เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก gfx.dagbladet.no
ดูเหมือนจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงปีใหม่ของทุก ๆ ปีเลยทีเดียว สำหรับเหตุการณ์สัตว์ตายปริศนาที่พบเห็นได้ในหลายพื้นที่ทั่วโลกในช่วงรอยต่อระหว่างปีเก่ากับปีใหม่แบบนี้ โดยล่าสุด มีรายงานว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอีกครั้งแล้วในนอร์เวย์และสหรัฐฯ เมื่อปลาและนกเกิดพากันตายเกลื่อนไม่ทราบสาเหตุ และยังมีจำนวนมากจนน่าตกใจ ซ้ำรอยปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อปีก่อน
เมื่อวันที่ 2 มกราคมที่ผ่านมา สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า เกิดปรากฎการณ์ปลาเฮอร์ริ่งจำนวนมหาศาลถูกคลื่นซัดมาตายเกลื่อนบนชายหาดเมืองนอร์ไดรซาของนอร์เวย์ ก่อนที่จะหายไปอย่างไร้ร่องรอย ขณะที่รัฐอาร์คันซอส์ของสหรัฐอเมริกา มีนกแบล็กเบิร์ดกว่า 200 ตัวตกลงมาตายเกลื่อนถนนส่งท้ายปีเก่า
รายงานระบุว่า เมื่อวันที่ 31 ธันวาคมที่ผ่านมา ที่ชายหาดควอเนส เมืองนอร์ไดรซา ทางตอนเหนือของประเทศนอร์เวย์ มีปลาเฮอร์ริ่งจำนวนนับแสนนับล้านตัว น้ำหนักรวมกันไม่ต่ำกว่า 20 ตัน ลอยตายมาติดอยู่บนชายหาด สร้างความประหลาดใจให้กับผู้ที่อาศัยอยู่บริเวณนั้นเป็นอย่างมาก ซึ่งหลังจากมีการพบซากปลาเหล่านี้ ก็ได้มีชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ต่างวิตกถึงกลิ่นเหม็นที่จะตามมา และหาวิธีจัดการกับซากปลากันจ้าละหวั่น แต่แล้ววันรุ่งขึ้น ปลาจำนวนมหาศาลเหล่านี้กลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย
จากเหตุการณ์ปลาตายปริศนาดังกล่าวนี้ ทำให้ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันวิจัยทางทะเลของนอร์เวย์ตื่นตัวออกมาค้นหาคำตอบเกี่ยวกับสาเหตุของการตายของฝูงปลาเฮอร์ริงในครั้งนี้ โดยได้มีการเก็บตัวอย่างปลาไปตรวจสอบตั้งแต่วันที่เกิดเหตุแล้ว ซึ่งตอนนี้ก็ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อหาสาเหตุการตายหมู่กันต่อไป แต่เบื้องต้นมีการสันนิษฐานว่า อาจมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศอย่างฉับพลันทำให้ปริมาณออกซิเจนในน้ำเปลี่ยนไปจนปลาเฮอร์ริ่งปรับตัวไม่ทันก็เป็นได้
หรืออีกข้อสันนิษฐานหนึ่งก็คือ อาจเป็นไปได้ว่าฝูงปลาเหล่านี้ตายเพราะพายุรุนแรงที่พัดถล่มนอร์เวย์ในช่วงก่อนหน้านี้ ส่วนเรื่องการหายไปของฝูงปลานับแสนนับล้านตัวในวันรุ่งขึ้นนั้น ทางผู้เชี่ยวชาญสันนิษฐานว่า ซากปลาอาจจะถูกคลื่นซัดกลับลงทะเลไปในช่วงที่ไม่มีใครสังเกตก็เป็นได้
ส่วนที่รัฐอาร์คันซอส์ของสหรัฐ ก็ได้เกิดปรากฎการณ์สัตว์ตายปริศนาเช่นกัน เมื่อนกแบล็คเบิร์ดจำนวนมากกว่า 200 ตัว ได้พากันตกลงมาตายโดยไม่ทราบสาเหตุ ซ้ำรอยปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ของปีก่อนไม่มีผิดเพี้ยน และก็ไม่ต่างจากปีก่อน ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านได้ให้เหตุผลว่า พวกนกเหล่านี้อาจตื่นตระหนกตกใจกับพลุที่ผู้คนจุดเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ จึงพากันช็อคตายและร่วงลงมาสู่พื้นในที่สุด
ทั้งนี้ ข่าวสัตว์ตายปริศนาดังกล่าว ได้ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันไปทั่วโลกอีกครั้ง โดยมุ่งประเด็นไปในเรื่องของวันสิ้นโลกตามปฎิทินของชาวมายัน ซึ่งว่ากันว่า ปรากฎการณ์สัตว์ตายปริศนาเหล่านี้ อาจเป็นสัญญาณที่บอกให้รู้ว่า โลกกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันและคาดไม่ถึง ซึ่งสัตว์เหล่านี้อาจรับรู้ได้และมีความอ่อนแออ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกได้ง่าย จึงทำให้พวกมันตายอย่างที่เป็น
อย่างไรก็ดี แม้ว่าจะเกิดปรากฎการณ์สัตว์ตายจำนวนมากเช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นเมื่อปีก่อน แต่หากเปรียบเทียบจำนวนและความถี่ของปรากฎการณ์นี้แล้ว นับว่าพบเห็นได้น้อยกว่าปีก่อนอย่างเทียบกันไม่ติด เพราะปีก่อนนั้น ปลาและนกตายในช่วงนี้หลายพื้นที่ทั่วโลกจนกลายเป็นข่าวได้ไม่เว้นแต่ละวัน และถึงขั้นมีการตามติดสถานการณ์สัตว์ตายกันอย่างจริงจังไปหลายเดือนกันเลยทีเดียว
