เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก whatsonxiamen.com , majidatmyworkplace.files.wordpress.com
สื่ออิตาลีฟันธงว่า กัปตันเรือคอสต้า คอนคอร์เดีย อาจถูกคุมขังอยู่ในคุกแบบลืมโลกเกือบ 2,500 ปี หลังก่อเหตุทำเรือล่มไปเมื่อเดือนที่แล้ว
เว็บไซต์เทเลกราฟ รายงานวันนี้ (7 กุมภาพันธ์) ว่า นายฟรานเชสโก สเคตติโน่ วัย 52 ปี อาจถูกศาลตัดสินจำคุกนานเกือบ 2,500 ปี โทษฐานทำให้เรือสำราญยักษ์ "คอสต้า คอนคอร์เดีย" ล่มกลางทะเล ทอดทิ้งลูกเรือและทำให้ผู้อื่นเสียชีวิตโดยไม่ได้เจตนา จากเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 มกราคม ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ สื่อในประเทศอิตาลีต่างพากันวิเคราะห์ว่า กัปตันเรือสำราญรายนี้ มีสิทธิ์ถูกตัดสินว่ามีความผิดจริงในข้อหาต่าง ๆ ซึ่งคาดหมายว่าเขาอาจถูกตั้งข้อหาทอดทิ้งลูกเรือ โดยจำคุก 8 ปี ต่อผู้โดยสารหนึ่งคน ซึ่งมีทั้งหมด 300 คน (รวม 2,400 ปี) โทษฐานประมาท เลินเล่อจนทำให้ผู้อื่นเสียชีวิตอีก 15 ปี และอีก 10 ปี ถ้าสอบสวนแล้วพบว่าเขาเป็นต้นเหตุที่ทำให้เรือล่มจริง
ทางด้านอัยการผู้ดูแลคดีนี้ ได้ยื่นเรื่องต่อศาลในเมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี เพื่อนำตัวนายฟรานเชสโก ออกจากบ้านพักที่ถูกกักบริเวณซึ่งเขาอาศัยอยู่กับครอบครัวในเมืองเนเปิ้ล หลังจากก่อเหตุดังกล่าว เพื่อนำไปฝากขังต่อในคุก เพราะเกรงว่าเขาอาจจะหลบหนีหรือมีเหตุอื่น ๆ เข้ามาแทรกแซงในระหว่างรอเข้ารับการไต่สวน ซึ่งทางศาลได้เลื่อนกำหนดการพิจารณาคดีออกไปเป็นวันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้
ทั้งนี้ โศกนาฏกรรมเกิดขึ้นเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยเรือคอสต้า คอนคอร์เดีย ที่มีนายฟรานเชสโก สเคตติโน่ เป็นกัปตันเรือ ได้แล่นออกนอกเส้นทางจนไปชนเข้ากับโขดหิน บริเวณใกล้กับเกาะจิลลิโอ ทางตะวันตกของประเทศอิตาลี ก่อนท้ายที่สุดเรือจะอับปางจมลงสู่ก้นทะเล จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 32 ศพ
[31 มกราคม] 6 ผู้รอดเรืออิตาลีล่มเรียกเสียหาย 1.4 หมื่นล้านบาท
6ผู้รอดเรืออิตาลีล่มเรียกเสียหาย 1.4 หมื่นล้านบาท (ไอเอ็นเอ็น)
ผู้รอดชีวิตจากเหตุเรือสำราญอิตาลี อับปาง 6 คน ร่วมกันฟ้องร้องบริษัทผู้ให้บริการเรือดังกล่าว กล่าวหา ทำการโดยประมาทจนเกิดหายนะและเรียกค่าเสียหาย 460 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ราว 1.4 หมื่นล้านบาท
ผู้โดยสารผู้รอดชีวิต 6 คน จากเหตุเรือสำราญ 'คอสตา คอนคอร์เดีย' ของอิตาลีอับปาง เมื่อหลายสัปดาห์ก่อน ตัดสินใจออกมาฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 460 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.4 หมื่นล้านบาท) จากบริษัทคอร์นิวัล ครูส ไลน์ส บริษัทในเครือของบริษัท คอสตา ครูส ผู้ให้บริการเรือลำดังกล่าว
นายมาร์ค เบิร์น ทนายความของทั้ง 6 คน ระบุว่า เข้าได้ยื่นคำร้องต่อศาลในเมืองไมอามี ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ บริษัทคอร์นิวัล ครูส ไลน์ส ไปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยคำร้องกล่าวหาว่า บริษัทมีความผิดฐานกระทำการโดยประมาท จนนำไปสู่หายนะ เมื่อวันที่ 13 ม.ค. ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 17 ราย และสูญหายอีก 15 คน
ทั้งนี้ บริษัทคอสตา ครูส ทำข้อตกลงกับกลุ่มช่วยเหลือผู้บริโภคชาวอิตาลี ว่า จะจ่ายเงินชดเชยอย่างน้อย 14,400 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4.5 แสนบาท) ให้แก่ ผู้รอดชีวิตจากเหตุเรืออับปางทุกคน รวมถึงเด็กด้วย ซึ่งรวมแล้วบริษัทต้องจ่ายเงินถึง 52 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.61 พันล้านบาท)
ผู้รอดชีวิตจากเหตุเรือสำราญอิตาลี อับปาง 6 คน ร่วมกันฟ้องร้องบริษัทผู้ให้บริการเรือดังกล่าว กล่าวหา ทำการโดยประมาทจนเกิดหายนะและเรียกค่าเสียหาย 460 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ราว 1.4 หมื่นล้านบาท
ผู้โดยสารผู้รอดชีวิต 6 คน จากเหตุเรือสำราญ 'คอสตา คอนคอร์เดีย' ของอิตาลีอับปาง เมื่อหลายสัปดาห์ก่อน ตัดสินใจออกมาฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 460 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.4 หมื่นล้านบาท) จากบริษัทคอร์นิวัล ครูส ไลน์ส บริษัทในเครือของบริษัท คอสตา ครูส ผู้ให้บริการเรือลำดังกล่าว
นายมาร์ค เบิร์น ทนายความของทั้ง 6 คน ระบุว่า เข้าได้ยื่นคำร้องต่อศาลในเมืองไมอามี ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ บริษัทคอร์นิวัล ครูส ไลน์ส ไปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยคำร้องกล่าวหาว่า บริษัทมีความผิดฐานกระทำการโดยประมาท จนนำไปสู่หายนะ เมื่อวันที่ 13 ม.ค. ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 17 ราย และสูญหายอีก 15 คน
ทั้งนี้ บริษัทคอสตา ครูส ทำข้อตกลงกับกลุ่มช่วยเหลือผู้บริโภคชาวอิตาลี ว่า จะจ่ายเงินชดเชยอย่างน้อย 14,400 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4.5 แสนบาท) ให้แก่ ผู้รอดชีวิตจากเหตุเรืออับปางทุกคน รวมถึงเด็กด้วย ซึ่งรวมแล้วบริษัทต้องจ่ายเงินถึง 52 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.61 พันล้านบาท)
[21 มกราคม]อิตาลีประกาศภาวะฉุกเฉิน หลังเรือล่ม หวั่นน้ำมันรั่ว
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3
สมาคมผู้บริโภคฯ เตรียมฟ้องเรียกค่าเสียหายกับเจ้าของเรือสำราญอิตาลีที่ล่มเมื่อสัปดาห์ก่อน ขณะที่บริษัทประกาศชดเชยให้ ด้านรัฐบาลอิตาลีประกาศภาวะฉุกเฉิน หวั่นเรือจมน้ำลึกทำน้ำมันรั่วกระทบสิ่งแวดล้อม
เมื่อวันที่ 21 มกราคม สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าเหตุเรือสำราญคอสตา กอนโกเดีย ของอิตาลีล่มเมื่อสัปดาห์ก่อน จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตถึง 11 คน ว่า ขณะนี้ ทางสมาคมผู้บริโภคของอิตาลี และบริษัทด้านกฎหมาย 2 แห่งของสหรัฐฯ เตรียมยื่นฟ้องบริษัทคอสต้า ครู๊ซ ผู้ดำเนินการเรือสำราญคอสตา คอนคอร์เดีย แล้ว ในฐานะตัวแทนของผู้โดยสาร โดยจะเรียกร้องค่าเสียหายให้ผู้โดยสารรายละ 160,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 4,960,000 บาท
ทั้งนี้ สำนักงานทนายความ โพรเนอร์ แอนด์ โพรเนอร์ ในสหรัฐอเมริกา ระบุว่า มีผู้เสียหายประมาณ 110 คน เตรียมจะฟ้องร้องเรียกค่ารักษาพยาบาล ค่าทรัพย์สินที่สูญเสีย รวมทั้งเงินค่าทำขวัญ ซึ่งบางรายเตรียมจะเรียกค่าเสียหายสูงกว่าจำนวนต่ำสุดถึง 2-3 เท่า
ขณะเดียวกัน ทางบริษัทคอสต้า ครู๊ซ ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจกับเรื่องนี้ โดยพร้อมจะรับผิดชอบทุกกรณี แต่ขอจัดการกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเรียบร้อยก่อน อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทได้ส่งจดหมายแสดงความเสียใจไปยังผู้โดยสารทุกคนแล้ว พร้อมกับให้ผู้โดยสารแจกแจงรายละเอียดค่าเสียหาย และค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ดังกล่าว เพื่อบริษัทจะได้จ่ายค่าชดเชยให้ ซึ่งเบื้องต้น ทุกครอบครัวจะได้รับเงินชดเชยราว 19.6 ล้านบาท และยังได้รับค่ากระเป๋าสัมภาระที่สูญหายในวงเงินตั้งแต่ 110,000-184,000 บาท
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ส่งผลให้เมื่อวานนี้ (20 มกราคม) รัฐบาลอิตาลีได้ประกาศภาวะฉุกเฉินแล้ว เนื่องจากเกรงว่า คลื่นทะเลอาจจะผลักเรือที่จมอยู่เข้าสู่พื้นที่ที่น้ำลึกขึ้น ซึ่งอาจทำให้น้ำมันรั่วไหลลงสู่ท้องทะเลจนกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ ขณะที่คณะผู้เชี่ยวชาญจากเนเธอร์แลนด์ กำลังเตรียมการสูบน้ำมัน 2,400 ตันออกจากถังน้ำมันของเรือแล้ว คาดว่าจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งเดือน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
[20 มกราคม] อาถรรพ์! ผู้โดยสารเรือหรูเผยเรือล่มหลังเปิดเพลงไททานิค
เมื่อวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา เว็บไซต์เดลิเมลของอังกฤษ รายงานว่า ผู้รอดชีวิตจากเหตุเรือกอสตา กอนกอร์เดีย ล่ม เผยเพลงไททานิคถูกเปิดขึ้นก่อนเรือล่ม เชื่อเป็นอาถรรพ์ 100 ปี โศกนาฎกรรมเรือไททานิค
โดยผู้รอดชีวิตรายนี้ คือนายยันนิค สกากา จากสวิตเซอร์แลนด์ ได้เปิดเผยถึงบรรยากาศในเรือกอสตา กอนกอร์เดีย ก่อนจะชนหินโสโครกว่า ก่อนที่เรือจะล่มนั้น เขากำลังทานอาหารมื้อเย็นกับน้องชายภายในเรือ และเพลง My Heart Will Go On ซึ่งเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องไททานิค เมื่อปี 1997 ก็ถูกเปิดขึ้น แต่ยังไม่ทันที่เพลงจะจบ เรือก็ชนหินและจมลงอย่างรวดเร็ว
ยันนิค สกากา ได้บอกเล่าถึงความรู้สึกในวินาทีนั้นว่า "วินาทีที่เรือจมลง บทเพลงนี้ก็ยังดังอยู่ในหัว ขณะที่ภาพจากภาพยนตร์ไททาทิคนั้นก็ดูเหมือนจริงยิ่งกว่าที่ใครจะสามารถจินตนาการได้ ผู้คนถูกเทลงในน้ำอย่างที่ไม่มีใครสามารถยื้อยุดฉุดตัวเองไว้กับอะไรได้"
จากความประจวบเหมาะของเพลง My Heart Will Go On ที่เปิดขึ้นประจวบเหมาะกับช่วงเวลาที่เรือล่ม จึงทำให้เขาเชื่อว่า นี่คงเป็นอาถรรพ์จากไททานิคที่ล่มครบ 100 ปีพอดี
ทั้งนี้ โศกนาฏกรรมเรือไททานิคล่ม ได้เกิดขึ้นเมื่อปี 1912 ขณะที่เรือไททานิคกำลังเดินทางจากเซาธ์แทมตันไปยังนิวยอร์ค แต่แล้วก็ชนเข้ากับภูเขาน้ำแข็ง ทำให้เรือล่มและมีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 1,517 คน และหลังจากนั้นในปี 1997 โศกนาฏกรรมครั้งนี้ก็ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ ที่ทำรายได้สูงและมีชื่อเสียงที่สุดในช่วงนั้นเลยทีเดียว
[19 มกราคม] อิตาลี เตรียมประกาศภาวะฉุกเฉินเหตุเรือสำราญล่ม
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3
รัฐบาลเริ่มการถ่ายน้ำมันออกจากเรือ เกรงน้ำมันรั่วส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เตรียมประกาศภาวะฉุกเฉิน เพื่อป้องกันภัยพิบัติด้านสิ่งแวดล้อมจากเหตุเรือสำราญล่ม
วันนี้ (19 มกราคม) นายคอร์ราโด คลีนี รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมอิตาลี เผยว่า ทางการอิตาลีมีแผนที่จะสูบถ่ายน้ำมันออกจากเรือกอสตา กอนกอร์ดีอา ซึ่งอับปางหลังชนหินโสโครก โดยคาดว่าจะเริ่มงานได้ในอีกไม่กี่ชั่วโมง หากสภาพอากาศเอื้ออำนวย และจะใช้เวลาประมาณ 10 วัน สูบน้ำมันได้หมด ทั้งนี้ มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดภัยพิบัติด้านสิ่งแวดล้อมหากน้ำมัน 2,400 ตันในเรือรั่วไหลออกมา
อย่างไรก็ตาม นายคอร์ราโด ยอมรับว่า รัฐบาลอิตาลีจะประกาศภาวะฉุกเฉินในวันศุกร์หน้า เพื่อให้สามารถบริหารจัดการปฏิบัติการกู้เรือได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากการประกาศภาวะฉุกเฉินจะทำให้รัฐสามารถใช้กองทุนของรัฐ เพื่อป้องกัน หรือ รับมือกับภัยพิบัติด้านสิ่งแวดล้อมได้
ขณะที่ความคืบหน้าในการค้นหาร่างผู้เสียชีวิตนั้น เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องหยุดการค้นหาลงชั่วคราว หลังเรือสำราญเคลื่อนตัวเล็กน้อย ทำให้มีความกังวลว่าอาจไม่ปลอดภัยต่อนักประดาน้ำ ส่วนจำนวนผู้สูญหาย ล่าสุดลดลงเหลือ 21 คน หลังตรวจสอบพบว่า ผู้โดยสารชาวเยอรมันคนหนึ่งที่อยู่ในรายชื่อผู้สูญหาย กลับถึงประเทศอย่างปลอดภัยแล้ว ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตยังคงอยู่ที่ 11 คน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
[18 มกราคม] ตำรวจอิตาลี รวบกัปตันเรือหรู ต้นเหตุเรืออับปาง
ตร.อิตาลีรวบกัปตันเรือหรูล่มนอกทะเล (ไอเอ็นเอ็น)
ตำรวจอิตาลีคุมตัวกัปตันเรือคอสตา คอนคอร์เดียแล้ว โดยกล่าวหาเป็นต้นเหตุที่ทำให้เรือสำราญอับปาง จนผู้โดยสารและลูกเรือกว่า 4,200 คน ต้องอพยพหนีตาย และมีผู้เสียชีวิต 6 ราย สูญหายอีก 16 คน
เจ้าหน้าที่ตำรวจอิตาลีได้ควบคุมตัวกัปตันฟรานเชสโก สเคตติโน วัย 52 ปี ผู้ควบคุมเรือสำราญคอสต้า คอนคอร์เดีย ที่ประสบอุบัติเหตุชนหินโสโครกจนอับปาง บริเวณชายฝั่งใกล้กับเกาะไอโซลา เดล จิลลิโอ ของแคว้นทัสกานี ประเทศอิตาลี เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา พร้อมตั้งข้อหากระทำการโดยประมาทจนทำให้เรือล่ม และทำให้ผู้อื่นถึงแแก่ความตาย รวมถึงสละเรือทั้งที่ลูกเรือและผู้โดยสารยังคงติดอยู่บนเรือด้วย
จากรายงานของยามชายฝั่งของอิตาลี เผยว่า กัปตันสเคตติโนสละเรือและหนีเอาตัวรอดออกมาก่อน ขณะที่ผู้โดยสารคนอื่นยังติดอยู่ในเรือที่ค่อย ๆ เอียง ทั้งยังอ้างว่า เขาปฏิเสธคำขอของเจ้าหน้าที่ที่ขอให้กลับไปช่วยกันอพยพผู้โดยสารด้วย อย่างไรก็ดี นายสเคตติโน ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่า ไม่ควรโทษตัวเขาว่าเป็นผู้ที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ขึ้น เพราะหินโสโครกก้อนดังกล่าว ไม่มีบันทึกในแผนที่เดินเรือ อีกทั้งเขายังพยายามบังคับเรือให้มาล่มใกล้ชายฝั่ง เพื่อง่ายต่อการอพยพด้วย
ขณะเดียวกัน นายปิแอร์ ลุยจิ ฟอสชี ประธานบริษัทคอสตา ครูส ผู้ให้บริการเรือสำราญคอสตา คอนคอร์เดีย กล่าวหานายสเคตติโนว่า บังคับเรือออกนอกเส้นทางที่กำหนดไว้ และเข้าใกล้ชายฝั่งมากเกินไป จนเรือเกยบนเนินทรายใต้ทะเล และชนเข้ากับหินโสโครก ซึ่งในเรื่องนี้ เจ้าหน้าที่จากสำนักงานอัยการอิตาลีได้เข้าตรวจยึดบันทึกการเดินเรือ เพื่อนำไปใช้ประกอบการสืบสวนแล้ว
[16 มกราคม] เรือสำราญอิตาลีล่ม พบแล้ว 5 ศพ สูญหายอีก 15
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3
ความคืบหน้า เหตุเรือสำราญอิตาลีล่ม พบ 5 ศพแล้ว นอกชายฝั่งทางตะวันตกของประเทศ ยังสูญหาย 15 ราย
ความคืบหน้า เรือสำราญ กอสตา กอนกอร์เดีย ระวางขับน้ำ 114,500 ตัน ของบริษัท กอสตาครูส อิตาลี แล่นเกยตื้นแนวหินโสโครก ใกล้เกาะกีกลิโอ แคว้นทัสกานี นอกชายฝั่งทางตะวันตกของประเทศ เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้เรือเอียงจมน้ำครึ่งค่อนลำ และหน่วยกู้ภัยได้เข้าช่วยเหลือ ลำเลียงผู้โดยสารจากบนเรือ ราว 3,200 คน และลูกเรืออีกประมาณ 1,000 คน ลงจากเรือ ล่าสุด หน่วยกู้ภัย พบศพผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 ราย เป็นชายสูงอายุทั้งคู่ ศพติดอยู่ในส่วนที่เป็นห้องโถงของเรือ ซึ่งจมอยู่ใต้น้ำ ทำให้ขณะนี้พบผู้เสียชีวิตแล้ว 5 ราย และยังมีผู้สูญหายอีก 15 คน จำนวนนี้เป็นลูกเรือ 6 คน และผู้โดยสาร 9 คน และในวันเดียวกัน หน่วยกู้ภัย ก็สามารถช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ในเรือได้ปลอดภัย 3 คน เป็นคู่สามีภรรยาชาวเกาหลีใต้ที่เพิ่งแต่งงาน และที่กำลังอยู่ในระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ ส่วนอีกคน เป็นลูกเรือชายชาวอิตาลี