ล้วงเคล็ดลับธุรกิจ จาก ต๊อบ เถ้าแก่น้อยพันล้าน

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ DuangAesthetic สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม, รายการวู้ดดี้เกิดมาคุย

            ไม่น่าเชื่อว่าจากเด็กหนุ่มที่ติดเกมออนไลน์ เรียนหนังสือก็ไม่เก่ง แถมยังเคยถูกประณามว่าไม่เอาไหนเมื่อสิบกว่าปีก่อน มาวันนี้ เด็กหนุ่มคนนั้น "ต๊อบ อิทธิพัทธ์ กุลพงษ์วณิชย์" ได้กลายเป็นมหาเศรษฐีที่ใคร ๆ ก็รู้จัก ในฐานะเจ้าของแบรนด์ "เถ้าแก่น้อย" และคำ ๆ นี้ ก็แสดงถึงตัวเขาได้อย่างดี

            เชื่อว่าแฟน ๆ รายการวู้ดดี้เกิดมาคุย คงคุ้น ๆ ว่า ต๊อบ เคยให้สัมภาษณ์ในรายการวู้ดดี้เกิดมาคุย มาแล้วเมื่อ 4 ปีก่อน แต่ครั้งนั้นไม่เหมือนครั้งนี้ เพราะปัจจุบัน "ต๊อบ" เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น โดยเฉพาะหลังจากเรื่องราวชีวิตที่น่าสนใจของเขาถูกถ่ายทอดผ่านภาพยนตร์ "TOP SECRET วัยรุ่นพันล้าน" ...จากวันนั้นถึงวันนี้ มีหลาย ๆ สิ่งในชีวิตของ "ต๊อบ" เปลี่ยนไป วู้ดดี้เกิดมาคุย จึงขอนัด "ต๊อบ" มาล้วงความลับอีกครั้ง โดยครั้งนี้บินลัดฟ้ามาถึงเมืองฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมนี เลยทีเดียว ว่าแต่ทำไมถึงต้องมาไกลขนาดนี้ ไปติดตามกัน...
 

            เริ่มต้นบทสนทนา วู้ดดี้ ยิงคำถามทันทีว่า ชีวิตทุกวันนี้ของ "เถ้าแก่น้อยพันล้าน" เปลี่ยนไปบ้างหรือไม่ "ต๊อบ" บอกว่า ไม่เปลี่ยน เขายังตื่นเช้าเหมือนเดิม เพื่อจะได้มาทำงานที่เรารักในทุก ๆ วัน และปัจจุบันกิจการของเขาก็กำลังไปได้ดี เพราะจนถึงขณะนี้ ผลิตภัณฑ์ของเขาส่งออกไปกว่า 30 ประเทศแล้ว

            ต๊อบ บอกว่า ทุกวันนี้เขาใช้ชีวิตเหมือนเล่นเกม และเกมก็ยากขึ้นทุก ๆ วัน ต้องระวังมากขึ้น เพราะต้องคอยดูแลพนักงานกว่า 2 พันชีวิต แม้การทำอะไรก็ตามจะเสี่ยง แต่เขาชอบคำพูดหนึ่งที่บอกว่า "การที่คุณไม่ทำอะไรเสี่ยงเลย นั่นคือความเสี่ยงมากที่สุด" เพราะฉะนั้น ถ้ามีอะไรที่เขาไม่รู้เกี่ยวกับการทำธุรกิจ เขาก็จะถามเลย เพราะการถามเป็นสิ่งที่มีต้นทุนต่ำที่สุด ไม่สนว่าใครจะคิดว่าโง่ หรือฉลาด


            คุยกันไปได้สักพัก วู้ดดี้ เกิดความสงสัยว่า ทำไมถึงต้องมาเจอกันที่เมืองฮัมบูร์ก งานนี้ หนุ่มต๊อบยังไม่บอก แต่แย้มให้ฟังว่า มันเป็นความลับที่หากได้รู้แล้วต้องร้องว้าว! แน่นอน ก็เลยขอท้าให้วู้ดดี้เล่นเกมกับเขา ถ้าวู้ดดี้ชนะ 2 ใน 3 เกม เขาจึงจะยอมเปิดเผยความลับที่ไม่เคยมีใครรู้ทั้งหมดให้ฟัง แต่หากเขาชนะวู้ดดี้ ตัวพิธีกรเองก็ต้องเผยความลับที่ไม่มีใครรู้ให้ผู้ชมรู้ด้วย (ซะงั้น) เอ้า! มีการท้าทายกันแบบนี้ก็ชักสนุกแล้วสิ วู้ดดี้ ก็ไม่รอช้าขอรับคำท้าทันที

            จากนั้น "ต๊อบ" ก็พาวู้ดดี้ไปแข่งขันเกมแรกคือ แข่งกินไส้กรอก 10 ชิ้น แต่ละคนงัดเอาไม้ตายมาแกล้งอีกฝ่ายกันสุดฤทธิ์ จนในที่สุด "วู้ดดี้" ก็ชนะ พร้อมกับเปรียบเปรยการแข่งกินไส้กรอกกับการทำธุรกิจ ให้ฟังแบบคม ๆ ว่า เวลาที่เขาแข่งขันอะไรกับใครก็ตาม เขาจะไม่รีบร้อน เพราะรีบไปเดี๋ยวก็สำลัก ดังนั้น เขาต้องมีสติ ต้องดูรายละเอียดมาก ๆ ในการดูคู่แข่งและดูตัวเองว่ากำลังทำอะไรอยู่ จะได้รู้จังหวะของตัวเอง



            ขณะที่ "ต๊อบ" ก็เล่าบ้างว่า เวลาที่เขาแข่งขันอะไรจะดูเรื่องความเร็วและแรงเป็นหลัก เปรียบเป็นก้อนหิน ถ้าปาไปก็ต้องมีอะไรแตกสักอย่าง ไม่เช่นนั้นก็แสดงว่าปาไม่โดน ก็ต้องปาไปเรื่อย ๆ แต่ถ้าโดนแล้ว ก็ต้องแตก...

            อ๊ะ...แม้จะเป็นการแข่งขัน แต่ก็แฝงแนวคิดทางธุรกิจแบบคม ๆ ไว้ด้วย ว่าแล้วก็ไปดูเกมที่สองกันดีกว่า รอบนี้ "เถ้าแก่น้อยพันล้าน" พาวู้ดดี้เที่ยวรอบเมืองฮัมบูร์ก ก่อนจะท้า "วู้ดดี้" ไปแข่งขายปลาในตลาด ภายใน 5 นาที... ดูเหมือนว่าเกมนี้จะเข้าทาง "ต๊อบ" มากกว่า เพราะ "ต๊อบ" เอาชนะไปได้อย่างง่ายดาย พร้อมกับเผยเคล็ดลับที่สามารถขายปลาชนะวู้ดดี้ด้วยว่า

            "หลักการค้าสิ่งที่สำคัญอยู่อย่างหนึ่งก็คือ ทำเล และนอกจากทำเลแล้ว ร้านที่เขาเลือกไปยืนขายปลาด้วยนั้นมีความโดดเด่นก็คือ พ่อค้าในร้านเป็นเอกลักษณ์ เหมือนมาสคอตที่เป็นแรงดึงดูดให้คนเข้าร้านได้" ต๊อบ เผย

            งานนี้ วู้ดดี้ ขอถามปนเถียงเล็ก ๆ ว่า เขาเองก็เลือกทำเลร้านเหมือนกันนะ เพราะร้านที่เขาเลือกไปยืนช่วยขายปลาเป็นร้านที่ตั้งอยู่ตรงแยกพอดี ก็น่าจะมีคนเดินผ่านสิ แต่ร้านของ "ต๊อบ" อยู่ในแนวเดียวกับร้านอื่น ๆ ที่มีเป็นร้อยร้าน แล้วทำไมถึงไม่เวิร์กล่ะ?

            ต๊อบ ฟังคำถามเสร็จก็ตอบทันทีว่า ร้านของเขาอยู่เรียงรายท่ามกลางร้านอื่น ๆ ก็จริง แต่นี่คือถนนหลักของตลาดปลา ดังนั้น คนที่มาซื้อปลาในตลาดแห่งนี้ จะต้องเดินผ่านถนนเส้นนี้ก่อน หากอ้อมไปทางอื่นก่อนก็จะเสียเวลานั่นเอง


            สรุปแล้วว่า รอบนี้ "วู้ดดี้" แพ้ สองเกมเสมอกัน 1 ต่อ 1 ต้องไปตัดสินกันในเกมสุดท้าย แต่ก่อนจะไปแข่งขันกัน "วู้ดดี้" ขอคุยเรื่องราวชีวิตของ "ต๊อบ" สักนิดนึง เพราะ "ต๊อบ" เคยบอกว่า การที่มี "โอกาส" กับ "โชค" เข้ามาหาเขา ทำให้เขาประสบความสำเร็จ ซึ่ง "ต๊อบ" ก็บอกว่า จริง เพราะก่อนที่โชคจะเข้ามาหาเขา โอกาสมันเข้ามาก่อน

            "ยกตัวอย่าง ถ้าเห็นเงินตกอยู่ที่พื้นหนึ่งพันบาท แล้วเราไม่ก้มลงไปหยิบ มันจะลอยมาเข้าหากระเป๋าเราไหม นั่นคือเราเห็นโอกาส อยู่ที่ว่าเราจะหยิบไหม ถ้าหยิบ ก็ต้องเหนื่อยหน่อย ต้องก้มลงไป" ต๊อบ เปรียบเทียบให้ฟังอย่างน่าคิด

            จากคำตอบของ "ต๊อบ" ทำให้วู้ดดี้แย้งว่า ที่ "ต๊อบ" มีได้ทุกวันนี้น่าจะเป็นเพราะเขาผลักดันตัวเองมากกว่า แต่เถ้าแก่น้อยกลับบอกว่า รู้ไหมว่าที่เขาประสบความสำเร็จได้ทุกวันนี้ เป็นเพราะผู้หญิง คนแรกก็คือ คุณแม่ที่คอยให้กำลังใจเขามาตลอดเวลา ไม่ว่าจะเจอปัญหาอะไรก็ตามนั่นเอง ที่ผ่านมาคุณแม่ทำให้เขาออกมาจากความกลัว เขาเริ่มทำธุรกิจได้ ก็เพราะสามารถเปลี่ยนความกลัวเป็นความกล้าได้

            "ทุกวันนี้ ผมจะเตือนตัวเองเสมอว่าผมไม่อยากเห็นน้ำตาของคุณแม่ ส่วนคนที่สองก็คือ พี่สาว ที่คอยช่วยเหลือทุกเรื่อง ส่วนแฟนคนปัจจุบัน ก็เป็นกำลังใจให้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะไปไหนมาไหน เขาจะส่งกำลังใจให้ผมตลอด" ต๊อบ เผยความลับ


            วันรุ่งขึ้น ทั้งสองคนเดินทางมายังทะเลสาบใจกลางเมืองฮัมบูร์ก ซึ่งเป็นเวทีท้าดวลในเกมสุดท้าย หนุ่มต๊อบ ขอท้าวู้ดดี้ ให้พายเรือแข่งกัน...แม้ในตอนแรก วู้ดดี้ จะดูเพลี่ยงพล้ำไปบ้าง เพราะไม่ถนัดพายเรือ แต่สุดท้าย เจ้าตัวก็เอาชนะหนุ่มต๊อบได้สำเร็จ

            ต๊อบ บอกว่า เขาเพิ่งจะเคยพายเรือแบบถอยหลังอย่างนี้เป็นครั้งแรก เพราะเคยพายแต่เรือคายัคที่พายไปข้างหน้า แต่เห็นว่า เรือแบบนี้น่าจะพายได้ไม่ยากจึงท้าวู้ดดี้แข่งด้วย

            พูดมาแบบนี้ วู้ดดี้ เลยขอเบรกถามกลับไปว่า ต๊อบ เคยเจอเหตุการณ์อะไรที่เหมือนจะยอมแพ้ แต่ก็ไม่ยอมแพ้บ้างไหม เจ้าตัวบอกว่า เคย แต่เขาก็ต้องสู้จนจบ เหมือนกับพายเรือก็ต้องพายต่อไปให้จบ จะได้-ไม่ได้ ไม่รู้ แล้วค่อยมานั่งทบทวนกันดูอีกที

            วู้ดดี้ ถามต่อว่า ต๊อบ ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจตั้งแต่อายุแค่ 20 กว่า ๆ ถ้างั้นสุดท้ายแล้ว "เงิน" คือทุกอย่างหรือไม่ ต๊อบ บอกว่า สำหรับเขา เงินไม่ใช่ทุกอย่าง แต่เงินก็สำคัญ

            "การที่เราหาเงินมา ก็เพื่อจะสร้างอะไรสักอย่างที่มันดีต่อผู้คน เงินเป็นแค่สิ่งที่เอามาสร้าง แต่ไม่ใช่ทุกอย่างในชีวิต ความสุขมันคือเวลา บางทีเรามีชีวิตที่ดีขึ้น แต่กลายเป็นเวลาเราน้อยลง เหมือนตอนที่เขายังเป็นเด็ก กำลังจะเริ่มทำธุรกิจ ตอนนั้น ชีวิตผมว่างมาก มีเวลาเหลือเฟือ แต่ไม่มีเงิน แต่ทุกวันนี้ โอเค ผมพอมีเงิน แต่เวลาผมน้อยลง สิ่งที่ผมต้องการที่สุดคือ เวลาที่ใช้ชีวิตกับครอบครัว กับคนที่เรารัก ตอนนี้ผมเริ่มเห็นคุณค่าตรงนี้มาก" วัยรุ่นพันล้าน เผยความในใจ


            ถ้าให้ "ต๊อบ" ฝากบอกถึงนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่กำลังจะสร้างตัว อยากจะบอกอะไรบ้าง ต๊อบ บอกว่า "ถ้าเรายังอายุ 20 ต้น ๆ ก็อย่าไปหมกมุ่นกับเรื่องเงินในบัญชีมาก น่าจะเอาเวลาไปลงทุนกับประสบการณ์ชีวิตมากกว่า ลองทำผิด ทำถูกดู เพราะถ้าเราเคยพลาดตั้งแต่อายุ 20 ต้น ๆ ถึงตอนอายุ 30 40 มันจะพลาดยากแล้ว ทุกอย่างที่ทำต้องทำอย่างเต็มที่ และลงลึก"

            คุยกันได้สักพัก ก็ขอสรุปการแข่งขันสักหน่อยว่า แข่งจบ 3 เกมแล้ว สุดท้าย วู้ดดี้ ก็เอาชนะไปได้ (อิอิ) หนุ่มต๊อบก็เลยต้องยอมยกธงขาว และยินยอมเปิดเผยความลับเรื่องธุรกิจใหม่ในฮัมบูร์กที่เขาไม่เคยบอกใครให้ฟัง โดยต๊อบพา วู้ดดี้ ไปห้องทดลองที่กำลังทดลองเรื่องวิตามินอยู่ และยังพาเข้าไปดูโรงงานด้วย แต่คุยไปคุยมา ต๊อบ ก็บอกว่า ที่โรงงานแห่งนี้ยังไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ของเขา ทำเอาวู้ดดี้งงที่เจ้าตัวยังอุบเงียบไม่บอกสักที

            หุหุ งานนี้ วู้ดดี้คงต้องขอกลับเมืองไทยไปคิดก่อนแล้วกันนะ แต่อย่างน้อยมาฮัมบูร์กคราวนี้ก็ไม่เสียเที่ยว เพราะ วู้ดดี้ สามารถล้วงเคล็ดลับเด็ด ๆ ในการทำธุรกิจของวัยรุ่นพันล้านคนนี้มาได้ เชื่อว่าน่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้นักธุรกิจรุ่นใหม่ที่กำลังมองหาแนวทางของตัวเองอยู่ได้แน่นอน