ทุ่มงบ 57 ล้าน บูรณะ-เปิดเข้าชม วัดพระแก้ววังหน้า (ไทยโพสต์)
เผยโบสถ์ "วัดพระแก้ววังหน้า" ทรุดโทรมหนัก กรมศิลปากรทุ่มงบ 57 ล้านบูรณะทั้งหลัง เตรียมเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าชมหลังถูกปิดกั้นมายาวนาน ภายในมีจิตรกรรมฝาผนังเล่าเรื่องตำนานพระพุทธสิหิงค์แห่งเดียวในไทย
นางโสมสุดา ลียะวณิช อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า กรมศิลปากรจะดำเนินการบูรณปฏิสังขรณ์พระอุโบสถวัดบวรสถานสุทธาวาส หรือวัดพระแก้ววังหน้า ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ตั้งของสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ (สบศ.) บริเวณเชิงสะพานพระปิ่นเกล้า ฝั่งกรุงเทพฯ หลังจากตรวจสอบพบว่าพระอุโบสถมีสภาพชำรุดทรุดโทรมมาก หลังจากไม่ได้รับการบูรณะเป็นเวลานานกว่า 10 ปีแล้ว โดยปีนี้กรมศิลปากรได้จัดสรรงบประมาณ 35 ล้านบาท และรัฐบาลสนับสนุนอีก 22 ล้านบาท รวม 57 ล้านบาท เพื่อนำมาบูรณปฏิสังขรณ์ทั้งองค์
อธิบดีกรมศิลปากรกล่าวว่า ในส่วนที่เสื่อมชำรุดมีตั้งแต่หน้าบันพระอุโบสถทั้งสี่ด้าน ลายไม้จำหลัก ลายปิดทองประดับกระจก ช่อฟ้าใบระกาหางหงส์ โดยเฉพาะเนื้อไม้ผุกร่อนทั้งหมด ชั้นทองและชั้นสีหลุดลอก ฝ้าระเบียงประดับลายดาวเพดานหลุดลอก ผนังและเสาปรากฏรอยร้าว มีคราบตะไคร่น้ำเกาะ ขณะที่ชามลายครามประดับซุ้มชำรุดเสียหายไปกว่า 40% บานประตูด้านนอกจำหลักยังชำรุด โดยบริเวณลานภูมิทัศน์รอบพระอุโบสถที่ประดับด้วยต้นไม้ยังมีสภาพไม่สวยงามรกรุงรัง
"การปรับปรุงภูมิทัศน์ลานรอบโบสถ์จะย้ายต้นไม้เล็ก ๆ ออกไปและรักษาต้นไม้ใหญ่ เช่น ต้นแก้ว ต้นลั่นทม และต้นไม้อื่น ๆ มีอายุกว่า 100 ปีไว้ หลังจากบูรณะเสร็จเรียบร้อยแล้วจะมีการเปิดให้ประชาชนได้เข้าชม เพราะที่ผ่านมาพระอุโบสถวัดพระแก้ววังหน้ายังไม่เคยเปิดให้เข้าชม ยกเว้นมีหน่วยงานหรือกลุ่มคณะที่ขออนุญาตเข้ามาเยี่ยมชมเป็นครั้งคราวผ่านทางสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ ซึ่งเก็บกุญแจประตูพระอุโบสถไว้" นางโสมสุดากล่าว
เมื่อการบูรณะเสร็จเรียบร้อยแล้ว กรมศิลปากรจะเปิดให้เข้าชมเหมือนกับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร มีวิทยากรประจำเป็นผู้บรรยายให้ความรู้เรื่องสถานที่ที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 ภายในโบสถ์มีจิตรกรรมฝาหนังที่บอกเล่าตำนานพระพุทธสิหิงค์ อีกทั้งเป็นแหล่งเรียนรู้กรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้นได้เป็นอย่างดี รวมถึงในแง่ของสถาปัตยกรรมในการก่อสร้าง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาด้านนี้โดยตรงมากกว่าที่จะเห็นแค่ภาพในหนังสือเท่านั้น
ทั้งนี้ วัดพระแก้ววังหน้า เป็นวัดในพระราชวังบวรสถานมงคลเช่นเดียวกับวัดพระศรีรัตนศาสดารามภายในพระบรมมหาราชวัง ด้วยเหตุที่เป็นวัดในวังจึงไม่มีพระภิกษุจำพรรษา สร้างขึ้นโดยสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพ ซึ่งเป็นพระมหาอุปราช หรือวังหน้า ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 แต่เสร็จสิ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 และได้รับพระราชทานนามว่า วัดบวรสถานสุทธาวาส
สำหรับภาพจิตรกรรมพระพุทธสิหิงค์ซึ่งมีเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย เล่าเรื่องผสมกันระหว่างตำนานพระพุทธสิหิงค์ฉบับพระโพธิรังสี ซึ่งแสดงเหตุการณ์ตั้งแต่ตอนที่พญานาคเนรมิตกลายเป็นพระพุทธเจ้า จนถึงตอนเจ้ามหาพรหมรบกับพระเจ้าสิริราชบุตร (พระเจ้าแสนเมืองมา)
หลังจากนั้นจึงดำเนินเรื่องตามพระราชพงศาวดาร จนถึงเหตุการณ์เมื่อครั้งสมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาทยกทัพไปรบกับพม่าที่ยึดเมืองเชียงใหม่ แล้วอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์มากรุงเทพฯ
ปัจจุบัน วัดพระแก้ววังหน้าเป็นวัดที่ไม่มีการประกอบสังฆกรรมใด ๆ และถูกใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีไหว้ครู พิธีครอบครู และพิธีมงคลต่าง ๆ ของบรรดานาฏศิลปิน ดุริยางคศิลปิน และกรมศิลปากร
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
