จัดการ profile
kapook market
Sign Out
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก huffingtonpost.com , ข่าวสด , thefrisky.com , look.co.uk , socialitelife.com และ youtube.com
ในปี 2011 ที่กำลังจะผ่านพ้นไปนี้ นอกจากจะมีเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่น่าประทับใจ น่าจดจำแล้ว ก็ยังมีเรื่องราวฉาวโฉ่ของเหล่าคนดัง ที่คงทำให้ใครหลาย ๆ คนถึงกับอึ้ง! ช็อก! และยังคงจำได้อย่างแม่นยำ ดังนั้น วันนี้นิตยสารไทม์สจึงได้รวบรวม Top 10 เรื่องอื้อฉาวของเหล่าคนดังแห่งปี 2011 มาฝากเพื่อน ๆ ลองไปดูกันเลยค่ะ…
1. โค้ชวัยดึกกับการล่วงละเมิดทางเพศเด็กหนุ่มมานานกว่า 15 ปีกลายเป็นประเด็นอันโด่งดังไปทั่วสหรัฐฯ เมื่อ เจอร์รี่ แซนดัสกี้ (Jerry Sandusky) วัย 67 ปี อดีตโค้ชอเมริกันฟุตบอลชื่อดังของทีมมหาวิทยาลัยเพนน์ สเตท (Penn State University) ถูกจับกุมด้วยข้อหาล่วงละเมิดทางเพศกับเด็กหนุ่มมานานถึง 15 ปีเต็ม จนกระทั่ง ฝ่ายเหยื่อทนถูกกระทำไม่ไหว ต้องออกมาแฉเบื้องหลังพฤติกรรมแย่ ๆ ให้สังคมได้รับรู้
งานนี้ ก็ทำเอาบรรดานักเรียน และผู้ปกครองงงเป็นไก่ตาแตกเลยทีเดียว เพราะไม่คิดว่า โค้ชที่หลาย ๆ คนนับหน้าถือตา เนื่องจากเขาได้สร้างชื่อให้กับทีมด้วยการพาทีมคว้าชัยมามากมาย จนเป็นทีมในอันดับต้น ๆ ของการแข่งขันอเมริกันฟุตบอลในระดับมหาวิทยาลัย กลับมีข่าวฉาวทำลายชื่อเสียงของเขาจนย่อยยับไม่เหลือชิ้นดีเช่นนี้
แม้ว่าในตอนแรกนั้น นายแซนดัสกี้ จะให้การปฏิเสธมาโดยตลอด แต่ทว่า หลังจากที่มีการสืบสาวราวเรื่องและรวบรวมหลักฐานต่าง ๆ ก็ทำให้เขาดิ้นไม่หลุดและถูกส่งตัวเขาด้วยความผิดกว่า 40 กระทง พร้อมกับโดนปรับเงินไปอีก 100,000 ดอลล่าร์สหรัฐฯ (ประมาณ 3,000,000 บาท) อีกด้วย
2. นิวส์ ออฟ เดอะ เวิร์ลด์ แฮ็คมือถือคนตายแท็บลอยด์แถวหน้าของอังกฤษ " นิวส์ ออฟ เดอะ เวิร์ลด์" ถูกตั้งข้อหาลักลอบแฮ็คข้อมูลข้อความเสียงในโทรศัพท์มือถือ ทั้งนี้ สำหรับนิวส์ออฟเดอะเวิร์ลด์ ถูกครหาเรื่องการดักฟังโทรศัพท์มาตลอด โดยเป้าหมายส่วนใหญ่มักเป็นคนดังและนักการเมือง รวมถึงเจ้าหญิงแคทเธอรีนที่ทรงถูกแฮ็คข้อมูลในโทรศัพท์มือถือและบัญชีธนาคาร ในช่วงที่ยังไม่ได้เข้าพิธีเสกสมรสกับเจ้าชายวิลเลียมอีกด้วย แต่ข่าวที่ทำให้กระแสรังเกียจพฤติกรรมของสื่อจอมขุดคุ้ยสำนักนี้ระอุขึ้นมา คือ ข่าวการแฮ็คโทรศัพท์ของ มิลลี ดาวเลอร์
โดย มิลลี ดาวเลอร์ เด็กสาววัย 13 ปี ถูกลักพาตัวระหว่างทางกลับบ้านหลังเลิกเรียน เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2002 คนอังกฤษทั้งประเทศตื่นตัวช่วยกันตามหาเธอ อย่างไรก็ตาม มีคนพบร่างของเธอถูกฝังอยู่ในป่าเมื่อวันที่ 18 กันยายน ปีเดียวกันนั้นเอง ซึ่งศาลเพิ่งพิพากษาลงโทษจำคุก เลวี เบลล์ฟีลด์ ยามเฝ้าไนต์คลับแห่งหนึ่ง ตลอดชีวิตฐานฆาตกรรมเด็กสาวรายนี้
ทั้งนี้ นักสืบเอกชนและนักข่าวของนิวส์ ออฟ เดอะ เวิลด์ ได้ดักฟังข้อความเสียงที่พ่อแม่และเพื่อน ๆ ส่งถึงมิลลี ดาวเลอร์ ในช่วงที่ยังไม่มีใครรู้ชะตากรรมของเธอ ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อกล่องบันทึกข้อความเต็ม นักข่าวกลุ่มนี้แฮกเข้าไปลบข้อความเสียงเก่าทิ้ง เพื่อให้ข้อความใหม่ฝากเข้ามาได้ ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการขัดขวางการสืบสวนของตำรวจ อีกทั้งยังทำให้คนที่เป็นห่วง มิลลี ดาวเลอร์ เข้าใจผิดว่า เธอยังมีชีวิตอยู่
3. ผอ. IMF ร้อนรัก กับคดีสุดอื้อฉาว ข่มขืนแม่บ้านโรงแรมโซฟิเทลคดีนี้ตกเป็นที่สนใจจากผู้คนทั่วโลก หลังจากที่นางนาฟิสซาโต ดิอัลโล แม่บ้านวัย 32 ปี แม่บ้านโรงแรม ได้ออกมากล่าวหาว่า สเตราส์-คาห์น หรือที่รู้จักกันในชื่อ ดีเอสเค ผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟวัย 62 ปี บังคับให้เธอทำออรัลเซ็กส์ระหว่างเธอเข้าไปทำความสะอาดห้องพักของเขาภายในโรงแรมโซฟิเทล มหานครนิวยอร์ก เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เขาจึงถูกตั้งข้อหาล่วงละเมิดทางเพศ, พยายามข่มขืน และกักขังหน่วงเหนี่ยว
ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความตกตะลึงให้กับคนทั่วโลกไม่น้อย เนื่องจาก สเตราส์-คาห์น ดำรงบทบาทสำคัญในฐานะหัวเรือของไอเอ็มเอฟในการฝ่าฟันวิกฤตยุคเศรษฐกิจตกต่ำและวิกฤตหนี้สาธารณะยุโรปในช่วงปี 2007-2009 แต่กลับมีคดีอื้อฉาวออกมาแฉอย่างต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้เขา เคยมีประวัตินอกใจภรรยาด้วยการไปมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับนักเศรษฐศาสตร์หญิงชาวฮังการีอีกด้วย ซึ่งก็สร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้กับเขาไม่น้อย ถึงขนาดทำลายความหวังในการเป็นตัวเต็งช่วงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสเลยทีเดียว
แต่คดีนี้กลับตาลปัตรซะอย่างนั้น และสเตราส์-คาห์น กลายเป็นผู้พ้นผิดไปโดยปริยาย เมื่ออัยการระบุว่า ดิอัลโลให้ข้อมูลเท็จในแบบฟอร์มยื่นข้อลี้ภัย นอกจากนี้ยังพบเทปบันทึกเสียงแม่บ้านโซฟิเทลรายนี้ขณะโทรศัพท์คุยกับนักโทษคดีครอบครองกัญชารายหนี่ง และถกกันถึงผลประโยชน์ที่เธอจะได้รับจากคดีของสเตราส์-คาห์น
4. อาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์ ลอบคบชู้ มีลูกกับสาวใช้ในบ้านคงไม่มีใครไม่รู้จัก อาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์ พระเอกฮอลลีวูดชื่อดังอย่างแน่นอน เนื่องจากภาพยนตร์ คนเหล็ก ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกและยังมีตำแหน่งเป็นถึงอดีตผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐ แต่เพียง 4 เดือนหลังจากที่พ้นตำแหน่ง เขากลับกลายเป็นดาราผู้ฉาวโฉ่ไปเสียอย่างนั้น หลังจากที่ออกมาประกาศว่า ได้หย่าขาดจาก มาเรีย ชไรเวอร์ ภรรยาแล้ว หลังแต่งงานอยู่กินกันมาร่วม 25 ปี เป็นเพราะ อดีตผู้ว่าฯ คนดัง เปิดปากบอกความจริงกับ ชไรเวอร์ ว่า เขามีลูกกับหญิงรับใช้ในบ้าน มาเป็นเวลาถึง 10 ปีแล้ว!!! งานนี้ก็ทำเอา ภรรยาถึงกับอึ้ง! รับไม่ได้ และขอหย่าขาดจากพระเอกชื่อดังทันที
สำหรับสาวใช้ดังกล่าว คือ มิลเดรด เบนา ภรรยาลับ ๆ ของอาโนลด์ ซึ่งทำงานอยู่ในบ้านของครอบครัวนี้ มานานร่วม 20 ปี และลักลอบมีความสัมพันธ์แบบไม่ได้ป้องกันในช่วงบ่ายวันหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้อาโนลด์ก็เคยมีประเด็นข่าวฉาวมาก่อนว่า เขาก็เคยถูกลอสแองเจลีสไทม์แฉว่า เคยลวนลามผู้หญิงหลายคนก่อนจะเป็นพระเอกดัง ในปี 1977
5. แอนโทนี วีเนอร์ ส.ส. เดโมแครต กับภาพฉาวโชว์เป้าตุงสุดสยิวขุดหลุมฝังตัวเองซะอย่างน้านนน...สำหรับ แอนโทนี วีเนอร์ ส.ส. เดโมแครต หลังจากที่มีภาพหลุดสุดสยิว ที่บรรดาคู่ขาของ ส.ส. วีเนอร์ นำมาแฉ จนทำเอา ส.ส. ผู้ฉาวโฉ่ต้องลาออกจากตำแหน่งทันที
ทั้งนี้ สำหรับภาพหลุดดังกล่าว วีเนอร์ได้ใช้กล้องโทรศัพท์มือถือถ่ายตนเองในท่วงท่าเร้าอารมณ์ทางเพศ รวมถึงรูปซึ่งเขาใช้ผ้าขนหนูกุม “น้องชาย” เอาไว้ พร้อมทั้งทวีตภาพลามกเหล่านี้ถึงเพื่อนสาวในโลกไซเบอร์ทั้ง 6 คนที่เขาติดพันอยู่ด้วย
แม้ว่าตอนแรกเขาจะปฏิเสธเสียงแข็งเรื่องภาพอนาจารของตนเอง และอ้างว่าคอมพิวเตอร์ถูกแฮ็ค แต่ในที่สุด วีเนอร์ ก็ออกมาแถลงข่าวรับสารภาพผิดด้วยน้ำตานองหน้า และประกาศไม่ลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากไม่เคยพบหน้าหญิงเหล่านี้ และไม่เคยมีสัมพันธ์ทางกายกับพวกเธอ แต่สุดท้าย เขาก็ไม่สามารถทนต่อกระแสต่อต้านจากสังคม และคนในพรรคได้จนต้องลาออกในที่สุด
6. ชาร์ลี ชีน กับพฤติกรรมเมาสุรา-มั่วนารี จนถูกปลดออกจากซิทคอมชื่อดังทำเอาช็อกไปตาม ๆ กัน หลังจากที่วอร์เนอร์บราเธอร์ส แถลงข่าวไล่ ชาร์ลี ชีน นักแสดงนำผู้โด่งดังออกจากซิทคอมเรื่อง Two and a Half Men เนื่องจากไม่สามารถทนต่อพฤติกรรมฉาวไม่หยุดหย่อนของเขา ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมเสเพล ติดเหล้าอย่างหนัก เสพยา มั่วกับเพื่อนสาวและดาวโป๊อีกมากมาย
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น นักแสดงเจ้าปัญหากลับไม่ยอมจบเรื่องง่าย ๆ พร้อมทั้งออกมายืนยันว่า เขาจะฟ้องกลับวอร์เนอร์บราเธอร์ส เนื่องจากถูกไล่ออกจากโชว์ ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ละเมิดต่อสัญญาข้อใด ๆ ทั้งสิ้น
ก็แหม...จะไม่ให้เขาโวยได้ยังไงกันล่ะ ก็ซิทคอมเรื่องนี้ ทำรายได้ให้กับเขา 1.8 - 2 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา ต่อตอนเลยทีเดียว จนทำให้เขากลายเป็นนักแสดงที่มีค่าตัวสูงที่สุดในวงการโทรทัศน์ยุคปัจจุบันเลยล่ะ
7. ปากพาซวย จอห์น กัลลิอาโน่ เมากร่าง เหยียดเชื้อชาติยิวเป็นที่ฮือฮาไปทั่ว หลังจากที่ห้องเสื้อชื่อดัง คริสเตียน ดิออร์ สั่งปลด จอห์น กัลลิอาโน หัวหน้าทีมดีไซเนอร์ อย่างเป็นทางการแล้ว หลังจากที่มีการเผยแพร่ภาพคลิปวิดีโอที่เขาเมาและด่าเหยียดเชื้อชาติยิว
ในวันเกิดเหตุ ดีไซเนอร์รุ่นใหญ่รายนี้ ได้กล่าวถึงเชื้อชาติอย่างรุนแรงและใช้ถ้อยคำที่หยาบคายในขณะอยู่ที่บาร์แห่งหนึ่งย่านมาเรส์ ในกรุงปารีส ว่า เขารักฮิตเลอร์ และก่นด่าไล่คู่กรณีให้ไปตายเสีย ก่อนที่เขาจะลามปามถึงบรรพบุรุษชาวยิวว่าควรจะไปโดนรมก๊าซให้หมดทุกคน
ทั้งนี้ กัลลิอาโน ขึ้นให้การต่อศาลว่า ตนเองไม่สามารถจำเหตุการณ์ที่กล่าวถ้อยคำสบถและใช้คำพูดใส่ร้ายป้ายสีในเรื่องเชื้อชาติต่อชายหญิงคู่หนึ่งที่ร้านอาหารในกรุงปารีส เนื่องจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ยากดประสาท และยานอนหลับที่เขารับประทานไปก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ด้านผู้พิพากษาไม่ได้ระบุว่ากัลลิอาโนจะถูกตัดสินจำคุกเมื่อใด แต่สั่งปรับเงินเขาเป็นจำนวนไม่ต่ำกว่า 10,000 ยูโรแล้ว
8. บียอนเซ่เสริมท้องปลอม สร้างกระแสมีลูกให้ดังกระหึ่มหลังจากที่ บียอนเซ่ นักร้องสาววัย 30 ปี กลายเป็นไฮไลท์ในงานหลังจากที่ประกาศข่าวดีการตั้งท้องกลางงานแจกรางวัล MTV Video Music Awards 2011 ไปได้ไม่นาน ก็ต้องถูกวิจารณ์ซะเละเลยทีเดียว เนื่องจากล่าสุด มีข้อกล่าวหาว่าศิลปินหญิงระดับโลกรายนี้ ถึงกับพยายามทำให้เรื่องการประกาศตั้งครรภ์ของตัวเองน่าตื่นเต้นน่าสนใจขึ้นมาอีก ด้วยการเสริมหน้าท้องปลอม ให้ภาพการตั้งท้องครั้งนี้ดูชัดเจนกว่าที่เป็นอยู่!!
เว็บไซต์ MediaTakeOut ได้อ้างแหล่งข่าวเป็นคนวงในที่ยืนยันถึงเบื้องหลังของงาน MTV VMAs ที่ผ่านมาว่าความจริงแล้ว บียอนเซ่ เพิ่งจะอุ้มท้องลูกมาได้ไม่ถึง 8 สัปดาห์เท่านั้น แต่จากขนาดของหน้าท้องของเธอกลับใหญ่เหมือนกับช่วงระยะที่ 2 ของการตั้งครรภ์ (15 – 20 สัปดาห์)
ดังนั้น จึงมีการคาดการณ์กันว่าเหตุที่เธอต้องทำเช่นนั้น ก็เพื่อว่าภาพข่าวการประกาศเรื่องตั้งครรภ์จะได้ออกมาสมบูรณ์แบบที่สุดนั่นเอง
9. คิม คาร์เดเชียน จบชีวิตรักสุดหวานชื่นแบบสายฟ้าแล่บอย่างนี้ที่เขาเรียกว่า แต่งงานอยู่ด้วยกันหม้อข้าวไม่ทันดำ ก็เลิกกันซะแล้ว สำหรับสาวไฮโซคนดัง คิม คาร์เดเชียน ที่ได้ตัดสินใจฟ้องหย่ายุติความสัมพันธ์กับ คริส ฮัมฟรีส์ สามีนักกีฬาบาสเกตบอล หลังใช้ชีวิตแต่งงานด้วยกันเพียง 72 วันเท่านั้น!!!
ทั้งนี้ สาวคิม คาร์เดเชียน ไม่ได้ให้เหตุผลอื่นใดนอกจากประโยคยอดฮิตที่ว่าชีวิตของเธอและสามี คริส ฮัมฟรีส์ มีความแตกต่างกันแบบที่ไม่สามารถปรับเข้าหากันได้ แต่ทั้งสองจะยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน
อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุผลในการเลิกกันครั้งนี้ สื่อบันเทิงก็คาดเดากันไปต่าง ๆ นานา ๆ ว่าอาจจะเป็นเพราะความรู้สึกหึงหวงของฝ่ายหญิง ที่เห็นสามีไปก้อร่อก้อติกกับสาวที่หุ่นดีกว่าเธอ หรือไม่ก็เกิดขึ้นจากปัญหาความตึงเครียดที่ ฮัมฟรีส์ กำลังอยู่ในช่วงตกงานไม่มีทีมสังกัด แต่แทนที่จะดิ้นรนอะไร เขากลับใช้เงินของฝ่ายหญิงอย่างสนุกมือนั่นเอง
10. วิลเลียม อดัม ผู้พิพากษาโหดเฆี่ยนลูกสาวพิการ ฐานโหลดบิตและสำหรับบุคคลผู้อื้อฉาวคนสุดท้ายนี้ คือ วิลเลียม อดัม ผู้พิพากษาจอมโหด ในรัฐเท็กซัส ใช้เข็มขัดเฆี่ยนลงโทษลูกสาวตัวเองที่พิการทางสมองหลายครั้งฐานดาวน์โหลดเกมส์และเพลงผิดกฎหมายผ่านอินเทอร์เน็ต
เรื่องราวดังกล่าวถูกเปิดเผยขึ้น หลังจากที่ลูกสาวได้แอบตั้งกล้องถ่ายเก็บเอาไว้ถึง 7 ปี ล่าสุดเธอจึงตัดสินใจปล่อยคลิปดังกล่าวกระจายไปทั่วเน็ต โดยเหตุการณ์ในคลิปเกิดขึ้นเมื่อปี 2004 วิลเลียม อดัมส์ ผู้พิพากษาประจำเขตปกครองอรันซัส ในรัฐเท็กซัส ได้ทำการลงโทษ ฮิลลารี อดัมส์ ลูกสาวแท้ ๆ ของตัวเอง โดยใช้เข็มขัดเฆี่ยนตีหลังจับได้ว่าเธอแอบดาวน์โหลดเพลงและเกมส์อย่างผิดกฏหมายผ่านทางอินเทอร์เน็ตก่อนที่ตัวซอฟต์แวร์จริงจะออกวางจำหน่าย และถูกพ่อห้ามอยู่บ่อยครั้ง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ผู้พิพากษาอดัมก็ถูกกดดันจากหลายฝ่าย ทั้งถูกอัยการสอบสวน และกรมตำรวจอีกด้วยเช่นกัน
เชื่อว่า Top 10 เรื่องอื้อฉาวของเหล่าคนดังแห่งปี 2011 คงทำให้เพื่อน ๆ อึ้งกันไม่น้อยเลยใช่ไหมล่ะคะ เอาล่ะค่ะ...เพื่อน ๆ ก็คงต้องรอดูกันต่อไปล่ะค่ะว่า ปีหน้า ใครจะโดนแฉกันอีก...
