เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอยคุณภาพประกอบจาก Youtube.com โดย LadyBimbettes
ดนตรีนอกจากจะเป็นเครื่องขับกล่อมให้ความบันเทิงแล้ว ยังเป็นสิ่งบำบัดความทุกข์ได้อีกด้วย "รายการชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร" (22 พฤษภาคม) ทางช่อง ThaiPBS จึงขอเป็นตัวแทนไปพูดคุยกับคนรักดนตรีอย่าง ครูดุษฎี (พนมยงค์) บุญทัศนกุล ถึงการใช้ชีวิตไปพร้อม ๆ กับดนตรีและศิลปะ หลังจากต้องเผชิญมรสุมร้ายที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ..
ดุษฎี (พนมยงค์) บุญทัศนกุล อายุ 73 ปี เป็นทายาทในลำดับที่ 5 ของ นายปรีดี พนมยงค์ บุคคลสำคัญทางการเมืองผู้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองมาเป็นระบอบประชาธิปไตย กับ ท่านผู้หญิงพูนศุข พนมยงค์ (ณ ป้อมเพชร์) ที่ต้องผ่านมรสุมร้ายมาตั้งแต่ครั้งยังเยาว์วัย
หลังจากที่บิดาของครูดุษฎีถูกรัฐประหาร ครอบครัวก็ต้องเผชิญกับมรสุมแรกในชีวิต ที่ถูกสาดกระสุนเข้าใส่บ้านพักซึ่งขณะนั้นมีแต่มารดาและลูกอีก 6 คน เคราะห์ดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ แต่เมื่อบิดาลี้ภัยไปต่างประเทศ ครูดุษฎีก็ต้องอยู่เพียงลำพังกับแม่และพี่ ๆ น้อง ๆ อย่างไร้หัวหน้าครอบครัว ทั้งยังต้องเผชิญมรสุมร้ายอีกครั้ง เมื่อท่านผู้หญิงพูนศุข พนมยงค์ แม่ผู้เป็นที่พึ่งเดียวในตอนนั้น ถูกจับกุมตัวแทนสามี และต้องอยู่ในห้องขังนานถึง 84 วัน ทำให้ครูดุษฎีต้องไปอยู่โรงเรียนประจำเนื่องจากไม่มีคนดูแล
ความทรงจำจาง ๆ ถึงเรื่องราวไม่คาดคิดที่เกิดขึ้นในวัยเยาว์ ทำให้ครูดุษฎีมองเห็นคุณแม่เป็นแบบอย่างในการใช้ชีวิต ทั้งในเรื่องของความเข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว ที่สามารถเป็นหัวหน้าครอบครัวและยืนหยัดเลี้ยงลูก 6 คน มาได้เพียงลำพัง แม้แต่เรื่องศิลปะและดนตรีครูดุษฎีท่านก็ได้ความชื่นชอบนี้มาจากคุณแม่เหมือนกัน ปัจจุบันนอกจากครูดุษฎี จะเป็นนักวิชาการ เป็นอาจารย์ และผู้บุกเบิกการสอนร้องเพลงคลาสสิกแล้ว ครูยังมีงานอดิเรกเป็นการเขียนหนังสือ และเป็นวิทยากรพิเศษเพื่อช่วยเหลือสังคมอีกด้วย
"การเมืองไทยนี่มันสกปรก คนดีก็กลายเป็นคนไม่ดีได้ คนไม่ดีก็กลายเป็นคนดีได้ เพราะการใส่ร้ายป้ายสี หรือสรรเสริญเยินยอ โฆษณาชวนเชื่อ" นี่คือเหตุผลง่าย ๆ ที่ทำให้ครูดุษฎี ไม่ได้แวะเวียนเข้าเกี่ยวข้องกับวงการการเมือง แม้ว่าจะเป็นทายาทของบุคคลสำคัญทางการเมือง เพราะครูดุษฎีบอกว่าครอบครัวพนมยงค์ได้รับบทเรียนมามากพอแล้ว
ครูดุษฎี ทุ่มเทชีวิตในแต่ละวันไปกับการทำงานเพื่อสังคมอย่างไม่หยุดนิ่ง วงดนตรีประสานเสียงสวนพลู ก็คืออีกหนึ่งผลผลิตก่อตัวขึ้นจากความรักในเสียงเพลงของครูดุษฎีและลูกศิษย์กว่า 40 คน ซึ่งพวกเขากำลังเตรียมตัวไปแข่งขันการประกวดการแสดงประสานเสียงระดับโลกอย่าง World Choir Games 2012 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา แม้ว่าการพาลูกศิษย์ทั้ง 40 กว่าชีวิตขึ้นเครื่องบินไปแข่งขันในครั้งนี้ จะต้องมีค่าตั๋วเครื่องบินประมาณ 3.5 ล้านบาท แต่ครูดุษฎีก็ยืนยันว่าจะพยายามหาเงินมาพาลูกศิษย์ไปแข่งขันให้ได้ แม้จะต้องกู้เงินมาก็ยอม
ความรักในเสียงดนตรีถูกสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น ไปยังลูกชายคนเดียวของครูดุษฎี ดนย บุญทัศนกุล วัย 33 ปี ที่แม้จะแยกครอบครัวไปแล้ว แต่ทุกสัปดาห์แม่ลูกคู่นี้ ก็จะมีกิจกรรมทางดนตรีร่วมกันอยู่เสมอ แสดงให้เห็นถึงสายเลือดแห่งศิลปะที่สืบทอดส่งต่อกันไป แม้ว่าครอบครัวพนมยงค์จะแยกย้ายกันไปมีชีวิตของตนเองแต่ก็ไม่เคยขาดการติดต่อจากกัน เมื่อถึงวันครบรอบต่าง ๆ ก็มักจะรวมตัวกันทำบุญระลึกถึงบิดามารดาอย่างสมถะและเรียบง่าย โดยมีแต่ญาติสนิทเท่านั้น
แม้ว่าชื่อของคนในครอบครัวพนมยงค์ จะต้องถูกจารึกลงในประวัติศาสตร์ แต่ครูดุษฎีก็ขอเป็นเพียงแค่ผู้ให้คนหนึ่ง ที่อยู่ในมุมสงบเงียบของตนเท่านั้น การได้รู้จักตัวตนของครูดุษฎีในครั้งนี้ คงเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่า ชื่อเสียงลาภยศใด ๆ ไม่ใช่สิ่งที่หญิงชราคนนี้ใฝ่ฝัน หากแต่เป็นเพียงความสุขเล็ก ๆ จากเสียงดนตรีและการให้เท่านั้น ที่ทำให้ทุกลมหายใจของท่านมีความหมาย ..
