นพรรคประชาธิปัตย์แพ้การเลือกตั้ง ทำให้ศูนย์อำนาจทั้งหมดอยู่ที่พรรคเพื่อไทยแล้ว
จนต่อมาในวันที่ 8 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันโปรดเกล้าฯ นายกฯ เขื่อนภูมิพล มีน้ำ 69% เขื่อนสิริกิติ์ มีน้ำ 85% เขื่อนป่าสักฯ มีน้ำ 34% ซึ่งจะเห็นว่า เขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ มีน้ำเพิ่มขึ้นมากจึงต้องเร่งระบายตั้งแต่หลังจากวันที่ 7 สิงหาคม แม้ว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะยังไม่แถลงนโยบายฯ แต่ตามรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่า หากมีความจำเป็นเร่งด่วนก็สามารถสั่งการได้ทันที เพราะหากปล่อยเลยไปถึงเดือนกันยายน จะเจอพายุเข้ามาอีก ไม่สามารถระบายน้ำได้ทัน เท่ากับว่ารัฐบาลบริหารความเสี่ยงผิดพลาด
ด้านนายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวชี้แจงเรื่องดังกล่าวว่า การบริหารจัดการน้ำของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมา ดำเนินการตามหลักเกณฑ์และสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยการบริหารจัดการน้ำในเขื่อนนั้น เป็นไปตามหลักเกณฑ์และการรักษาระดับน้ำ ทั้งต่ำสุด และสูงสุด แต่ที่ผ่านมาประเทศไทย ได้มีมรสุมเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ตลอดระยะเวลาหลายเดือน ทำให้มีปริมาณน้ำเหนือเขื่อนเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 50 จากปีที่แล้ว และการคาดการณ์ต่าง ๆ ของกรมอุตุนิยมวิทยา ก็ทำล่วงหน้าได้เพียง 1 สัปดาห์เท่านั้น ซึ่งคงไม่มีใครสามารถคาดเดาได้มากกว่านี้
นายธีระ ยังกล่าวด้วยว่า น้ำท่วมที่เกิดขึ้น เกิดจากปริมาณจากน้ำที่มีจำนวนมาก ไหลลงมารวมกันที่จังหวัดนครสวรรค์ อย่างไรก็ตาม การระบายน้ำลงทะเล ทำได้เพียง 2 ช่องทางเท่านั้น คือ ฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออก แต่ในส่วนของฝั่งตะวันตกนั้น การระบายน้ำทำได้ช้ากว่า เนื่องจากปากแม่น้ำท่าจีนมีลักษณะแคบ จึงทำให้การผันน้ำส่วนใหญ่มาทางตะวันออกแทน และไม่ได้เป็นเพราะพยายามป้องกันไม่ให้น้ำเข้าท่วม จ.สุพรรณบุรี อย่างที่หลาย ๆ ฝ่าย กล่าวหา เพราะที่ตลาดร้อยปี บางปะม้า ก็ท่วมเช่นกัน จุดนี้อยู่ห่างจากทะเลมาก หากปล่อยน้ำเข้ามาอีก น้ำก็ยิ่งมากเข้าไปอีก อย่างไรก็ตาม ตนยอมรับว่า ได้สั่งชะลอน้ำ เพื่อให้พี่น้องชาวนาได้เกี่ยวข้องก่อนปล่อยน้ำเข้าทุ่ง
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
