ทำความรู้จักประวัติวอลเลย์บอล กีฬายอดฮิตของกองเชียร์ชาวไทย ที่ปัจจุบันนักตบลูกยางสาวไทยอยู่ในระดับแถวหน้าของโลกไปแล้ว
กีฬาวอลเลย์บอลเป็นอีกหนึ่งชนิดกีฬายอดนิยม ที่มีการแข่งขันระดับชาติ และนิยมเล่นกันอย่างแพร่หลาย จนถูกรวมเข้ากับหลักสูตรการเรียนการสอนชั้นมัธยมศึกษาในหลายโรงเรียน ซึ่งหลายคนก็คงอยากรู้จักกับกีฬาวอลเลย์บอลให้มากขึ้นเพื่อความสนุกในการชมและเชียร์กีฬาชนิดนี้ใช่ไหมเอ่ย ? วันนี้กระปุกดอทคอมมีประวัติกีฬาวอลเลย์บอล และข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับกีฬาชนิดนี้มาฝากกันจ้า ..
ประวัติวอลเลย์บอล
กีฬาวอลเลย์บอล (Volleyball) ถือกำเนิดขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1895 (พ.ศ.2438) โดย นายวิลเลียม จี. มอร์แกน (William G. Morgan) ผู้อำนวยการฝ่ายพลศึกษาของสมาคม Y.M.C.A. (Young Men's Christian Association) ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ต้องการมีกีฬาสำหรับเล่นในช่วงฤดูหนาวแทนกีฬากลางแจ้ง เพื่อออกกำลังกายและพักผ่อนหย่อนใจยามหิมะตก
ต่อมา ชื่อของ มินโทเนตต์ (Mintonette) ถูกเปลี่ยนเป็น วอลเลย์บอล (Volleyball) หลังได้รับคำแนะนำจาก ศาสตราจารย์อัลเฟรด ที. เฮลสเตด (Professor Alfred T. Helstead) ในงานประชุมสัมมนาผู้นำทางพลศึกษา ที่วิทยาลัยสปริงฟิลด์ (Spring-field College) เมื่อปี ค.ศ. 1896 (พ.ศ. 2439) และกลายเป็นกีฬายอดนิยมในหมู่ประชาชนชาวอเมริกัน จนแพร่หลายออกไปทั่วโลก รวมทั้งมีการปรับปรุงและพัฒนาอยู่เป็นระยะ
กติกาวอลเลย์บอล
สนามแข่งขัน
- จะต้องเป็นพื้นไม้หรือพื้นปูนที่มีลักษณะเรียบ ไม่มีสิ่งกีดขวาง
- เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า กว้าง 9 เมตร (29.5 ฟุต) ยาว 18 เมตร (59 ฟุต) แบ่งเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งละ 9x9 เมตร
- มีบริเวณโดยรอบห่างจากสนามประมาณ 3 เมตร แต่หากเป็นสนามมาตรฐานในระดับนานาชาติ กำหนดให้รอบสนามห่างจากสนามประมาณ 5 เมตร ด้านหลังห่าง 8 เมตร และมีความสูง 12.5 เมตร
- เส้นรอบสนาม (Boundary lines) ทุกเส้นจะต้องกว้าง 5 เซนติเมตร เป็นสีอ่อนตัดกับพื้นสนาม มองเห็นได้ชัดเจน
- เส้นแบ่งเขตแดน (Center line) ที่อยู่ตรงกลางสนาม จะต้องอยู่ใต้ตาข่ายหรือตรงกับเสาตาข่ายพอดี
- กว้าง 1 เมตร ขึงอยู่กึ่งกลางสนาม แถบบนตาข่ายกว้าง 7 ซม.
- เส้นรอบสนาม (Boundary lines) ทุกเส้นจะต้องกว้าง 5 เซนติเมตร เป็นสีอ่อนตัดกับพื้นสนาม มองเห็นได้ชัดเจน
- เส้นแบ่งเขตแดน (Center line) ที่อยู่ตรงกลางสนาม จะต้องอยู่ใต้ตาข่ายหรือตรงกับเสาตาข่ายพอดี
ตาข่าย
- กว้าง 1 เมตร ขึงอยู่กึ่งกลางสนาม แถบบนตาข่ายกว้าง 7 ซม.
- สูงจากพื้น 2.43 เมตร (7.97 ฟุต) กว้าง 1 เมตร ยาว 9.5-10 เมตร / ตาข่ายสำหรับทีมหญิงสูง 2.24 เมตร (7.35 ฟุต)
- ตารางในตาข่ายกว้าง 10 เซนติเมตร ผูกติดไว้กับเสากลางสนาม
- เป็นทรงกลม มีเส้นรอบวงประมาณ 65-67 เซนติเมตร น้ำหนัก 260-280 กรัม
- ทำจากหนังสังเคราะห์ที่ยืดหยุ่นได้
- ในการแข่งขันระดับโลกจะใช้ลูกบอล 3 ลูกต่อการแข่งขัน เพื่อความต่อเนื่องหากบอลออกนอกสนาม
- ในทีมจะต้องมีผู้เล่นไม่เกิน 12 คน ผู้ฝึกสอน 1 คน ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน 1 คน เทรนเนอร์ 1 คน และแพทย์ 1 คน
- ตารางในตาข่ายกว้าง 10 เซนติเมตร ผูกติดไว้กับเสากลางสนาม
ลูกวอลเลย์บอล
- เป็นทรงกลม มีเส้นรอบวงประมาณ 65-67 เซนติเมตร น้ำหนัก 260-280 กรัม
- ทำจากหนังสังเคราะห์ที่ยืดหยุ่นได้
- ในการแข่งขันระดับโลกจะใช้ลูกบอล 3 ลูกต่อการแข่งขัน เพื่อความต่อเนื่องหากบอลออกนอกสนาม
ผู้เล่น
- ในทีมจะต้องมีผู้เล่นไม่เกิน 12 คน ผู้ฝึกสอน 1 คน ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน 1 คน เทรนเนอร์ 1 คน และแพทย์ 1 คน
- ผู้เล่นจะลงเล่นในสนามได้ครั้งละ 6 คน โดยแบ่งออกเป็นหน้าตาข่าย 3 คน และด้านหลังอีก 3 คน ประกอบไปด้วย ตัวตั้ง หรือตัวเซต, ตัวบล็อกกลาง, ตัวตีด้านนอก หรือตัวตีหัวเสา, ตัวตีตรงข้าม หรือตัวตีด้านขวา และตัวรับอิสระ หรือ ลิเบโร
- สามารถเปลี่ยนตัวผู้เล่นครั้งละกี่คนก็ได้ โดยผู้เล่นเดิมที่ถูกเปลี่ยนออกสามารถเปลี่ยนกลับมาเล่นในสนามได้อีก
- การแต่งกายในชุดแข่งขัน ต้องแต่งกายเหมือนกันทั้งทีม ประกอบไปด้วย เสื้อสวมคอ กางเกงขาสั้น ถุงเท้า และรองเท้าผ้าใบพื้นยางที่ไม่มีส้น โดยผู้เล่นแต่ละคนจะต้องติดหมายเลขกำกับไว้ที่เสื้อ กำหนดให้ใช้เลข 1-18 เท่านั้น สำหรับหัวหน้าทีมจะต้องมีแถบผ้าขนาด 8x2 เซนติเมตร ติดอยู่ใต้หมายเลขบริเวณอกเสื้อด้วย
วิธีการเล่นวอลเลย์บอล
- การเสิร์ฟจะต้องรอฟังสัญญาณนกหวีดก่อน และให้เริ่มเสิร์ฟลูกบอลภายใน 5 วินาที
- ทีมที่ได้คะแนนจะเป็นผู้ได้เสิร์ฟ จนกว่าจะเสียคะแนนให้ฝ่ายตรงข้ามจึงจะเปลี่ยนเสิร์ฟ
- เมื่อลูกเข้ามาในเขตแดนของทีมจะสามารถเล่นบอลได้มากที่สุด 3 ครั้งเท่านั้น
- สามารถบล็อกลูกบอลจากฝ่ายตรงข้ามที่หน้าตาข่ายได้ แต่หากผู้เล่นล้ำเข้าไปในแดนของฝ่ายตรงข้ามจะถือว่าฟาวล์
- สามารถขอเวลานอกได้ 2 ครั้ง ต่อ 1 เซต ให้เวลาครั้งละ 30 วินาที
- ทุกครั้งที่แข่งขันจบ 1 เซต จะต้องมีการเปลี่ยนฝั่ง
การคิดคะแนน
- หากทีมไหนได้คะแนนครบ 25 คะแนนก่อนก็จะเป็นผู้ชนะในเซตนั้นไป แต่หากคะแนนเสมอกันที่ 24-24 จะต้องมีการดิวซ์ (Deuce) หมายถึงต้องทำคะแนนให้มากกว่าอีกฝ่าย 2 คะแนน ถึงจะเป็นผู้ชนะ เช่น 26-24 หรือ 27-25 เป็นต้น
- ต้องแข่งขันกันให้ชนะ 3 ใน 5 เซต จึงจะเป็นผู้ชนะในเกมนั้น
- ในรายการแข่งขันวอลเลย์บอลระดับลีกหรือทัวร์นาเมนต์ จะมีการคิดคะแนนจากผลการแข่งขันในแต่ละนัดเพื่อตัดสินทีมที่อันดับดีที่สุด โดยคิดคะแนนดังนี้
- ชนะ 3-0 เซต หรือ 3-1 เซต ได้ 3 คะแนน
- ชนะ 3-2 เซต ได้ 2 คะแนน
- แพ้ 2-3 เซต ได้ 1 คะแนน
- แพ้ 0-3 เซต หรือ 1-3 เซต ไม่ได้คะแนน
และนี่คือข้อมูลคร่าว ๆ ของกีฬาวอลเลย์บอล เมื่อรู้จักกีฬาชนิดนี้กันแล้วก็อย่าลืมทำความเข้าใจกติกามารยาทในการแข่งขัน และเล่นกีฬากันอย่างมีน้ำใจนักกีฬากันด้วย
บทความที่เกี่ยวกับวอลเลย์บอล
- 10 ประโยชน์ของการเล่นวอลเลย์บอล ไม่ต้องเก่งเท่าทีมชาติ ก็ได้สุขภาพดีไม่แพ้ใคร