เปิดแผนเร่งระบายน้ำ สู่ปลายทางสุดท้ายสมุทรสาคร

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3

สถานการณ์น้ำที่ท่วมขังอยู่ในฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยาขณะนี้ เป็นเพราะน้องน้ำยังหาทางกลับบ้านไม่ได้ แต่ถ้าน้องน้ำจะกลับบ้าน เธอจะต้องมาทางแม่น้ำท่าจีน ก่อนจะออกสู่อ่าวไทยตรงปากแม่น้ำท่าจีนที่จังหวัดสมุทรสาคร นั่นหมายความว่า จังหวัดสมุทรสาครจะเป็นจังหวัดสุดท้ายที่น้ำจะผ่านก่อนออกสู่ทะเล

แม้ว่าจังหวัดสมุทรสาครจะเป็นจังหวัดไม่ใหญ่ แต่ก็ประกอบไปด้วยผู้ประกอบการเอกชน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ภาคธุรกิจการพาณิชย์ ภาคการเกษตรชาวนา ชาวสวน มากมาย ดังนั้นชาวสมุทรสาครจึงไม่เคยนิ่งนอนใจ รอให้น้องน้ำมาหา แต่พวกเขากลับทำการเร่งน้ำให้มาหา เพื่อให้น้ำกลับบ้านให้เร็วที่สุด

อย่างไรก็ตาม อุปสรรคสำคัญในการเร่งน้ำ คือ ลักษณะทางกายภาพของแม่น้ำนั่นเอง เนื่องจากแม่น้ำท่าจีน เป็นแม่น้ำที่มีความคดเคี้ยวมากกว่าแม่น้ำเจ้าพระยา ซ้ำยังมีขนาดเล็กกว่าแม่น้ำเจ้าพระยา และด้วยความคดเคี้ยวนี้เอง ทำให้การระบายน้ำเป็นไปได้ยาก ดังนั้น ชาวสมุทรสาครจึงได้มีการประสานงานที่เป็นส่วนของภาคประชาชนอย่างแท้จริง เพื่อที่จะระดม แนวคิด หาวิธีการที่ว่า จะทำอย่างไร เมื่อให้น้ำมาแล้ว ไหลออกไปให้เร็วที่สุด จึงเกิดเป็นแผนปฏิบัติการที่ชื่อว่า "น้ำวิ่งเร็ว รถก็วิ่งได้ ในโครงการ รวมใจชาวไทยพาน้องน้ำกลับบ้าน"

สำหรับเป้าหมายสำคัญนั่นก็คือ

1.เพื่อปกป้องถนนพระราม 2 ซึ่งเป็นถนนสายหลักของการสัญจรระหว่างกทม.และภาคใต้

2.ป้องกันบรรเทาปัญหาอุทกภัยของจังหวัดสมุทรสาคร ในอำเภอกระทุ่มแบน อำเภอเมือง ซึ่งเป็นเขตอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ และอำเภอบ้านแพ้ว ซึ่งเป็นเขตเกษตรกรรม

3. ป้องกันความเสียหายแก่ผู้ประกอบการเอกชน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ภาคธุรกิจการพาณิชย์ ภาคการเกษตรชาวนา ชาวสวนและประชาชน

งานนี้ สรยุทธ สุทัศนะจินดา จึงได้เชิญผู้เชี่ยวชาญ และคณะทำงานแผนปฏิบัติการดังกล่าว เพื่อช่วยปกป้องจังหวัดสมุทรสาคร มาพูดคุยกันในรายการเจาะข่าวเด่น เมื่อเย็นวันอังคารที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

โดย นายอภิชิต ประสพรัตน์ ประธานสภาสมาคมอุตสาหกรรมสมุทรสาคร กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในขณะนี้ว่า ตอนนี้น้ำเข้าท่วมยังอำเภอกระทุ่มแบน และกำลังไหลมาทางคลองภาษีเจริญ มายังสวนหลวงและแคราย และกำลังมุ่งหน้าสู่อำเภอเมือง สมุทรสาคร ก่อนจะอธิบายถึงแผนปฏิบัติการดังกล่าว โดยการเริ่มต้นอธิบายถึงความเป็นมาว่า ได้เห็นสถานการณ์น้ำท่วมในหลาย ๆ พื้นที่ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะรอให้น้ำมาจึงจะเริ่มทำอะไรสักอย่างหนึ่ง จึงได้เกิดความคิดว่าเราควรทำอะไรสักอย่างหนึ่ง ก่อนที่น้ำจะมาต่างหาก ขณะเดียวกันก็ได้พบว่ามีกลุ่ม Thai fight flood อาสาฝ่าน้ำท่วม ที่กำลังปฎิบัติการอยู่ในพื้นที่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำท่าจีน จึงได้ทำการสอบถามข้อมูลเพื่อนำมาปรับใช้กับแม่น้ำท่าจีนฝั่งตะวันออกนี้บ้าง และประสานงานกันจนออกเป็นแผนการนี้

สำหรับเป้าหมายสำคัญของแผนการนี้คือ แม้สมุทรสาครจะน้ำท่วม แต่ก็ขอให้ท่วมให้น้อยที่สุดและไปเร็วที่สุด หรืออาจไม่ให้น้ำเข้าท่วมถึงอำเภอเมือง โดยแผนการนี้เริ่มทำมาได้ 2 อาทิตย์แล้ว และยังคงทำอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด และมีการประชาสัมพันธ์มากขึ้น แต่ยังมีปัญหาคือ ยังไม่แน่ใจว่าน้ำจะท่วมจังหวัดจริงหรือไม่ โดยในขณะนี้ น้ำอยู่ที่คลองภาษีเจริญ เราจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้น้ำไม่เอ่อล้นและไหลเข้าท่วมอำเภอเมืองซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของจังหวัด ดังนั้น ต้องป้องกันคลองภาษีเจริญ ถ้าเราทำได้ ก็จะทำให้พุทธมณฑลสาย 4 สาย 5 และถนนเพชรเกษมแห้งได้ ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดคือ ต้องระบายน้ำจากคลองภาษีเจริญให้ได้มากที่สุด

ขณะที่นายสุรศักดิ์ คลังสุภาวิวัฒน์ วิศวกรเรื่องน้ำ ได้อธิบายว่า สถานีประตูระบายน้ำกระทุ่มแบนระบายน้ำจากคลองภาษีเจริญทำหน้าที่สูบน้ำออกจากคลองภาษีเจริญที่รับน้ำมาจากที่คลองมหาสวัสดิ์ และคลองทวีวัฒนา ที่มารวมกันที่คลองภาษีเจริญ โดยขณะนี้ทางวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยหรือ วสท.ก็มาช่วยวางแผนว่าจะให้น้ำวิ่งเร็วอย่างไร โดยเข้ามาช่วยประสานงานการระบายน้ำระหว่างทางกทม.และกรมชลประทาน และช่วยคิดค้นกลไกในการระบายน้ำเพื่อเพิ่มความเร็ว

แผนปฏิบัติดังกล่าวก็มีอยู่หลายแผนด้วยกัน คือ

1. แผนเร่งน้ำกู้ถนน เนื่องจากคลองทางเหนือและใต้ มีน้อยมากในการที่จะส่งน้ำมายังโครงการแก้มลิงที่สนามชัย มหาชัย สมุทรสาคร เพราะฉะนั้นการนำน้ำออกสู่ทะเลมีอยู่สามด้าน คือ การนำน้ำออกสู่ทะเล

2. การนำน้ำออกสู่โครงการแก้มลิงซึ่งก็เป็นทะเลเหมือนกัน ดังนั้นต้องเร่งระบายน้ำชุดนี้เป็นคลองแนวตรงลงมาถึงแก้มลิงให้ได้ แต่จุดสกัดจะมีอยู่ที่ถนนพระราม 2 ว่าน้ำจะข้ามมาได้หรือไม่ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อเร่งระบายน้ำ ให้สามารถเปิดเส้นทางจราจรได้ กรณีหากเปิดเส้นพระราม 2 ได้ก็จะมีการสำรองอีกเส้นทางหนึ่งกรณีถนนพระราม 2 รับรถไม่ไหว คือ ใช้ถนนบรมราชชนนีเลี้ยวซ้ายออกถนนพุทธมณฑลสาย 4 และเลี้ยวขวา ออกไปทางอ้อมน้อย และอ้อมใหญ่ ข้ามแม่น้ำท่าจีนที่เพชรเกษม

ต่อมาเป็นแผนการที่ 2 คือ ทำ flood way เพื่อเอาน้ำออกจากพุทธมณฑลสาย 4 ให้เร็วที่สุด โดยจะทำถนนน้ำหลากข้ามมาลงตรงที่คลองภาษีเจริญ เพราะกว่าทวีวัฒนาจะดึงน้ำลงมา เราต้องทำการตัดช่วงระยะทางภาษีเจริญ และเมื่อทางกทม.ทำการเสริมคันเพื่อเบี่ยงน้ำ น้ำในกทม.ก็จะลดลงทันที โดยจะช่วยสองฝั่ง และวิธีที่จะทำคือ เราจะใช้วิธีการขับรถดันน้ำเป็นหน้ากระดานตรงพุทธสาคร (แยกพุทธมณฑลสาย 4 ตัดใหม่) มาเรื่อย ๆ เพื่อให้เป็น flood way โดยจะมีการทำ barrier โดยใช้ผ้าใบและเสาไฟฟ้าและใส่ยางไว้ด้านหน้ารถทำการเร่งเครื่องดันน้ำมาเลย

ส่วนแผนที่สาม คือ จะมีการแบ่งช่วงกับกทม.ในการระบายน้ำ โดยต้องมีการประชาสัมพันธ์ว่าทำไมถึงต้องทำเช่นนี้ ก็เพื่อเร่งกู้ถนนให้สัญจรได้ แต่ก็ต้องมีการตกลงให้ดีว่า เมื่อถนนแห้งแล้ว น้ำส่วนนั้นอย่าเพิ่งเอาออกมา เพราะจะทำการผันลงสู่ตามท่อระบายน้ำเพื่อลงไปตามเส้นทาง

แผนการสุดท้ายคือ ลดความเสี่ยงถนนพระราม 2 ในกรณีเลวร้ายหากถนนพระราม 2 หลากท่วม เราจะใช้วิธีการวางท่อตรงเกาะกลางถนนพระราม 2 ที่จะสามารถรับน้ำได้ส่วนหนึ่ง เน้นว่า วางบนถนนไม่ได้เจาะถนน และเร่งสูบน้ำผ่านท่อที่วางนี้ไปให้ได้ และการที่จะทำแผนการที่ว่านี้สำเร็จได้ ต้องการกำลัง 4 ด้านคือ 1. กำลังเครื่อง คือ เครื่องสูบน้ำซึ่งได้รับการสนันสนุนจากบริษัทปูนซีเมนต์ไทยแล้ว 2. กำลังคน 3.กำลังทรัพย์ 4.กำลังใจ

ส่วนทางอำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร ก็จะมีความพยายามผลักดันน้ำจากทางด้านบน ที่กำลังท่วมขังจังหวัดนครปฐมอยู่ในตอนนี้ ให้ออกสู่คลองสุนัขหอน ซึ่งได้ทำการขุดคลองเพื่อให้เป็นทางน้ำไหลลงทะเล โดยจะมีการเอาเรือผลักดันตามช่วงสะพานทุกจุด ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้น้ำที่อยู่ด้านบนไหลลงทะเลให้หมด และที่สำคัญ คือ ต้องมีความร่วมมือร่วมใจกันทุกภาคส่วน และที่สำคัญไม่ใช่แค่ป้องกันน้ำ แต่ต้องทำการรับมือน้ำ และผลักดันน้ำให้ผ่านลงมาให้เร็วที่สุด ไม่ใช่แค่นั่งรอให้น้ำมา

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก